xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายพลังงานฯ จี้ คสช.ยอมให้จัดสัมมนา แฉถูกทหารสั่งห้ามแต่กลับปล่อย ปตท.โฆษณาถี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี (ภาพจากแฟ้ม)
เครือข่ายพลังงานฯ ยื่นหนังสือ คสช. ให้อนุญาตภาคประชาชนจัดงานสัมมนาที่โคราช แฉถูกทหารสั่งห้าม มีตำรวจมาบุกรุกสถานที่ แต่กลับปล่อย ก.พลังงาน - ปตท. โฆษณาถี่ยิบ เผยพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) ยื่นหนังสืออีกรอบให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีพิจารณา

วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริเวณด้านหน้าเวทีมวยราชดำเนิน ถ.ราชดำเนิน ฝั่งตรงข้ามกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ สภาธรรมาภิบาล สภาปฎิรูปพลังงานไทย นำโดย พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

พ.ท.พญ.กมลพรรณ กล่าวว่า เรื่องการเปิดสัมปทานครั้งที่ 21 รัฐบาลได้ปล่อยให้กระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท. จำกัด ใช้เงินซื้อโฆษณา ทุกครึ่งชั่วโมงในการออกมาให้ข้อมูลเเรื่องพลังงานและการเปิดสัมปทาน ในทางกลับกันทางกลุ่มประชาชนหรือหน่วยงานจะจัดสัมมนาให้ข้อมูลกลับห้ามปราม ก่อกวนปิดกั้น เช่น ตำรวจไปบุกรุกสถานที่จะจัดการประชุม ทหารสั่งห้ามจัดสัมมนา ในวันที่ 16 ธันวาคม 2557 ที่ จังหวัดนครราชสีมา

พ.ท.พญ.กมลพรรณ กล่าวอีกว่า การที่ประชาชนจะจัดเสวนาเรื่องการสัมปทานพลังงานที่โคราช เพื่อให้ประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลอีกด้าน แต่กลับถูกห้ามจัด แต่ปล่อยให้กระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด หรือเครือข่ายนักวิชาการฝากกลุ่มทุนหรือพวกเดียวกัน พูดหรือโฆษณา จริงครึ่งเดียว ปกปิด หมกเม็ดซ่อนเร้น ในสื่อต่างๆ ทุกครึ่งชั่วโมง หมายความว่าอย่างไร รัฐหรือนายกฯมีเป้าหมาย หรือเจตนาใด ไม่ใช่ให้ประชาชนได้รับข้อมูลจากสื่อโฆษณาจากรัฐฝ่ายเดียวท่านควรเปิดให้ประชาชนได้รับข้อมูลทั้ง 2 ด้าน ประชาชนจะได้ทราบเพื่อคิดวิเคราะห์โดยตนเองว่าข้อมูลฝ่ายไหน เชื่อถือได้ ซึ่งทางประชาชนอยากได้ความจริงและอยากได้ข้อมูลเรื่อง พลังงานเพื่อนำมาคิดวิเคราะห์

“ขอความกรุณาให้มีการจัดเสวนาเรื่องสัมปทานโดยกลุ่มประชาชนเช่นที่โคราชจะจัดในวันที่ 16 ธันวาคม หรือในสถานที่ต่างๆ ที่ประชาชนจัดกิจกรรมรัฐบาลต้องแยกแยะให้ถูกต้อง ไม่ใช่แอบใช้กฎอัยการศึกเพื่อแอบแฝงซ่อนเร้น สนองกลุ่มทุน ผู้ปฏิบัติไม่ควรนำกฎอัยการศึก มาปฏิบัติเป็นข้ออ้างในการห้ามการแสดงออกทางความคิดของประชาชน ถ้าท่านคิดว่าจะทำเพื่อประชาชนด้วยใจบริสุทธิ์เพราะกลุ่มประชาชนก็ จัดทำการเสวนาครั้งนี้ และกิจกรรมอื่นๆ ด้วยใจบริสุทธิ์ เพื่อชาติบ้านเมืองเช่นกัน”

ทั้งนี้ น.ส สมนึก คำผ่อง จะเดินทางมายื่นหนังสือรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องดังกล่าวให้ทางเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 9.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. 2557 เพื่อขอให้ทาง คสช. พิจารณา และสั่งการให้อนุญาตมีการจัดเสวนาที่โคราชด้วยและสถานที่ต่างๆ

ฉบับเต็ม

เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ สภาธรรมภิบาล สภาปฏิรูปพลังงานไทย

วันที่8 ธันวาคม 2557

เรื่อง ขอทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนโยบายของรัฐ และขอมีส่วนร่วม

กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และ ประธาน คสช. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เนื่องจากเครือข่ายภาคประชาชนที่รักและห่วงใยบ้านเมืองได้ติดตามแนวนโยบายของรัฐ และสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลในการที่จะทำให้เกิดความสงบสุขและกวาดล้างทำความสะอาดประเทศ และได้ติดตามแนวนโยบายของ ฯพณฯ ในการที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผนอนาคตของบ้านเมืองทุกด้าน ทั้งด้านปฏิรูป และ การร่างรัฐธรรมนูญ

พวกเราเครือข่ายภาคประชาชนได้ต่อสู้เพื่อให้ประเทศชาติประชาชนมีความกินดีอยู่ดี มีความสงบสุข ไม่ถูกกระทำจากอำนาจรัฐที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม ขาดความรักความเมตตาธรรมเพื่อนร่วมชาติ แต่พยายามอ้างเหตุและสร้างกุศโลบายเพื่อเบียดเบียนทรัพย์ของประชาชน เพื่อสร้างความร่ำรวยให้แก่กลุ่มเครือข่ายตนเอง และ พวกพ้อง โดยอาศัยทุนรัฐมาก เครือข่ายมาก อำนาจรัฐมาก สื่อรัฐมากปกปิดซ่อนเร้น หรือเปิดเผยข้อเท็จ จริงเพียงครึ่งเดียวเพื่อหวังผลประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง

พวกเราภาคประชาชนที่มีจิตบริสุทธิ์รักชาติบ้านเมือง ห่วงใยพี่น้องไทย และอนาคตของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ได้กำหนดแนวทางกิจกรรมหลายอย่าง รวมทั้งการประชุมเพื่อระดมสมองแล้วสรุปข้อคิดเห็น และ ให้ข้อมูลประชาชนที่ถูกต้องเพื่อมิให้การวางแนวนโยบายผิดพลาด และผลประโยชน์ตกแก่กลุ่มทุน กลุ่มขั้ว อำนาจใดๆ และเพื่อสนับสนุน การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ในเรื่องการปฏิรูปบ้านเมือง และการร่างรัฐธรรมนูญ และการกำหนดนโยบายพลังงานชาติ โดยมิได้ประชุมกันเพื่อสร้างความแตกแยกให้กับคนในชาติ (แต่อาจจะแตกแยกกับพวกคิดมิชอบกับบ้านเมือง) สอดคล้องกับแนวนโยบายของ ฯพณฯ นายกฯ ที่ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในรูปแบบต่างๆ และช่วยให้เป้าหมายของรัฐบาลสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนใดๆหรือกลุ่มที่หวังจะสืบทอดอำนาจ ผลประโยชน์แก่ตนเอง และ พวกพ้องกลุ่มใด

จะกราบเรียนให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ทราบว่า ปัจจุบันประชาชนที่รักชาติบ้านเมืองด้วยหัวใจบริสุทธิ์ กำลังถูกคุกคามจากอำนาจรัฐ ตำรวจ ทหาร โดยใช้กฎอัยการศึก เช่น อยู่ๆ ทหารก็บุกรุกที่บ้านแกนนำประชาชน เช่น บ้านคุณบุญยืน ศิริธรรม หรือไปที่หมู่บ้านของ พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี หรือการเข้าไปของตำรวจในสถานที่ที่จะจัดระดมสมองเกี่ยวกับการบรรจุประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญ ก็ถูกตำรวจคุกคามสถานที่จนเจ้าของสถานที่ไม่ให้จัด ต้องไประดมสมองที่ร้านอาหาร หรือการที่คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน จะจัดสัมมนาที่โคราช เรื่องสัมปทานพลังงาน ที่ตอนแรกอนุญาตให้จัด แต่พอจะจัดจริงกลับยกเลิกจัด https://www.facebook.com/605419889…/…/a.608891892471910.1073 741828.605419889485777/956976494330113/?type=1&pnref=story และ https://www.facebook.com/photo.phpfbid=1570818306484064&set=pcb.1570828866483008&type=1&theater (เอกสารแนบ )
หรือการที่มีทหารยศพันเอกกดดันประชาชนให้ถอนฟ้อง และกรณีมีแกนนำประชาชนถูกยิงตาย 2 คน (ซึ่งต้องหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะอยู่ในช่วงกฎอัยการศึก หากหาไม่ได้ควรยกเลิกกฎอัยการศึกเพราะไร้ความหมาย อันธพาลยังสามารถใช้อำนาจมืดได้แม้นในช่วงกฎอัยการศึก )

อันนี้ทหารแสดงตัวเป็นรั้วของชาติ หรือ เป็นนักเลงหรือ สมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มทุนเพื่อเบียดเบียนประชาชนหรือ เพื่ออะไร ฯพณฯ โปรดกำชับพฤติกรรมนายทหารในความดูแลของท่านให้อยู่ในกรอบอำนาจ หน้าที่ของชาติ ไม่ล่วงละเมิด หรือใช้อำนาจเกินขอบเขตหน้าที่ของทหาร คือ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ ดูแลความมั่นคงของรัฐ ไม่ใช่ความมั่นคงของกลุ่มทุน หรือเป็นเครื่องมือให้กลุ่มอำนาจการเมือง กลุ่มทุนใดๆ เนื่องจากประชาชนก็ มีสิทธิหน้าที่ เสรีภาพ ในการแสดงออก และปกป้องผลประโยชน์ชาติ ตามรัฐธรรมนูญและกติกาสากลระหว่าง ประเทศ ทหารจะใช้อำนาจจากกฎอัยการศึกที่ผิดๆ หรือไม่

อีกประการหนึ่งในเรื่องสัมปทานรัฐปล่อยให้กระทรวงพลังงาน ปตท. ใช้เงินซื้อโฆษณา ทุกครึ่งชั่วโมงแต่พอทางกลุ่มประชาชนหรือหน่วยงานจะจัดสัมมนาให้ข้อมูลกลับห้ามปราม ก่อกวนปิดกั้นเช่นตำรวจไปบุกรุกสถานที่จะจัดการประชุม ทหารสั่งห้ามจัดสัมมนา ในวันที่ 16 ธันวาคม2557 ที่ โคราช

ดังนั้น ภาคประชาชนจึงใคร่ขอความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรี คสช. และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ว่า ในสิ่งที่รัฐบาลประกาศและขอร้องให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็น และรัฐบาล ยินดีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงจะคืนความสุขให้คนในชาติ จะกวาดล้างคอร์รัปชัน จะทำงานด้วยความ โปร่งใสสุจริตมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ว่าคำประกาศ คำพูดต่างๆ จากท่านนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องนั้นกระทำในทางตรงกันข้ามกับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาของ คสช. หรือนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ดังนั้น ภาคประชาชนจึงใคร่ขอกราบเรียนสอบถาม ฯพณฯ นายกฯ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน “ขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม” ทั้งที่รู้ว่าผลิตได้ในประเทศ 80% และสามารถผลิตได้พอเพียง 100% แต่รัฐโดย ปตท. ไม่สร้างโรงแยกก๊าซให้เพียงพอ (ทั้งๆ ที่ไทยมีก๊าซธรรมชาติ ที่สามารถผลิต ก๊าซหุงต้มได้เพียงพอ) ในราคาประมาณ 3,000 - 20,000 ล้านบาท แต่เอาเงินประชาชนในรูปกองทุน ปีละห้าหมื่นล้านบาทไปชดเชยให้ ปตท. และโรงกลั่น และบริษัทต่างๆ และอ้างต้นทุนเทียม โดยอาศัยมติต่างๆ ในรัฐบาลที่ผ่านมาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชน ไม่ว่าบริษัทสัมปทาน บริษัท ปตท. โรงกลั่น และบริษัท ค้าก๊าซ ที่เกี่ยวข้องกับกรรมการใน คสช. และขอสอบถามว่ามีธุรกิจใดที่เกี่ยวข้องกับก๊าซที่ขาดทุนหรือไม่

ข้อ 2 จากการที่รัฐให้โอกาสจัดให้มีเวทีรัฐพบประชาชนถึง 2 ครั้งที่กองทัพบก ข้อมูลที่ประชาชนเสนอให้ท่าน และสังคมรับรู้แล้วว่าบริษัทปิโตรเคมี PTTGC ใช้ก๊าซในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ประชาชนใช้จ่ายกองทุนน้อยกว่าธุรกิจอื่นๆ ท่านได้ดำเนินการอย่างไร ทำอะไรให้ประชาชนเห็นเป็นรูปธรรมบ้าง และกรณีท่อก๊าซที่บริษัทปตท ยังคืนไม่ครบ และยังแจ้งเท็จต่อศาลตามคำสรุปการตรวจสอบของผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐบาลได้ดำเนินการ อย่างไรแล้วบ้าง

ข้อ 3 ราคาน้ำมันโลกลดลงเกือบ 30% ค่าโดยสาร ลดลงไหม ค่าไฟฟ้าควรจะลดลงไหม ค่าครองชีพ ลดลงบ้างไหม แล้วทำไมราคาก๊าซทั้ง LPG NGV จึงแพงขึ้น การที่เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานอ้างราคาประเทศเพื่อนบ้านต่ำกว่า จึงขึ้นราคาก๊าซหุงต้มเพื่อป้องกันการลักลอบขายออกประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการอ้างของคณะผู้บริหารไร้ซึ่งประสิทธิภาพ เพราะประเทศมาเลเซีย ราคาน้ำมันต่ำกว่าไทยถึง 30% ทำไมรัฐบาลเมเลเซียจึง ไม่อ้างว่าเกรงว่าจะถูกลักลอบขนออกนอกประเทศแล้วขึ้นราคาน้ำมันเท่าไทยบ้าง ดังนั้น ผู้บริหารพลังงานของไทยควรลกออกทั้งชุด

ข้อ 4 การที่ประชาชนจะจัดเสวนาเรื่องการสัมปทานพลังงานที่โคราช เพื่อให้ประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูล อีกด้านแต่กลับถูกห้ามจัด แต่ปล่อยให้กระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท. หรือเครือข่ายนักวิชาการฝากกลุ่มทุนหรือพวกเดียวกัน พูดหรือโฆณา จริงครึ่วเดียว ปกปิด หมกเม็ดซ่อนเร้น ในสื่อต่างๆ ทุกครึ่งชั่วโมง หมายความว่าอย่างไร รัฐหรือนายกฯมีเป้าหมาย หรือเจตนาใด ไม่ใช่ให้ประชาชนได้รับข้อมูลจากสื่อโฆษณาจากรัฐฝ่ายเดียวท่านควรเปิดให้ประชาชนได้รับข้อมูลทั้ง 2 ด้าน ประชาชนจะได้ทราบเพื่อคิดวิเคราะห์โดยตนเองว่าข้อมูลฝ่ายไหน เชื่อถือได้ (กรุณาอย่าตอบว่ากลัวสร้างความแตกแยก) ประชาชนอยากได้ความจริงและอยากได้ข้อมูลเรื่อง พลังงานเพื่อนำมาคิดวิเคราะห์

ข้อ 5 ขอให้นักวิชการภาคประชาชน เช่น ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ได้มีโอกาสใช้สื่อฟรีทีวีของรัฐบ้าง เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้เข้าถึงข้อมูลทุกด้าน และขอให้นายกฯห้ามเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน และ เครือข่ายนักวิชาการทั้งหมดในการโฆษณาจริงครึ่งเดียว หรือปกปิดหมกเม็ดซ่อนเร้น ถ้าไม่ซ่อนเร้นทำไมจึงห้ามจัดสัมมนา หรือไม่ให้โอกาสชี้แจงทางสื่อทีวีของรัฐบ้างเลย

ดังนั้น ขอความกรุณาให้มีการจัดเสวนาเรื่องสัมปทานโดยกลุ่มประชาชน เช่น ที่โคราชจะจัดในวันที่ 16/12/2557 หรือในสถานที่ต่างๆ ที่ประชาชนจัดกิจกรรมรัฐบาลต้องแยกแยะให้ถูกต้อง ไม่ใช่แอบใช้กฎอัยการศึก เพื่อแอบแฝงซ่อนเร้น สนองกลุ่มทุน ผู้ปฏิบัติไม่ควรนำกฎอัยการศึกมาปฏิบัติเป็นข้ออ้างในการห้ามการแสดงออกทางความคิดของประชาชน ถ้าท่านคิดว่าจะทำเพื่อประชาชนด้วยใจบริสุทธิ์ เพราะกลุ่มประชาชนก็จัดทำการเสวนาครั้งนี้ และกิจกรรมอื่นๆ ด้วยใจบริสุทธิ์ เพื่อชาติบ้านเมืองเช่นกัน

ทั้งหมดนี้จึงใคร่ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีที่ได้อาสามาเพื่อแก้ปัญหาในชาติ (ต้องขอกราบขอบพระคุณ) ได้โปรดควบคุมกำชับเจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ เพื่อมิให้เป็นเครื่องมือแก่กลุ่มทุนกลุ่มอำนาจการเมืองกลุ่มใดๆ เพื่อแสวงหาเพื่อประโยชน์ ให้แก่พวกพ้องหรือตนเองอันเป็นการขัดแห่งผลประโยชน์ และขัดต่อกฎหมายอาญามาตรา 148, 152, 157

และจะสร้างความแตกแยกกลุ่มใหม่ในไม่ช้าระหว่างอำนาจรัฐกับเครือข่ายภาคประชาชน

และข้อเรียกร้องในวันที่ 16/12/2557 ขอให้ท่านโปรดพิจารณา และสั่งการให้อนุญาตมีการจัดเสวนาที่โคราชด้วย และสถานที่ต่างๆด้วย ทางกลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ จะกลับมารับฟังคำตอบ ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2557 เวลา 10.00 น.

เครือข่ายประชาชนยังคงสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในการที่จะกวาดล้างทำความสะอาดประเทศ และนำประเทศสู่ความสงบสุข แต่เมื่อใดที่ทราบว่ารัฐบาลกำลังหนุนกลุ่มทุนทำร้ายประชาชน เมื่อนั้นประชาชนก็จะเลิกสนับสนุนทันที และจะมาต่อต้านรัฐบาลท่านในไม่ช้า แม้นมีกฎอัยการศึกก็ตาม

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา ขอกราบขอบพระคุณ อย่างสูง

ขอแสดงความนับถือ

นางสาวสมนึก คำผ่อง พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี
กำลังโหลดความคิดเห็น