xs
xsm
sm
md
lg

สนช.รับหลักการร่าง พ.ร.บ.อุ้มบุญ ใครรับจ้างท้องเจอคุก 10 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สนช.เห็นชอบผ่านวาระแรกร่าง พ.ร.บ.อุ้มบุญ ระบุสอดคล้องรับเทคโนโลยีทางการแพทย์ รับจ้างอุ้มท้องติดคุก 10 ปี ขณะที่สมาชิกติดไม่ควรรวม “ผสมเทียม” ในนิยาม “อดุลย์” ยันยึดหลักการสิทธิมนุษยชน

ในการการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาวาระร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ โดยการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเพื่อกำหนดสถานะความเป็นบิดามารดาที่ชอบด้วยกฎหมายของเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ให้เหมาะสม รวมทั้งควบคุมการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับตัวอ่อนและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์มิให้มีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง โดยมีสาระสำคัญ ใช้บังคับการให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อบำบัดรักษาภาวะการมีบุตรยาก ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (กคพ.) มีหน้าที่กำหนดนโยบายคุ้มครองส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา วิจัยทางจริยธรรม รวมทั้งควบคุมและตรวจสอบการให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ กำหนดการตั้งครรภ์แทน โดยหญิงที่รับตั้งครรภ์แทนจะต้องมีข้อตกลงเป็นหนังสือไว้ให้กับสามีภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายว่าจะให้ทารกในครรภ์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย ห้ามดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า และกำหนดบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายฉบับนี้ โดยมีโทษทั้งปรับและจำคุกไม่เกิน10 ปี

ทั้งนี้ สมาชิก สนช.ได้ อภิปรายงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว อาทิ นายภิรมย์ กมลรัตนกุล สนช. อภิปรายว่าเห็นด้วยต่อการเสนอกฎหมายฉบับนี้เนื่องจากสอดคล้องเทคโนโลยีทางการแพทย์ และตอบสนองความต้องการทางสังคม เพราะการมีบุตรเป็นส่วนสำคัญของสถาบันในครอบครัว กฎหมายฉบับนี้ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ การคุ้มครองเด็ก และป้องกันการค้ามนุษย์ แต่ตนมีข้อสังเกตว่า กฎหมายนี้น่าจะแก้ไข โดยเฉพาะคำนิยามในมาตรา 2 ที่รวมถึงการผสมเทียมซึ่งไม่น่าจะนำมาเกี่ยวข้อง เพราะเรื่องผสมเทียมทำได้ตามปกติ องค์ประกอบของกรรมการในมาตรา 6 ที่ส่วนใหญ่เป็นกรรมการมาจากกรรมการโดยตำแหน่ง ซึ่งในร่างกฎหมายบางตำแหน่งไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ จึงน่าจะเพิ่มสัดส่วนแพทยทยสภา บุคลากรในสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเทคโยโลยีการเจริญพันธุ์ร่วมเป็นกรรมการ นอกจากนี้ในส่วนของการคุ้มครองเด็กที่เกิดจากเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ผิดกฎหมายต้องได้รับการคุ้มครอง เพราะเด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ แม้คเกิดจากการกระทำจากการฝ่าฝืนกฎหมายฉบับนี้

ขณะที่นายกิตติ วะสีนนท์ สนช.อภิปรายว่า กฎหมายฉบับนี้เรียกง่ายๆ คือ กฎหมายอุ้มบุญ ตนเห็นด้วยและสนับสนุนให้กฎหมายดังกล่าวออกมาบังคับใช้ เพราะที่ผ่านมาการอถ้มบุญไม่ถูกต้องตามครรลอง หากออกกหมายฉบับนี้จะสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศที่ป้องกันการค้ามนุย์และการทารุณ

จากนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงว่า บทลงโทษในร่างกฎหมายจะเอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกฎหมายนี้มีความประสงค์หลักจะคุ้มครองเด็กและปราบปรามการค้ามนุษย์ที่เป็นปัญหาขณะนี้ พร้อมคุ้มครองคนมีบุตรยาก โดยเป็นการดำเนินการยึดหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว วาระ 1 ด้วยคะแนน 177 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาฯ 18 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น