xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ “กลชัย” ไม่มีสิทธิ์ลงมติปมถอดถอน - “สมชาย” แนะ “ทนายปู” เลิกตุกติก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ภาพจากแฟ้ม)
วิป สนช. ชี้ “กลชัย สุวรรณบูรณ์” สามารถปฏิบัติหน้าที่ สนช. ต่อไปได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ลงมติถอดถอนกรณีแก้รัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. เพราะมีส่วนได้ - เสีย พร้อมจ่อหารือสภากรณี “ยิ่งลักษณ์” ค้านกระบวนการถอดถอน “สมชาย” ย้ำไม่จำเป็นต้องถกประเด็นบรรจุวาระอีก แนะทนายเลิกตุกติก รีบทำงานสู้คดีจะเป็นประโยชน์ ยกคดีในอดีต ยันข้อบังคับให้ความเป็นธรรม

วันนี้ (19 พ.ย.) นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) แถลงผลการประชุม ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณีที่ พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ สนช. ในฐานะหนึ่งใน 38 อดีต ส.ว. ที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลถอดถอนกรณีแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ สนช. ได้หรือไม่ โดยวิป สนช. มีมติว่า พล.ต.กลชัย สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เนื่องจากเป็นคนละตำแหน่งกัน แต่หากมีการประชุม สนช. เพื่อพิจารณาถอดถอดในประเด็นดังกล่าว พล.ต.กลชัย สามารถลงชื่อร่วมประชุม แต่ไม่สามารถพิจารณาเพื่อลงมติถอดถอนได้เนื่องจากถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสีย

ทั้งนี้ สำนวนการยื่นถอดถอน 38 อดีต ส.ว. ขณะนี้ยังมาไม่ถึงประธาน สนช. ส่วนการพิจารณาถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา รวมถึงการถอดถอน น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีการหารือในวันนี้ เนื่องจากเห็นว่ายังมีเวลาในการพิจารณาในสัปดาห์หน้า

ส่วนกรณีที่ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยื่นคัดค้านว่า สนช. ไม่มีอำนาจพิจารณาถอดถอนนั้น นพ.เจตน์ กล่าวว่า ขณะนี้กระบวนการพิจารณาได้เดินหน้าไปแล้ว ดังนั้น การคัดค้านจะมีผลหรือไม่คงต้องหารือในที่ประชุม สนช. ต่อไป นอกจากนี้ ในการประชุมสัปดาห์นี้ สนช. จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกภาษีคณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ โดยมีเนื้อหาเพื่อให้ประชาชนทั่วไปมาเสียภาษีบุคคลธรรมดาในแบบเดียวเท่านั้น เพื่อป้องกันการเลี่ยงภาษีและรัฐสามารถเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยคาดว่ากฎหมายจะเสร็จภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า

ด้าน นายสมชาย แสวงการ สนช. ในฐานะเลขานุการวิป สนช. กล่าวถึงกรณีที่จะให้ที่ประชุม สนช. หารือถึงการบรรจุประเด็นถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า เป็นไปโดยชอบตามข้อบังคับการประชุม สนช. ตามข้อเรียกร้องของทีมทนาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ว่า สำหรับตนเห็นว่าไม่จำเป็นต้องนำเรื่องมาหารือกันแล้ว เพราะถือว่าประเด็นนี้จบไปแล้วตั้งแต่สมาชิก 167 คน มีมติให้ขยายเวลาตามคำเรียกร้องของทนายความที่อ้างว่ายังไม่ได้รับเอกสาร และเมื่อประธาน สนช. ได้ใช้อำนาจวินิจฉัยให้บรรจุเข้าระเบียบวาระไปตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. โดยสภามีมติเห็นชอบ และมีการกำหนดวันต่างๆ ไว้ โดยจะมีการแถลงเปิดคดีวันที่ 28 พ.ย. ดังนั้น ควรจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพราะก่อนหน้านี้ตนก็ได้กำชับในที่ประชุมแล้วว่า ทนายอย่าตุกติกมาขอขยายเวลาอีก

เมื่อถามว่า ในข้อบังคับการประชุม สนช. เกี่ยวกับการถอดถอน มีการกำหนดหรือไม่ว่าเมื่อผู้ร้องมีการร้องค้าน ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่เพื่อพิจารณา นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีการระบุไว้ แต่มีการให้สิทธิเพิ่มพยานหลักฐานได้ และในกรณีนี้ก็ได้มีการวินิจฉัยไปแล้ว ที่ทนายกล่าวหาว่าข้อบังคับดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับผู้ถูกร้องนั้น ก็ยืนยันว่าไม่มี ไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งใคร แต่ใช้มาตั้งแต่กรณีถอดถอน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายนพดล ปัทมะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โดยทุกคนก็อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์นี้โดยมีเวลาพอสมควร 45 วัน ซึ่งพิสูจน์มาแล้วว่า ข้อบังคับนี้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่มีปัญหาอะไร และสังคมก็ให้การยอมรับกับกระบวนการถอดถอนของวุฒิสภา จึงไม่เช้าใจว่าทำไมถึงมีปัญหามากนัก

“ขอตำหนิทนายที่กล่าวหาว่าเราไปลองข้อบังคับต่อๆ กันมา เพราะมันมีวิธีการที่บัญญัติเอาไว้ เมื่อมีบรรทัดฐานที่ดีเขาก็ใช้ต่อๆ กันไป การกล่าวหาเช่นนี้ถือว่าไม่เหมาะสม เราให้ความเป็นธรรมอย่างตรงไปตรงมา ทนายก็ควรทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สมาชิกจะเลือกฟังเอง และจะลงมติอย่างไรถือเป็นเรื่องอนาคต” นายสมชาย กล่าว

เมื่อถามว่า การกระทำของทนายถือเป็นการดิสเครดิต สนช. ให้ถูกมองไม่น่าเชื่อถือหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ก็แล้วแต่เขา แต่ยิ่งทำก็ยิ่งเป็นผลลบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนขอเสนอให้หยุดพูดและรีบทำงานจะเป็นประโยชน์ต่อการต่อสู้คดีมากกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น