เผยที่ประชุม 5 ฝ่ายบ้านเกษะโกมล นาน 3 ชั่วโมง “ประยุทธ์” จ้อคนเดียวนานเป็นชั่วโมง ยันต้องการปฏิรูปภายใน 1 ปี ให้ สนช. เร่งรัดกฎหมาย 300 ฉบับ เน้นให้ประชาชนมีความสุข ส่วน สปช. ให้ทำงานเห็นผล ติดขัดอะไรแจ้ง ครม. แต่ไม่ต้องนับหนึ่ง กลาโหมชี้นำไปแล้ว 11 ด้าน ถูกถามเรื่องอัยการศึกทำขึงขัง บอกเลิกทะเลาะกันหรือยัง ถ้าไม่มีปลุกระดมยกเลิกเดี๋ยวนั้นเลย บ่นไม่อยากอยู่ในตำแหน่งแล้ว เปลืองตัว แต่ก็ต้องเดินหน้า ส่วนประชามติยังอีกยาว
วันนี้ (18 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในระหว่างการหารือร่วมกัน 5 ฝ่าย ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 21 คน เข้าร่วมหารือที่อาคารรับรอง เกษะโกมล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันทำหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา และยืนยันว่ารัฐบาลต้องการนำพาประเทศไปสู่การปฏิรูปให้ได้ภายใน 1 ปีตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ และได้ให้แนวทางการทำงานกับทุกฝ่ายที่ร่วมหารือว่า ต่อไปนี้ขอให้ร่วมกันทำงานอย่างกระชับ ยึดกรอบเวลาที่กำหนดไว้เป็นหลัก โดยเฉพาะการปฏิรูปประเทศควรจะยึดกรอบความเห็นร่วมปฏิรูปประเทศไทยของกระทรวงกลาโหมที่ได้มีการศึกษาไว้แล้วทั้ง 11 ด้านเป็นหลัก รวมถึงงานศึกษาของคณะต่างๆ อาทิ คณะทำงานของ นพ.ประเวศ วะสี เป็นต้น โดยเลือกแต่ประเด็นที่ทันสมัยเพื่อให้การทำงานเร็วยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาการทำงานของ สนช. และ สปช. เน้นแต่เรื่องกระบวนการมากเกินไป ยืดเยื้อ ยังไม่เข้าสู่เป้าหมาย นับจากนี้ไปขอให้ทุกฝ่ายทำงานอย่างรวดเร็ว และให้ออกมาเป็นรูปธรรมทุกขั้นตอน
ในส่วนการทำงานของ สนช. และ สปช. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เน้นย้ำให้ ร่วมกันทำงานใน 3 ส่วน ประกอบด้วย 1. ขอให้ สนช. เร่งผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี ซึ่งน่าจะมีประมาณ 300 ฉบับ โดยขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้เตรียมที่จะเสนอ สนช. ในเร็วๆ นี้ ประมาณ 100 ฉบับ ส่วนที่เหลือจะทยอยตามมาภายหลังจากนี้ หรืออย่างน้อยภายในปีนี้ สนช. ต้องออกฎหมายที่ทำให้ประชาชนมีความสุขเพื่อแก้ปัญหาพื้นฐานให้กับประชาชนเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน 2. ภายใน 3 เดือนนี้ สปช. ต้องทำงานให้เห็นผล และถ้ามีอุปสรรคอะไรก็ให้ทำเรื่องมายังคณะรัฐมนตรี ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการให้ทั้งหมด และ 3. อยากให้ สปช. เดินหน้าวางกระบวนการปฏิรูป โดยไม่อยากให้ไปเริ่มทำการนับหนึ่งตั้งแต่ต้น เพราะกระทวงกลาโหมได้ทำรายงานเสนอมาครบทั้ง 11 ด้านแล้ว แต่หากมีส่วนไหนที่ขาดก็ค่อยไปเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์
ทั้งนี้ สมาชิก สปช. ได้ถามถึงแนวทางการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในช่วงกฎอัยการศึก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามกลับว่า “วันนี้บ้านเมืองสงบแล้วหรือยัง เลิกตีกันทะเลาะกันหรือยัง ถ้าวันนี้บ้านเมืองวันนี้สงบ เลิกทะเลาะกันไม่มีการปลุกระดม ก็จะยกเลิกให้วันนี้เดี๋ยวนี้เลย แต่เวลานี้ยังมีความจำเป็นต้องใช้ต่อไป ส่วนเรื่องไหนที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นรัฐบาลก็ไม่ได้ขัดข้อง” ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามด้วยน้ำเสียงขึงขัง ปรากฏว่าไม่มีใครในห้องประชุมกล้าถามอะไรต่อ
“ผมไม่อยากอยู่ในตำแหน่งแล้ว ผมจะอยู่ได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับพวกที่นั่งอยู่ในที่นี้ เปลืองตัว ประชุมก็เยอะ แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน และวันนี้อยากขอให้แม่น้ำทั้ง 5 สายรวมเป็นสายเดียวกัน เพื่อให้ประสบความสำเร็จ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
ขณะที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช. แสดงความคิดเห็นต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญว่า ในอดีตที่ผ่านมาถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งจัดทำรัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยเร็ว พร้อมจัดทำกฎหมายลูก เพื่อส่งมอบให้มีการจัดการเลือกตั้ง แต่มีปัญหาที่ผ่านมา คือ หลายเรื่องในรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลต่อๆ มาไม่เคยสานต่อให้สำเร็จ ดังนั้นจึงเห็นว่าไม่อยากให้เร่งรีบจัดทำรัฐธรรมนูญ มิเช่นนั้นจะทำให้เสียของและล้มเหลว
ส่วนนายบวรศักดิ์ เห็นว่า การรับฟังความคิดเห็นและการทำประชามติ จะเป็นส่วนสำคัญและเป็นเกราะที่ป้องกันให้รัฐธรรมนูญในอนาคตถูกแก้ไขได้ยาก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบในเรื่องนี้ว่า การทำประชามติยังอีกไกล ขอดูสถานการณ์และความเหมาะสมก่อน
ทั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวว่า บรรยากาศการหารือเป็นไปด้วยความราบรื่น และเป็นกันเอง โดยส่วนใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนพูดมากที่สุด และยังได้สอบถามถึงปัญหาอุปสรรคของแต่ละฝ่ายว่ามีอะไรบ้าง และมีแนวทางการทำงานอย่างไร ก็พร้อมอำนวยความสะดวก ขอให้ประสานมา
มีรายงานว่า การประชุมในครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดย พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลากล่าวคนเดียวนานถึง 1 ชั่วโมง และได้มีการเลี้ยงอาหารให้กับผู้มาร่วมประชุม อาทิ ชา กาแฟ น้ำดอกอัญชัน ขนมตาล และขนมใส่ไส้