โฆษก กอ.รมน.เผย กอ.รมน.เตรียมจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติในหลวง 30 พ.ย. - 6 ธ.ค. พบมีบุกรุกป่ารุนแรง 22 จังหวัด ระบุ สมช.ชงแผนพูดคุยสันติภาพใต้ให้ ครม.แล้ว เชื่อใช้ระเบิดเร่งด่วนเสริมความรุนแรงมากขึ้น สั่งชี้แจงการทำงานความมั่นคงต่อภัยคุกคามประเทศ
วันนี้ (12 พ.ย.) พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผย ผลการประชุม นขต.กอ.รมน. ครั้งที่ 10/2557 ที่มี พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ลธ.รมน.) เป็นประธาน ว่า กอ.รมน.โดยสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ มีแผนจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. ถึง 6 ธ.ค.57 ณ พื้นที่ท้องสนามหลวง โดยเน้นการให้ความรู้ในเรื่อง “ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เช่น นาข้าวอินทรีย์ ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์/EM ศิลปะการแสดงพื้นเมือง และวิถีชีวิตชาวบ้าน เป็นต้น
พ.อ.บรรพตกล่าวว่า ในส่วนของการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ในเขตป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ ได้จัดการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดระดับความรุนแรง 4 ระดับ จากการประเมินคดีที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุก เพื่อเป็นข้อมูลกำหนดนโยบายด้านการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ โดยพบว่าพื้นที่จังหวัดที่มีระดับรุนแรงมาก มีจำนวน 22 จังหวัด
พ.อ.บรรพตกล่าวต่อว่า ในส่วนงานขับเคลื่อนงานการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในระดับนโยบายปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2557 เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ สำหรับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายชัดเจนที่จะดำเนินการพูดคุยต่อไป ซึ่งในขณะนี้ สมช.ได้จัดทำแผนการปฏิบัติ รวมทั้งกลไกเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยดังกล่าวให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี
“แนวโน้มสถานการณ์นั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงมีความพยายามที่จะสร้างสถานการณ์ โดยรูปแบบการก่อเหตุจะเป็นไปตามความชำนาญของเครือข่ายในแต่ละพื้นที่ และการวางระเบิดแบบเร่งด่วนจะเป็นยุทธวิธีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะนำมาใช้มากขึ้น เพื่อแสดงการต่อต้านอำนาจรัฐในการปฏิบัติการเชิงรุก รวมทั้งทำลายภาพลักษณ์การแก้ไขปัญหาของรัฐบาล และหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่” พ.อ.บรรพตกล่าว
พ.อ.บรรพตกล่าวอีกว่า พล.อ.ฉัตรเฉลิมได้สรุป และสั่งการในการประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับทราบการทำงานด้านความมั่นคงรองรับภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ ทั่วประเทศของ กอ.รมน.ให้เห็นเป็นรูปธรรม เชิงประจักษ์ จับต้องได้ แม้ว่างานด้านความมั่นคงนั้นจะวัดผลได้ยาก แต่ควรกำหนดตัวชี้วัดให้เป็นเชิงวิทยาศาสตร์ อันแสดงถึงประสิทธิภาพ และความคุ้มค่าของหน่วยงาน ในส่วน กอ.รมน.ภาค ให้ใช้การพบปะ เสริมสร้างความเข้าใจกับผู้นำความคิดให้ผู้เห็นต่างทางการเมืองในพื้นที่ของแต่ละภาค พยายามเลี่ยงการเชิญตัว โดยใช้การพบปะแบบไม่เป็นทางการด้วยความสุภาพอ่อนน้อม เพื่อดำรงความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำเจ้าหน้าที่เรื่องการทำงานร่วมกับส่วนราชการอื่น ให้ทำงานแบบบูรณาการด้วยการประสานการปฏิบัติ ไม่สร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง และไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หรือสิ่งผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (12 พ.ย.) พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผย ผลการประชุม นขต.กอ.รมน. ครั้งที่ 10/2557 ที่มี พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ลธ.รมน.) เป็นประธาน ว่า กอ.รมน.โดยสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ มีแผนจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. ถึง 6 ธ.ค.57 ณ พื้นที่ท้องสนามหลวง โดยเน้นการให้ความรู้ในเรื่อง “ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เช่น นาข้าวอินทรีย์ ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์/EM ศิลปะการแสดงพื้นเมือง และวิถีชีวิตชาวบ้าน เป็นต้น
พ.อ.บรรพตกล่าวว่า ในส่วนของการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ในเขตป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ ได้จัดการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดระดับความรุนแรง 4 ระดับ จากการประเมินคดีที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุก เพื่อเป็นข้อมูลกำหนดนโยบายด้านการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ โดยพบว่าพื้นที่จังหวัดที่มีระดับรุนแรงมาก มีจำนวน 22 จังหวัด
พ.อ.บรรพตกล่าวต่อว่า ในส่วนงานขับเคลื่อนงานการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในระดับนโยบายปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2557 เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ สำหรับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายชัดเจนที่จะดำเนินการพูดคุยต่อไป ซึ่งในขณะนี้ สมช.ได้จัดทำแผนการปฏิบัติ รวมทั้งกลไกเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยดังกล่าวให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี
“แนวโน้มสถานการณ์นั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงมีความพยายามที่จะสร้างสถานการณ์ โดยรูปแบบการก่อเหตุจะเป็นไปตามความชำนาญของเครือข่ายในแต่ละพื้นที่ และการวางระเบิดแบบเร่งด่วนจะเป็นยุทธวิธีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะนำมาใช้มากขึ้น เพื่อแสดงการต่อต้านอำนาจรัฐในการปฏิบัติการเชิงรุก รวมทั้งทำลายภาพลักษณ์การแก้ไขปัญหาของรัฐบาล และหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่” พ.อ.บรรพตกล่าว
พ.อ.บรรพตกล่าวอีกว่า พล.อ.ฉัตรเฉลิมได้สรุป และสั่งการในการประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับทราบการทำงานด้านความมั่นคงรองรับภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ ทั่วประเทศของ กอ.รมน.ให้เห็นเป็นรูปธรรม เชิงประจักษ์ จับต้องได้ แม้ว่างานด้านความมั่นคงนั้นจะวัดผลได้ยาก แต่ควรกำหนดตัวชี้วัดให้เป็นเชิงวิทยาศาสตร์ อันแสดงถึงประสิทธิภาพ และความคุ้มค่าของหน่วยงาน ในส่วน กอ.รมน.ภาค ให้ใช้การพบปะ เสริมสร้างความเข้าใจกับผู้นำความคิดให้ผู้เห็นต่างทางการเมืองในพื้นที่ของแต่ละภาค พยายามเลี่ยงการเชิญตัว โดยใช้การพบปะแบบไม่เป็นทางการด้วยความสุภาพอ่อนน้อม เพื่อดำรงความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำเจ้าหน้าที่เรื่องการทำงานร่วมกับส่วนราชการอื่น ให้ทำงานแบบบูรณาการด้วยการประสานการปฏิบัติ ไม่สร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง และไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หรือสิ่งผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
