เมื่อเวลา 13.30 น.วานนี้ (20ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรียกประชุมความมั่นคง ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องงานความมั่นคง อาทิ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสมช. ในฐานะคณะทำงานด้านความมั่นคง สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) และสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) โดยก่อนการประชุม พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่า เพื่อประเมินสถานการณ์ความมั่นคง เบื้องต้นสถานการณ์เรียบร้อยดี
ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบเผา 6 โรงเรียนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว 1 คน เป็นกลุ่มเดิมที่เคยก่อเหตุ รับสารภาพลงมือก่อเหตุ พร้อมบอกว่าสำนึกผิดที่ทำไปเพราะเข้าใจผิด จากการเสียชีวิตกลุ่มคนเขาในพื้นที่ และกำลังตามจับกุมคนร้ายที่เหลืออยู่ 6-8 คน จริงๆ ครั้งนี้วางแผนเผาโรงเรียน 14 แห่ง แต่เผาได้แค่ 6 แห่ง เพราะทุกหน่วยในพื้นที่ตำรวจ ทหาร ชรบ. ดูแลป้องกันเป็นอย่างดี ทำให้ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย ส่วนเรื่องโรงเรียน รมว.ศึกษาธิการและศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่แล้ว เปิดเทอมมีที่เรียนแน่นอน จัดสถานที่ชั่วคราวให้ก่อน จนกว่าสร้างโรงเรียนใหม่แล้วเสร็จ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน เหตุการณ์ในภาคใต้ขณะนี้ถือว่าดีขึ้นมาก จาก 5-6 ปีที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจมากขึ้น ไว้วางใจเจ้าหน้าที่มากขึ้นเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหาจริงๆ
ด้านพล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า หารือปัญหาภาคใต้ ช่วงที่ผ่านมาหลังจากเหตุการณ์ที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้พยายามควบคุมสถานการณ์ อาจมีบ้างเล็กน้อย แต่ยังคิดว่าเราทำได้ดี ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คิดว่ารักษาสถานการณ์ได้อยู่แล้ว แต่ยังมีรายละเอียดที่ต้องเพิ่มเติมอีก อาจต้องปรับในเรื่องทางการข่าวและงานมวลชน ซึ่งขณะนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เราสามารถที่จะควบคุมตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงในกรณีของทุ่งยางแดงได้ มีการจับอาวุธต่างๆ ได้ กำลังขยายผลอยู่ แต่ขอยังไม่บอกรายละเอียด ไว้ให้เราทำได้ครอบคลุมให้เป็นที่พอใจแล้วตนจะชี้แจงให้ฟัง แต่มีความก้าวหน้า ไม่ได้ทอดทิ้งเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะติดตามและทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นผลขึ้นมา
พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค ทีมโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ยังไม่มีกำหนดการเดินทางไปหารือกับ นายกฯ มาเลเซีย อย่างเป็นทางการ ที่จะมีการหารือถึงแนวทางการพูดคุยสันติสุข ในช่วงนี้ว่า เนื่องจาก นายกฯของทั้ง 2 ประเทศ ต่างมีภารกิจของตัวเอง และในการประชุม เอเปก ที่ประเทศจีน ในช่วงปลายปีนี้ นายกฯ ทั้ง 2 ประเทศ ก็จะได้มีโอกาสพบกัน และคาดว่า อาจจะได้มีการหารือในเรื่องนี้ด้วย จึงตกลงร่วมกันว่าให้เลื่อนการเดินทางเยือนมาเลเซีย ออกไปก่อน
ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบเผา 6 โรงเรียนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว 1 คน เป็นกลุ่มเดิมที่เคยก่อเหตุ รับสารภาพลงมือก่อเหตุ พร้อมบอกว่าสำนึกผิดที่ทำไปเพราะเข้าใจผิด จากการเสียชีวิตกลุ่มคนเขาในพื้นที่ และกำลังตามจับกุมคนร้ายที่เหลืออยู่ 6-8 คน จริงๆ ครั้งนี้วางแผนเผาโรงเรียน 14 แห่ง แต่เผาได้แค่ 6 แห่ง เพราะทุกหน่วยในพื้นที่ตำรวจ ทหาร ชรบ. ดูแลป้องกันเป็นอย่างดี ทำให้ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย ส่วนเรื่องโรงเรียน รมว.ศึกษาธิการและศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่แล้ว เปิดเทอมมีที่เรียนแน่นอน จัดสถานที่ชั่วคราวให้ก่อน จนกว่าสร้างโรงเรียนใหม่แล้วเสร็จ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน เหตุการณ์ในภาคใต้ขณะนี้ถือว่าดีขึ้นมาก จาก 5-6 ปีที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจมากขึ้น ไว้วางใจเจ้าหน้าที่มากขึ้นเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหาจริงๆ
ด้านพล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า หารือปัญหาภาคใต้ ช่วงที่ผ่านมาหลังจากเหตุการณ์ที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้พยายามควบคุมสถานการณ์ อาจมีบ้างเล็กน้อย แต่ยังคิดว่าเราทำได้ดี ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คิดว่ารักษาสถานการณ์ได้อยู่แล้ว แต่ยังมีรายละเอียดที่ต้องเพิ่มเติมอีก อาจต้องปรับในเรื่องทางการข่าวและงานมวลชน ซึ่งขณะนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เราสามารถที่จะควบคุมตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงในกรณีของทุ่งยางแดงได้ มีการจับอาวุธต่างๆ ได้ กำลังขยายผลอยู่ แต่ขอยังไม่บอกรายละเอียด ไว้ให้เราทำได้ครอบคลุมให้เป็นที่พอใจแล้วตนจะชี้แจงให้ฟัง แต่มีความก้าวหน้า ไม่ได้ทอดทิ้งเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะติดตามและทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นผลขึ้นมา
พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค ทีมโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ยังไม่มีกำหนดการเดินทางไปหารือกับ นายกฯ มาเลเซีย อย่างเป็นทางการ ที่จะมีการหารือถึงแนวทางการพูดคุยสันติสุข ในช่วงนี้ว่า เนื่องจาก นายกฯของทั้ง 2 ประเทศ ต่างมีภารกิจของตัวเอง และในการประชุม เอเปก ที่ประเทศจีน ในช่วงปลายปีนี้ นายกฯ ทั้ง 2 ประเทศ ก็จะได้มีโอกาสพบกัน และคาดว่า อาจจะได้มีการหารือในเรื่องนี้ด้วย จึงตกลงร่วมกันว่าให้เลื่อนการเดินทางเยือนมาเลเซีย ออกไปก่อน