“ประวิตร” เรียกถกความคืบหน้างานหน่วยความมั่นคง คาด 60 วัน เพิ่มแสงสว่าง กทม.-ตั้งวงจรปิด เสร็จ ไม่ทราบข่าวมาเลย์ อยากให้พลเรือนคุยสันติภาพแทนทหาร เชื่อมาเลย์ก็ใช้ ยันให้ “อักษรา” คุย ตั้งคณะเจรจาเสร็จถึงพร้อมถก ไม่ทราบนายกฯ เยือนมาเลย์ช่วงใด
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น พล.ท.สุรสิทธิ์ ถาวร ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายฉัตรพงศ์ ฉัตราคม ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) และพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) ภายหลังการประชุม พล.อ.ประวิตรเปิดเผยว่า ประชุมติดตามความคืบหน้างานด้านความมั่นคงที่ได้สั่งการไปแล้ว อาทิ การเพิ่มแสงสว่างในพื้นที่กรุงเทพฯ 283 จุด การติดตั้งกล้องวงจรปิดซึ่งความคืบหน้าไปมาก คาดแล้วเสร็จภายใน 60 วัน
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ส่วนการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ อยู่ในขั้นตอนของการหาตัวบุคคล เมื่อถามว่ากระแสข่าววางตัว พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานที่ปรึกษากองทัพบก เป็นหัวหน้าทีมพูดคุย แต่ทางการมาเลเซียต้องการหัวหน้าคณะพูดคุยเป็นพลเรือน พล.อ.ประวิตรตอบว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าว คิดว่ามาเลเซียคงใช้ทหารเช่นกัน เมื่อถามว่า ยืนยันว่าหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข จะเป็นทหารให้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ใช้ทหาร เพราะมองว่า พล.อ.อักษราเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถและติดตามงานด้านนี้มาตลอด ส่วนกำหนดการเยือนประเทศมาเลเซียของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีส่วนตัวไม่ทราบ เป็นเรื่องของนายกฯ ที่ยังคงทำตามโรดแมปที่วางไว้ เมื่อถามว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการพูดคุยสันติสุขน่าเกิดขึ้นหลังนายกฯ เดินทางไปประเทศมาเลเซีย พล.อ.ประวิตรตอบว่า เมื่อมีการตั้งคณะเจรจาเรียบร้อยแล้ว จะประสานงานพูดคุยกัน โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เน้นการทำให้ชายแดนใต้เกิดสันติสุข เชื่อว่าการตั้งคณะดังกล่าวจะเรียบร้อยในเร็วๆ นี้