xs
xsm
sm
md
lg

สปช.สรุป ระบบอุปถัมภ์บูชาคนรวย อุปสรรคแก้ความเหลื่อมล้ำ เล็งปฏิรูปทั้งระบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บาายากาศการสัมมนาของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
สปช.สรุป ระบบอุปถัมภ์ ระบบราชการ นักการเมือง ค่านิยมบูชาคนรวย ขาดจิตสำนึกต่อส่วนร่วม เป็นอุปสรรคใหญ่ในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เล็งปฏิรูปเน้นลดความเหลื่อมล้ำเศรษฐกิจ การศึกษา ทรัพยากร ให้ทำเป็นวาระแห่งชาติไม่เปลี่ยนแปลงตามอายุรัฐบาล สร้างค่านิยมสังคม เลิกบูชาคนรวยเร็ว หนุนวัฒนธรรมต้านคอรัปชั่น ส่งเสริมรัฐสวัสดิการ จัดสรรที่ดินใหม่ เลิกสัมปทานที่ให้เอกชนระยะยาว ส่วนข้อเสนอการเมือง ชงตั้งสภาพลเมืองคัดกรองผู้สมัครท้องถิ่น-ระดับชาติ กำหนดผู้บริหารไม่ให้นานเกินไปจนสร้างอิทธิพล ด้าน “สารี” แฉข้อมูลวงการศึกษาสุดเสื่อม ครูชนบทย้ายเข้าเมืองเสียเงินตามระยะกิโลฯ ซ้ำใช้ตัวแลก สวนหมัด “เลิศรัตน์” จะปฏิรูปอย่าอายเรื่องจริง ไม่เช่นนั้นจะกลายจะเป็นแค่ “ปฏิลูบ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสัมมนาของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เรื่อง “สานพลัง สปช.ออกแบบอนาคตประเทศ” วันที่ 2 วันนี้ (10 พ.ย.) มีการนำเสนอผลจากการการแบ่งกลุ่มสัมมนา 10 กลุ่มในหัวข้อ “เราจะทำให้ฝันเป็นจริงได้อย่างไร โดยเฉพาะในประเด็น การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ และการมีส่วนร่วมของประชาชน” สมาชิก สปช.เห็นตรงกันว่าระบบอุปถัมภ์ของสังคมไทย ระบบราชการ นักการเมือง และค่านิยมสังคมที่เน้นการบูชาคนรวยเร็ว ขาดจริยธรรม จิตสำนึกต่อส่วนร่วม เป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการแก้ไขปัญหา ควรมีการกำหนดเรื่องการแก้ไขความเหลื่อมล้ำการกระจายอำนาจสู่ประชาชนไว้ในรัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายลูกเพื่อให้เกิดการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ โดยในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ เสนอให้มีการปรับโครงสร้างภาษี มีกลไกภาษีที่เป็นธรรม เพื่อลดช่องว่างในสังคมให้แคบลง คนจนต้องมีรายได้ต่อหัวต่อปีเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 1 ล้านบาท เปลี่ยนจากทุนนิยม เป็นสังคมนิยมเสรี เน้นส่งเสริมสร้างทุนสัมมา คือ การทำอะไรด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส ยึดธรรมาภิบาล ส่งเสริมรัฐสวัสดิการในทุกสาขาอาชีพตามบริบทของสังคมไทย

ทุกคนต้องช่วยกันทำงานแล้วเสียภาษี และรัฐช่วยส่วนหนึ่ง ให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุน โดยกระจายระบบสหกรณ์ให้กว้างขวาง มีการจัดสรรที่ดินใหม่ทั้งมีนโยบายคืนภาษีให้กับธุรกิจที่เป็นไปเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ธุรกิจรีไซเคิลขยะ สร้างคลังสมองในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะนโยบายตรึงราคาสินค้า ประกันสุขภาพ ภัยแล้งน้ำท่วม จำนำข้าว เพื่อให้มีข้อมูลที่ครบถ้วนไว้สำหรับการตัดสินใจ

ด้านสังคมและทรัพยากรธรรมชาติ ต้องมีระบบสวัสดิการสังคมที่เหมาะสม จัดสวัสดิการให้แก่ผู้สูงอายุ ยกเลิกกฎหมายล้าสมัยเกี่ยวกับการจัดทรัพยากรธรรมชาติ ทบทวนการตรวจสอบสิทธิ ยกเลิกสัมปทานในทรัพยากรธรรมชาติที่ให้กับเอกชนระยะยาว เนื่องจากประชาชนไมได้ประโยชน์ ให้ประชาชนมีสิทธิเข้าถึงใช้ทรัพยากร จัดระบบข้อมูลใหม่ให้เป็นปัจจุบันเพื่อลดความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับรัฐ เฉพาะอย่างยิ่ง ให้มีกฎหมายโฉนดที่ดิน ธนาคารที่ดิน ลดความเหลื่อมล้ำ ในเรื่องของการใช้ประโยชน์ที่ดิน ขจัดการเอื้อประโยชน์ให้คนบางกลุ่มบางพวก ให้ชุมชนเป็นผู้บริหารและใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นตน มีการสร้างชุมชนแข็งแรงลดอำนาจรัฐส่วนบน ขยายฐานการเมืองส่วนล่าง ส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนดูแลตัวเอง กระตือรือร้นในการพัฒนาประเทศ ยกเรื่องการสร้างชุมชนแข้งแข็งเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้มีแผนของชุมชน มีระบบทุนของกองทุนต่างๆ และให้จังหวัดที่มีความพร้อมสามารถจัดการตัวเองได้ ส่งเสริม สภาพลเมืองชุมชน ที่มีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาระดับจังหวัด เพื่อฝึกให้ประชาชนสามารถดูแลตนเองได้ ส่งเสริมการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นโดยควบคู่กับการตรวจสอบ

ด้านการศึกษาควรส่งเสริมการศึกษาให้เหมาะสมกับท้องถิ่น โดยเฉพาะด้านอาชีวศึกษา ลดจำนวนมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้คุณภาพ สร้างค่านิยมครูนักเรียนว่า การมีครอบครัวอยู่ด้วยกันและมีงานทำ ดีและถูกต้องกว่าเรียนเพื่อให้ได้ทำงานที่ได้เงินมากๆ แล้วร่ำรวย เพื่อแก้ไขค่านิยมของสังคมที่ บูชาคนรวยเร็ว สร้างค่านิยมความภูมิใจในความเป็นไทย เน้นส่งเสริมให้มีการจดลิขสิทธิ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้รัฐประกันโอกาสการศึกษาในแนวทางเดียวกับ สปสช. เน้นการเรียนฟรีถึงปริญญาตรี และเน้นการศึกษาทางเลือกให้มากขึ้น ให้นโยบายการศึกษาเป็นวาระแห่งชาติที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามความเป็นไปของรัฐบาลโดยให้งบประมาณเรียนฟรีถูกจัดอยู่ในลำดับต้นๆ ของการใช้งบประมาณประเทศ ส่งเสริมให้ท้องถิ่น ปราชญ์ท้องถิ่น เป็นผู้กำหนด แนวทางการศึกษาและ มีอิสระในการจัดการศึกษาทางเลือก ทำให้การศึกษาเป็นตัวเพิ่มต้นทุนชีวิต สนับสนุนสร้างโอกาสให้กลุ่มเยาวชนที่ด้อยโอกาส ยกเลิกนโยบายให้นักเรียนออกจากโรงเรียนกลางคัน ขจัดปัญหาการแทรกแซงรัฐให้การส่งเสริมสถานศึกษาเอกชนน้อยเกินไป เน้นงานด้านเอกสารแต่ไม่กำกับทิศ คุณภาพการศึกษา

ขณะเดียวกัน ต้องส่งเสริมวัฒนธรรมต่อต้านคนโกงอย่างต่อเนื่อง มีการนำนิยามของคำว่า “คอร์รัปชัน” ขององค์กรสหประชาชาติ ที่มีความหมายกว้างขวางทั้งการคอร์รัปชันในการบริหารราชการแผ่นดิน การเมือง และวัฒนธรรม มาแทนความหมายคำว่า “ทุจริต” ที่มีอยู่ในกฎหมายไทยซึ่งเน้นเฉพาะการโกงเงินทอง จัดตั้งสภายุทธศาสตร์การศึกษาเพื่อกำกับติดตามการปฏิบัติตามนโยบาย ป้องกันระบบการศึกษาให้ปลอดจากการเมือง แก้ไข พ.ร.บ.การศึกษาให้มีประสิทธิ ยกเลิกสถาบันกวดวิชา และใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีมาตรฐานในการกวดวิชา ปรับปรุงหลักสูตรใหม่ทุกระดับให้มีการเรียนการสอนเรื่องวินัยและหน้าที่พลเมือง

อย่างไรก็ตาม ในการเสนอของกลุ่มย่อยที่ 9 น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ตัวแทนของกลุ่มได้ให้ข้อมูลว่า ระบบการศึกษาไทยใช้เงินจำนวนมากแต่กลับไม่ได้ในเรื่องคุณภาพ ยกตัวอย่างการย้ายบุคลากรทางการศึกษาในบางจังหวัด หากจะย้ายจากชนบทเข้ามาในเมืองต้องเสียเงินตามจำนวนกิโลเมตรที่ย้ายเข้ามา บางรายมีรายงานด้วยว่าถึงกลับต้องเอาตัวเองเข้าแรก ซึ่งเมื่อ น.ส.สารีเสนอข้อมูลนี้นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้ดำเนินรายการก็ได้ถามน.ส.สารีว่านอกจากเสียเงินตามหลักกิโลเมตรแล้วยังต้องเสียตัวด้วยหรือ น.ส.สารีก็กล่าวว่า “ถูกต้อง” แต่ทั้งนี้ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็ได้แย้งว่า ข้อมูลที่ น.ส.สารีพูดแท้จริงไม่ควรนำมาเปิดเผยเพราะมีสื่อจำนวนมากฟังอยู่จะกลายเป็นว่า สปช.ไปกล่าวหาครูทำให้มีผลกระทบกับวงการครู จึงขอให้ น.ส.สารีระบุว่าเป็นความเห็นส่วนตัวได้หรือไม่ แต่ น.ส.ก็ยังยืนยันว่าเป็นข้อมูลจริง เมื่อเราต้องการปฏิรูปก็ควรต้องยอมรับปัญหาและข้อมูลที่เป็นจริง ไม่เช่นนั้นจะเป็นแค่การ “ปฏิลูบ” และข้อมูลนี้ยืนยันว่าเป็นข้อมูลที่มีการเสนอในวงสัมมนากลุ่ม ซึ่งนายเจิมศักดิ์ขานรับว่าไม่จำเป็นต้องกลัวสื่อรู้ เพราะตนก็เป็นสื่อและอยากรู้เช่นกันว่าเหตุเกิดที่จังหวัดใด

นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอในประเด็นการปฏิรูปการเมือง โดยนายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ สปช. อดีตอธิการบดีนิด้า และแกนนำ กปปส. นำเสนอความเห็นของกลุ่มย่อยที่ 9 ว่า มีข้อเสนอที่น่าสนใจคือขอให้สร้างความมีส่วนร่วมของประชาชน จัดตั้งสภาพลเมืองทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติผู้สมัครระดับท้องถิ่น และการประพฤติของนักการเมืองระดับชาติ เพื่อคัดกรองผู้ที่จะลงสมัคร จัดให้มีการศึกษาทางการเมืองแก่เยาวชนรุ่นใหม่ มุ่งเน้นความรู้ทางจริยธรรมทางการเมือง วัฒนธรรมและความเชื่อทางการเมืองระบอบประชาธิปไตย ต้องทำให้ประชาชนพ้นความยากจนไม่เป็นเหยื่อนักการเมืองซื้อเสียง ควรกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารไม่ให้นานเกินไปเพื่อไม่ให้สร้างอิทธิพล ปรับปรุง กกต.ทั้งระดับชาติ ระดับจังหวัดไม่ให้ถูกการเมืองแทรกแซง ทั้งระบบสรรหา และปรับกฎหมายเลือกตั้ง มีการกำหนดค่าการประเมินของนักการเมือง กำหนดวงเงินหาเสียงให้สอดคล้องกับความเป็นจริงตามช่วงเวลา การกำหนดโทษการทุจริตการเลือกตั้งทั้งแบบรุนแรงคือการซื้อเสียง ส่วนความผิดอื่นอาจเปลี่ยนเป็นค่าปรับ การทำให้พรรคการเมืองไม่เป็นพรรคของนายทุน ประชาชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนเงินทุนของพรรคหรือนักการเมือง มีองค์กรตรวจสอบถอดถอนที่มาจากภาคเครือข่ายประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น