นายกฯ ให้เริ่มจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ” ฉลองพระชนมายุ 5 รอบตั้งแต่ปีหน้า เผยได้ชื่อ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญในสัดส่วน คสช.-ครม.แล้ว วอนอย่าเพิ่งวิจารณ์ ขอให้ดูที่ผลงาน ขู่อย่าใช้อำนาจ-กำลัง ปราม “นกหวีด-แดง” กดดัน สนช.ถอดถอน “ปู-ค้อนปลอม-นิคม” อีกด้านวอนลดนำเสนอความเคลื่อนไหว “ทักษิณ” ผ่านโซเชียล อ้างบางกลุ่มหยิบไปเปรียบเทียบ พึมพำนักข่าวพยายามใจเย็นแล้วนะ รู้ว่าโมโหเร็ว ขอให้เข้าใจหน่อย ขอบคุณที่เตือน
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 โดยกล่าวว่า ได้ให้คณะกรรมการจัดงานเริ่มการจัดกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 31 ธ.ค. 2558 โดยจะให้มีการจัดกิจกรรมในทุกพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร และตามต่างจังหวัด อาทิ ท้องสนามหลวง ส่วนกิจกรรมจะมีอะไร และที่ไหนบ้าง ก็จะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป
ส่วนเรื่องการเสนอชื่อบุคคลที่จะเข้าไปกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในโควต้าของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเสนอชื่อในโควตาของ ครม. และ คสช. ฝ่ายละ 5 คน เพื่อเข้าร่วมในกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น ขณะนี้มีการคัดเลือกบุคคลไว้แล้ว ซึ่งในการประชุมร่วมของ ครม.และ คสช. ในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ย.) ก็จะเป็นการพูดคุยเพื่อสรุปรายชื่อ ขอร้องว่าอย่าเพิ่งวิจารณ์ตัวบุคคลที่ได้รับการคัดเลือก ขอให้ดูที่การทำงาน และเห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มการเมืองสองฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวกดดันสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในการพิจารณาถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภาว่า คสช.และฝ่ายความมั่นคงก็มีการพูดคุยกันถึงการมาวิพากษ์วิจารณ์การเมือง ตอนเชิญมาคุยก็รู้เรื่องทุกที แต่พอออกไปก็ไปพูดอีก เดี๋ยวคงต้องหามาตรการอื่นต่อไป ต้องระมัดระวังกัน เพราะไม่อยากไปจำกัดอะไร แต่อยากขอร้องให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและช่วยลดแรงกดดันบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นก็เดินไปไหนไม่ได้ เราพยายามให้โอกาสทุกคนได้แสดงออกอยู่แล้ว แต่ถ้าแสดงออกแล้วทำให้เกิดปัญหาก็ต้องหามาตรการอื่นต่อไปซึ่งฝ่ายความมั่นคงกำลังพิจารณา
เมื่อถามว่า ทั้งสองฝ่ายขู่จะนำม็อบออกมากดดัน สนช. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ผิดกฎหมายทั้งหมด พวกเราทุกคนต้องก้าวพ้นกับดักของประเทศให้ได้ โดยเฉพาะกับคำว่ากับดักประชาธิปไตย วันนี้เรามาแก้เพื่อให้เดินไปสู่อนาคต แต่ถ้ายังแก้แล้วกลับไปสู่ปัญหาเดิมๆ มันไม่ได้ ปัญหาเดิมก็ต้องปล่อยให้กระบวนการทางกฎหมายว่าไป คนผิดกก็ต้องว่าไปตามผิด กฎหมายนี้ไม่ได้ก็ไปใช้กฎหมายอื่นดำเนินการ มันมีวิธีอีกเยอะแยะ ไม่ใช่ว่า คสช.จะต้องทำทุกอย่างทั้งหมด ถ้าจะให้ทำอย่างนั้นก็ต้องใช้อำนาจเต็มที่ ใจเย็นๆ
เมื่อถามว่า ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะไม่เห็นภาพการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้บอกว่าไม่ให้คนออกมาชุมนุม ไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแต่การชุมนุมมันผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นต้องไปว่า อย่ามาชุมนุมเลย มีอะไรก็เสนอความเห็นมาดีกว่า อย่าใช้ม็อบมากดดันกันมันก็เหมือนเก่า ตนก็ต้องออกมาใช้กฎหมายอยู่ดี ซึ่งมันก็จำเป็น อย่ามาพูดจาข่มขู่กันไปมาอย่างนี้ มันไม่ได้ ประชาชน ประเทศชาติจะอยู่ตรงไหน ถามเขาบ้างหรือเปล่า คนที่ออกมาบอกว่าจะออกมาเคลื่อนไหวนั้นถามหรือพูดคนทั้งประเทศบ้างหรือเปล่า ถ้าไปปลุกระดมแล้วมีปัญหา มีผลกระทบกันระหว่างรัฐกับประชาชน แล้วประเทศจะไปข้างหน้าอย่างไร ทุกคนก็อยากให้เกิดความสงบเรียบร้อย หรือสื่ออยากให้มีเรื่องทุกวันจะได้เขียนข่าว
เมื่อถามว่า มีรายงานหรือไม่ว่าจะมีม็อบกลุ่มไหนจะออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า มีรายงานทุกวัน เตรียมการไว้แล้ว ไปตามลำดับขั้นตอนที่มีอยู่ เรากำหนดขั้นตอนไว้หมดแล้ว สื่อก็ต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจด้วยว่าอย่าออกมาเลย บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี ต่างชาติก็ให้การยอมรับ ถ้าออกมาบ้านเมืองก็วุ่นวาย ต่างชาติก็ไม่ยอมรับ ประเทศชาติจะเดินหน้าอย่างไร การค้าการลงทุนต้องชะลอตัวแล้วก็จะแก้อย่างไร ทุกวันนี้พยายามแก้เพื่อคนส่วนใหญ่ และต้องไม่ลืมประโยชน์คนส่วนน้อยด้วย นึกถึงประโยชน์คนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่จะนึกถึงแต่คนที่ชื่นชอบ คนที่เห็นต่างก็ต้องฟังเขาด้วย และนำมาสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน แต่ถ้าทุกคนยังตั้งหลักว่าจะต้องเอาแพ้เอาชนะกันด้วยเรื่องเดิมๆ ก็คงไม่ใช่ มันไม่ใช่วาระเวลานี้ เอาไว้ให้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก่อน ค่อยมาว่ากัน แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่
เมื่อถามว่า เป็นเพราะช่วงหลังหัวหน้า คสช.ใจดีหรือเปล่าา ถึงได้มีข่าวว่าจะมีการชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ใช่ใจดี แต่เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการไปตามสถานการณ์ บางครั้งตนจำเป็นต้องใช้อำนาจในทางสร้างสรรค์ แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องจำเป็น ดังนั้นจึงอยากให้คนไทยทุกคนเข้าใจ ถ้าคนไทยไม่เข้าใจ แล้วจะให้ต่างชาติมาเข้าใจได้อย่างไร เมื่อถามว่ามาวันนี้นายกฯไม่ได้หวั่นไหวการเคลื่อนไหวทางการเมืองใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าไม่หวั่นเลย แต่ใช้คำว่าเตรียมการดีกว่า เพราะตนตั้งใจเข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งปัญหาต่างๆต้องขอให้ยุติไปก่อน
เมื่อถามว่า ประเด็นถอดถอนจะกลายเป็นประเด็นเปราะบางสำหรับรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ใช่รัฐบาล แต่เป็นเรื่องของกฎหมายที่ว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามนั้น เมื่อถามต่อว่าจะกระเทือนต่อการทำงานรัฐบาลที่กำลังราบรื่นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า จะสะเทือนหรือไม่สะเทือนอยู่ที่พวกเรา ทำอย่างไรให้ลดระดับลง ทำอย่างไรให้คนเข้าใจว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียบข้อบังคับต่างๆ ไม่เช่นนั้นปัญหาก็เกิดอีก ถ้าไม่พอใจก็ร้องทุกข์กล่าวโทษได้
เมื่อถามว่า แต่ตอนนี้มีการเสนอข่าวการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็อย่าไปเสนอ คนผิดกฎหมายก็อย่าไปเสนอภาพคนผิดกฎหมายก็จบแล้ว แล้วเสนอทำไม ขอความร่วมมือสื่อว่าอะไรที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมก็ขอสื่อลดการนำเสนอ พอมีการนำเสนอก็จะมีคนนำมาเปรียบเทียบเรื่องนี้เรื่องนั้นว่าทำไมรัฐบาลไม่ทำ ถ้าท่านไม่เสนอข่าวก็เบาลงไปแล้ว ส่วนเรื่องของโซเซียลก็เป็นเรื่องของโซเซียล หนังสือพิมพ์ก็เป็นเรื่องของหนังสือพิมพ์ ในทางโซเซียลที่เขียนในทางไม่ดีก็มีการติดตามอยู่ ถ้าเขียนในทางสร้างสรรค์ก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไร ซึ่งอะไรรับได้ก็รับได้ อะไรที่เขียนเสียหายมันไม่ได้ เพราะอย่างน้อยเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิส่วนบุคคลของแต่ละคน
“ผมขอร้อง ทุกประเทศเขามีมาตรการหมดแล้ว มีแต่ประเทศไทยที่ยังคุมไม่ได้ เพราะทุกคนต่างคิดว่าเสรีภาพสื่อ เสรีภาพประชาชน แต่หากเสรีภาพไปละเมิดสิทธิ และความขัดแย้งของผู้อื่นก็ไม่สมมควร อย่าให้ต้องใช้กฎหมายทุกอัน อย่าให้ต้องใช้อำนาจ อย่าให้ต้องใช้กำลังกันเลย วันนี้มาพูดจากัน หาทางออกให้ได้ดีกว่า เรื่องที่ทำให้เป็นปัญหาแล้วจะทำอย่างไร ไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่เดินหน้าประเทศไปได้ ไม่อย่างนั้นก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีก แล้วประเทศไทยก็ถอยหลังไปเรื่อยๆ เราจะอยู่อย่างไร เพราะเศรษฐกิจทั้งโลกก็ชะลอตัว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ไทยมีแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายตามที่มีการวิเคราะห์กันมา กับประเทศเพื่อนบ้านก็ใกล้เคียง เพราะเศรษฐกิจชะลอตัว ประเทศเรามีการส่งออกเป็นหลัก 70-80 เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้เป็นปัญหา เพราะถ้าวันหน้าของที่เราส่งได้กลับส่งไม่ได้จะทำอย่างไร รวมถึงปัญหาแรงงานข้ามชาติ การจัดระเบียบเรือประมง แก้ปัญหารุกล้ำน่านน้ำและการค้ามนุษย์ในเรือ ถ้าเราแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้จะมีปัญหาไม่ซื้อสินค้าบ้านเรา ต้องมาแก้ปัญหาตรงนี้ ถ้าไม่แก้ก็ตีกันเรื่องเดิม เรื่องข้างหน้าก็เดินไปไม่ได้ เศรษฐกิจตกก็มาโทษตนอีก ท่านอยู่ซ้ายอยู่ขวาก็ขอให้คุยกัน ให้ทางนี้เขาว่าไป หากประเทศเดินหน้าไม่ได้ ก็เข้าสู่กระบวนการ วันนี้ประเทศชาติขึ้นอยู่กับเราทุกคน ขอร้องสื่อด้วย ตนพยายามพูดกับสื่ออย่างใจเย็นที่สุดแล้ว
“ผมรู้ว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างโมโหเร็ว วันนี้เย็นลงไปเยอะแล้ว เพราะผมมองประเทศชาติเป็นหลัก เห็นใจผมหน่อย เห็นใจคนไทย เห็นใจประเทศไทยด้วย อย่าซ้ำเติมกันอีกเลย ประเทศไทยถอยหลังมามากแล้ว ต้องเดินไปข้างหน้า ขอบคุณสำหรับแรงใจที่สนับสนุนไม่ว่าจะสนับสนุนมากหรือน้อย ใครที่สนับสนุนน้อยอยู่ก็ขอให้เข้าใจเรา ก็น่าจะดีขึ้น ถ้าใครไม่สนับสนุนเลย ก็ขอให้เข้าใจเราบ้าง ฟังเราพูดบ้าง ถ้าไม่ฟังเราเลย ถ้าเอาความเกลียดชัง เอาผลประโยชน์ เอาอะไรต่างๆมากก็จะมีปัญหาตลอด คนไทยมีปัญหาเรื่องเดียว หวังดีทุกคน เก่งทุกคน แต่คุยกันไม่ค่อยได้ ตรงนี้คือปัญหา ฝากทุกคนด้วยนะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนในไตรมาสแรกปี 58 ต้องให้เวลาในการแก้ไขปัญหา บางอย่างไม่ได้แก้ไขในวันเดียว เพราะมีมานานแล้ว เศรษฐกิจก็เกิดมานานแล้ว ก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามา มันเป็นอย่างนี้มาตลอด เราก็กำลังวางรากฐาน จะทำอย่างไรให้ยั่งยืน แต่มันแก้วันเดียวไม่ได้ เพราะมีความเกี่ยวพันยึดโยงหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน ขอให้เห็นใจเราหน่อย เมื่อถามว่าปีใหม่นี้ ได้สั่งการแต่ละกระทรวงทำอะไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ทุกกระทรวงทำอยู่แล้ว ในการดูแลคน ทำอย่างไรให้มีความสุข การประชุมผู้ประกอบการหลายคนวันนี้ก็บอกว่ายินดีให้ทุกคนมีความสุขในหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องรับแขก แจกของ แต่เป็นเรื่องของความสุขในช่วงปีใหม่ การใช้จ่ายสินของราคาถูก อย่างกรมที่ดินกำลังหาที่ดินให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน ครอบครัวไม่เกิน 15 ไร่ ที่เดือดร้อนจากการจัดระเบียบ การผ่อนผันการค้าขายซึ่งจะมีการหามาตรการที่จะมีการผ่อนผันออกมา แต่ก็ต้องให้สงบ สะอาด เรียบร้อย ต้องเห็นใจคนจน แต่ก็ต้องเห็นใจรัฐบาลบ้าง เห็นใจประเทศ เพราะเป็นภาพรวมของประเทศ ทุกอย่างต้องใช้เวลา เมื่อถามว่า โหรวารินทร์ทำนายรัฐบาลจะอยู่ถึง 3 ปี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไปตามโหร ตนไม่รู้
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีการนำเสนอข่าวการขายที่ดินมรดกที่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ปล่อยเถอะ ว่ากันไป เพราะตนได้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายแล้ว และถ้าตนไม่มั่นใจคงไม่เสนอบัญชีทรัพย์สิน และตอนนี้ได้เสนอไปแล้ว ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ตนให้ความร่วมมือทุกอย่างแล้ว ก็ไปดูให้ความเป็นธรรมกับทุกคนด้วย