xs
xsm
sm
md
lg

“ถาวร” จี้ อสส.รวมคดีเผาเมือง 53 เตือน คสช.รับมือให้ดี หวั่นโดนเหมือน “มาร์ค-พระสุเทพ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. (แฟ้มภาพ)
แกนนำ กปปส.เผยดีเอสไอยุค “ธาริต” แบ่งสำนวนคดีเผาเมืองปี 53 เป็น 4 กลุ่ม แต่อัยการสูงสุดกลับไม่ฟ้อง “ทักษิณ” แถมพนักงานสอบไม่ตั้งข้อหาใครคือคนฆ่า ทำเจ้าหน้าที่ไม่มีโอกาสนำข้อเท็จจริงมาเปิดเผย ถามกระบวนการส่อช่วยใครหรือไม่ จี้ “ตระกูล” รวมเป็นคดีเดียว แนะ คสช.รับมือให้ดี ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับ “อภิสิทธิ์-พระสุเทพ”

วันนี้ (26 ก.ย.) นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตั้งข้อสังเกตถึงการทำคดีที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองจนบายปลายเป็นเหตุเผาเมืองในปี 2553 ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า จากการสอบสวนของดีเอสไอในยุคที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีได้แบ่งสำนวนออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มคดีก่อการร้าย 2. กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ออกมาปฏิบัติตามคำสั่ง 3. กลุ่มคดีที่ประชาชนถึงแก่ความตายและ 4. กลุ่มเจ้าหน้าที่ตาย ปรากฏว่าสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้แยกสั่งฟ้องคดีก่อการร้ายสำหรับผู้ต้องหาบางคน แต่กลับไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อมีข้อเท็จจริงว่าการก่อการร้ายเมื่อปี 2553 มีการแยกสำนวนออกเป็นส่วนๆ นั้นส่อเจตนาว่าทำเพื่อช่วยเหลือใครหรือไม่ ในกรณีเดียวกันมีการไต่สวนคดีชันสูตรพลิกศพ เมื่อพนักงานสอบสวนไม่ตั้งข้อกล่าวหาว่าการตายเกิดจากเจ้าพนักงานคนใด ตำรวจและทหารจึงไม่มีโอกาสนำข้อเท็จจริงมาเปิดเผยในชั้นไต่สวนชันสูตรพลิกศพว่าฝ่ายกองกำลังติดอาวุธของผู้ชุมนุมได้ยิง เจตนาฆ่าและฆ่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงขว้างระเบิดเพื่อสังหารเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นเหตุให้การค้นหาความจริงในการไต่สวนชันสูตรพลิกศพถูกบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะไม่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ออกปฏิบัติการตามหน้าที่ได้นำเสนอความจริงต่อศาลว่ามีการใช้อาวุธ มีกองกำลังติดอาวุธสงคราม มีชายชุดดำมาทำร้ายประชาชนก่อน

นายถาวรกล่าวว่า กระบวนการทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการที่ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นคนในระบอบทักษิณมาตั้งแต่ต้น ตนไม่อยากเห็นนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุดคนปัจจุบันซึ่งตกอยู่ในวงล้อมของกระบวนการระบอบทักษิณ ตกเป็นเหยื่อของการช่วยเหลือคนในระบอบทักษิณ อัยการสูงสุดคนปัจจุบันต้องทบทวนการดำเนินคดีที่แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม และรวมคดีมาเป็นหนึ่งเดียว เพราะข้อเท็จจริงเกี่ยวโยงกันทั้งหมด ทั้งยังสามารถให้ความเป็นธรรมตามความเป็นจริงได้ กระบวนการนี้เริ่มต้นด้วยการพลิกกลุ่มผู้ก่อการร้ายเป็นผู้ก่อการดี รวมถึงคดีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะอดีตนายกฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ เพราะแผนนี้เมื่อขจัดนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพได้สำเร็จก็จะจัดการแม่ทัพนายกองที่ปฏิบัติหน้าที่มาเป็นจำเลย เพราะอยู่ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง

“ดังนั้น ทหาร ตำรวจที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ขณะนั้น เวลานี้มาเป็น คสช.จึงขอให้เตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องนี้ให้ดี ไม่เช่นนั้นจะตกอยู่ในฐานะเดียวกับนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ จึงขอให้สำนักงาน อสส.อย่ารับลูกจากสำนวนเดิมของดีเอสไอยุคนายธาริต มาเล่นต่อ ที่ผมออกมาแสดงความเห็นมานี้เพราะยังรักสถาบันอัยการ และเพื่อให้เกิดความยุติธรรม เป็นธรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับการสร้างวาทกรรม และการสร้างสถานการณ์” นายถาวรกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น