xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” จ้อไม่มีใครเป่าหูคนไทยรักกันอยู่แล้ว แนะ ขรก.ยิ้มแฉ่ง-อย่าจัดฉาก เบื่อ “เปิ้ล” ดูหนังมากไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกฯ ชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อผู้บริหารระดับสูง เผยอุปสรรคยังมี เศรษฐกิจตกต่ำ ความขัดแย้งยังอยู่ ต้องแก้ให้ได้ เผยที่ผ่านมาใช้จ่ายงบปี 57 ปีหน้าเน้นบูรณาการ ปฏิรูป 11 ด้าน ระวังเรื่องโกงมากที่สุด ชี้หากไม่มีคนเป่าหูคนไทยรักกันอยู่แล้ว พร้อมลุยแก้เศรษฐกิจ กำชับทุกกระทรวงใช้งบคุ้มค่า แจงผลการดำเนินงาน ครม. ทุก 3 เดือน แนะให้ใช้คำพูดแบบประชาชน ยันไม่เข้าข้างไมค์แพงหูฉี่ แนะข้าราชการยิ้มแฉ่งให้ได้ เตือนค่านิยมอย่าจัดฉาก เบื่อ “กริชสุดา” ใส่ร้าย บอกดูหนังมากไป

วันนี้ (17 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อผู้บริหารระดับสูง ว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแต่พร้อมที่จะนำพาประชาชนและประเทศชาติในการก้าวไปสู่การมีอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน วันนี้เราอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของคนในประเทศเราถึงเกิดขึ้นมาได้ในทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นการหยุดชะงักทั้งเศรษฐกิจในและนอกประเทศ การพัฒนาต่างๆ ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หรือเรียกว่าเราอยู่ในฐานะไร้อนาคตเลยด้วยซ้ำในช่วงที่ผ่านมา วันนี้เราจะมาสร้างอนาคตกันใหม่

นายกฯ กล่าวด้วยว่า อุปสรรคของการทำงานมีอยู่บ้าง ที่มีขีดจำกัดคือในเรื่องของเวลา ปัญหาต่างๆ มากมายสถานการณ์ภายในก็ยังไม่นิ่งนัก ยังมีความขัดแย้งกันอยู่ ใต้ดิน ใต้น้ำหรือในโซเชียลมีเดียก็ยังมีอยู่ วันนี้โลกก็ไร้พรมแดน ระบบไฮเทคต่างๆ ก็ยังเป็นอุปสรรคของพวกเราในการทำงานซึ่งเราก็รับฟังความเห็นทุกคน ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะที่ตกต่ำ ซึ่งไม่ใช่ประเทศเราประเทศเดียว ไม่ใช่เป็นเพราะพวกเรามาแล้วทำให้เศรษฐกิจตกต่ำแต่มันเป็นมานานแล้วและสอดคล้องกับภาวะของประเทศด้วย ซึ่งเราต้องเอาปัจจัยและภายนอกประเทศมาดู เรามีปัญหาตรงไหนและจะแก้กันอย่างไร วันนี้เศรษฐกิจโลกตกต่ำ ความขัดแย้งในบางประเทศก็ยังมีอยู่ บางประเทศมีสงคราม ซึ่งตนคิดว่าพวกเราทุกคนคงไม่อยากให้เหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีกเพราะหากปัญหาบานปลายไปแล้วก็จะฉุดไม่อยู่ และถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ต้องแก้ปัญหาให้ได้ต้องแก้ที่ต้นเหตุเพราะหากแก้ที่ปลายเหตุก็คงไม่ทันใช้กฏหมายแก้ทีหลังก็มีปัญหาทุกที

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ปัญหาพันธสัญญาต่างๆ เรามีมากมายหลายประเทศเราเป็นสมาชิกหลายองค์กรทั้งด้านความมั่นคงเศรษฐกิจการค้า ข้อตกลง FTA หรือ WTO ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากภายนอกประเทศที่เป็นปัจจัยที่ทำให้ประเทศเราต้องมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลง ส่วนปัญหาภายในของเราเองคือประชาชนมีความเหลื่อมล้ำ ทั้งด้านคุณภาพชีวิต อาชีพ รายได้ ขณะเดียวกันก็มีขบวนการบ่อนทำลายอยู่ด้วยเป็นการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งต้องช่วยกันระมัดระวังและปกป้องให้ได้ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ปัญหาอยู่ตรงไหนต้องไปตรงนั้น

นายกฯกล่าวด้วยว่า สิ่งที่เราทำมาตั้งแต่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา มีหลายอย่าง การบริหารราชการแผ่นดินภายใต้การนำของคสช.ซึ่งตนไม่ได้เอาแนวทางอะไรใหม่ๆ มามากนักเป็นเพียงแค่การกำกับดูแลให้เป็นไปตามระเบียบบริหารราชหารแผ่นดินปกติเป็นส่วนใหญ่ ประเด็นสำคัญคือเหมือนบ้านเราหรือร่างกายเรามีเลือดออก เราก็ต้องหยุดเลือดให้ได้ก่อนแล้วค่อยซ่อมแซมกันไป และวันนี้เราก็หยุดความขัดแย้ง หยุดความแตกแยกได้ระดับหนึ่ง ประมาณ 90% ซึ่งการทำงานของข้าราชการขณะนี้ถือได้ว่าไร้แรงกดทับจากรัฐบาล และ คสช. ก็ทำให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และตนก็พอใจที่ข้าราชการทุกคนสดชื่นในการทำงานก็ยินดี

นายกฯ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ผ่านมาคือการใช้จ่ายงบประมาณปี 57 งบประมาณที่ทำไม่ทันก็ปรับให้เกิดความเหมาะสม และที่สำคัญคือ การปรับงบประมาณบางส่วนไปจ่ายให้เกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินจากการขายข้าว ตนเห็นบางโครงการค้างมาตั้งแต่ปี 51 หรือปี 52 ซึ่งไม่รู้ว่าค้างมาได้อย่างไร ทั้งงบเยียวยา ช่วยน้ำท่วม ภัยพิบัติ แต่กลับมีงบประมาณเหลืออยู่ในช่วง 6 เดือนหลัง ตนไม่เข้าใจแต่ต่อไปนี้จะไม่มี การแก้ปัญหาเร่งด่วน ตนเร่งรัดไปแล้วเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณปี 57 ปรับให้เหมาะสมและหากโครงการไหนทำไม่ทันก็ผูกพันไปปี 58

“งานปี 57 ที่ทำไม่ได้มีหลายอย่าง มีทั้งปัญหาการเมือง การประท้วง รัฐบาลไม่มีอำนาจเต็ม ซึ่งผมก็ย้ำอีกครั้งว่าผมไม่ได้ไปยึดอำนาจจากรัฐบาล แต่เพราะรัฐบาลทำหน้าที่ไม่ได้ ฟังดูก็โอเค เพราะว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจเต็มที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน อนุมัติโน่นก็ไม่ได้ ค่าข้าวก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมก็เลยมาช่วยให้ก็แค่นั้น อย่าคิดมาก” นายกฯ กล่าวและว่าเราจะแก้ปัญหานี้ไปด้วยกันในปี 58 นี้ต้องบูรณาการด้วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ การเตรียมพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งขณะนี้ยังไม่มีอะไรเลยแต่ละหน่วยงานก็ต่างคนต่างเดิน วันนี้เราตั้งคณะกรรมการไปแล้วก็จะมาปรับให้เหมาะสมขึ้น ส่วนการทำให้หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นก็มีการตั้งบอร์ดตั้งคณะกรรมการใหม่ และขออย่าว่าเลยว่ามีทหารเข้าไปเพราะมีทหารจะได้ไม่โกง แต่ถ้าทำไม่ดีก็ปรับออกได้ ถือเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ใช่เป็นการตั้งเพื่อตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่เจอมาถือเป็นประเด็นสำคัญที่เราต้องระมัดระวังที่สุด ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.เป็นต้นมาตนระมัดระวังเรื่องนี้มากที่สุด เพราะเราถูกจับตามองทั้งภายนอกและภายในประเทศและองค์กรต่างๆ ตนเข้าใจดีถึงเจตนาอันบริสุทธิ์ แต่ขั้นตอนและวิธีการที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาด้วย

นายกฯ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีหน้าที่หลายประการนอกจากบริหารประเทศแล้วยังมีเรื่องการปฏิรูปอีก 11 ด้าน และยังมีเรื่องการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ที่ผ่านมาจ้องจะตีกันอย่างเดียว ไม่เคยฟังเพลงเราก็ให้มาฟังเพลงกันก่อนให้ใจเย็นๆ ตั้งสติ ทบทวนว่าอะไรผิด อะไรถูก ตนว่าถ้าไม่มีใครมาเป่าหูตนว่าคนไทยรักกันอยู่แล้ว และข้าราชการก็ต้องช่วยลดความขัดแย้งตรงนี้ให้ได้ วันนี้หลายคนบอกอาจจะสงบชั่วคราว แต่ตนว่าน่าจะยั่งยืน หรือมีใครอยากชก หรืออยากตีกันอีก มีม็อบ มีความรุนแรงต้องการกันเหรอ บ้านเมืองก็เสียหาย ตนว่าพอแล้วล่ะ เป็นบทเรียนได้แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างการเมืองปัจจุบัน การเมืองไทย ใช้สติปัญญาคนไทย คิดอกมาว่าจะทำอย่างไรในการเปลี่ยนแปลงสติปัญญาสากลให้เป็นสติปัญญาแบบไทยๆ แต่สากลต้องยอมรับ เรามีทุกอย่างไม่เหมือนเขาทุกคนทราบดี การขาดความสามัคคีของคนในชาติ สาเหตุเพราะความยากจน ความรู้พื้นฐานไม่เท่ากัน ทุกคนโทษโชคชะตาบ้าง โทษรัฐบาลบ้าง โทษใครไปเรื่อยเปื่อย ท้ายสุดมีคนมาชี้นำ จนทำให้เกิดความเสียหายทุกสถาบัน เกิดความไม่เชื่อมั่น ฉะนั้นสิ่งสำคัญในความสามัคคีทุกคนต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจ ให้ประชาชนในทุกระดับทุกฝ่าย ให้ใช้คำพูดแบบประชาชน อย่าใช้คำพูดแบบราชการ เช่น เวลาตนให้ไปชี้แจงต่อชาวบ้านเขามาจะสรุปกับตนเป็นศัพท์ราชการ ตนเป็นทหารฟังแล้วก็ปวดหัว ให้ไปทำใหม่ ให้คิดแบบที่คนมีรายได้น้อยเค้าคิด เขาสงสัยตรงไหนให้พูดกับเขาทีละเรื่อง อย่าไปพูดยึดโยงให้หมดเพราะเขาจะไม่เข้าใจ ต้องไปร่างให้ดีก่อนจะพูดกับประชาชน เพราะการสื่อสารกับประชาชนในระดับล่างเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนั่นคือแรงใจ และเป็นความตั้งใจที่จะเกิดขึ้นกับพวกเรา คนรายได้กลาง รายได้สูงเขาอยู่กับเราอยู่แล้ว ดังนั้น เราต้องให้ความเป็นธรรมกับคนรายได้น้อย จะทำอะไรก็นึกถึงเขา เหมือนที่มีพวกพี่ๆ สอนตน การจะสั่งการคน 1.ความคิดของเรา 2.คิดว่าสั่งไปแล้วลูกน้องจะรู้สึกอย่างไร จากนั้นเราต้องตีกรอบพอสมควร อย่าปล่อยอิสระมากนัก ทหารถึงอยู่ได้เพราะมีวินัยในการเข้าแถว ไม้อย่างนั้นก็รบกันตาย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การสั่งบางอย่างเรามองว่าถ้าสถานการณ์ปกติ บ้านเมืองพัฒนาไปทุกระบบ ประชาชนมีสิทธิเท่าเทียมกันเรื่องพื้นฐานต่างๆ ก็ไปตามนั้น เพราะมีความเจริญแล้ว ในส่วนของเราคงต้องพูดให้ถึงข้างล่าง ต้องเริ่มต้นใหม่ ทุกกระทรวงที่ต้องพบปะประชาชนให้อดทน เพราะเขามาด้วยความลำบาก หรือมีใครจ้างมา หรือมาด้วยเหตุผลอื่นๆก็ตาม เราต้องมองว่าเขามาด้วยความเดือดร้อน เป็นตนถ้าต้องมานอนข้างถนนทำเนียบฯคงไม่มา เพราะฉะนั้นอย่าให้เขาต้องมาอีกเป็นหน้าที่ของทุกกระทรวง ถ้าเราทำให้ประชาชนมีรายได้ ลดความเดือดร้อน เขาจะมีความเข้าใจมากขึ้น และเมื่อมีคนมาชี้นำในทางที่ผิดก็จะไปกันใหญ่ และวันนี้ก็โทษกันไปหมด สถาบันก็ถูกดึงลงมา ซึ่งไม่ใช่ สถาบันคือสิ่งสำคัญ ซึ่งวิธีการที่ใหม่ในการสร้างให้คนรุ่นใหม่เข้าใจว่าก่อนที่บ้านเมืองจะเป็นวันนี้สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงทำอะไรบ้าง เพราะคนรุ่นใหม่ไม่เคยเห็น ตนเคยได้ยินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงรับสั่งว่าทรงเริ่มต้นโครงการพระราชดำริด้วยเงิน 1 ล้านบาท นั่นคือสิ่งที่ท่านทรงเริ่มต้นมาให้ วันนี้เราจึงต้องทำตามแนวทางพระราชดำริที่ท่านทรงทำไว้ ประยุกต์นำมาใช้ ทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องทำแบบนี้ และต้องมีวิทยากรในการสร้างการเรียนรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ประชาชนเข้าใจ ลงไปเดินหาชาวบ้าน ไม่ต้องแต่งตัวสวยมาก ลดตัวเองลงมา จากข้าราชการระดับสูงให้ถึงพื้นหน่อย อย่าปล่อยให้ทหาร ตำรวจ ไปเลย เพราะประชาชนจะกลัว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในการจัดทำยุทธศาสตร์ประเทศนี้ เราทำให้ยั่งยืน ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม รวมกับการแก้ไขกฎหมายเร่งด่วนของชาติ ทั้งเรื่องเดือดร้อนการตัดไม้ทำลายป่า ที่มีนายทุน ตนไม่เคยเห็นจับใครได้ ต้องไปหารายใหญ่มาให้ได้ ส่วนปัญหาการค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าว สินค้าเกษตรตกต่ำ การบริกการของรัฐวิสาหกิจ ด้านพลังงาน การดูแลผู้มีรายได้น้อย เรื่องภาษี ในเมื่อเราต้องการเงินในการพัฒนาประเทศ เราต้องทำแล้วไม่เกิดปัญหาในอนาคต ไม่เกิดหนี้สาธารณะ นำคนกลับเข้ามาในระบบภาษี สำหรับการแก้ไขกฎหมายต่างๆที่ไม่สอดคล้องกับต่างประเทศ มีความล้าสมัย วันนี้เราออกให้ได้ แต่ต้องมีความสอดคล้องกับคนไทยด้วย ตนเชื่อว่าคนไทยมีความแข็งแรงที่สุด สู้ใครสู้ได้ มีอุบายในการต่อสู้ตลอดเวลา รอบบ้านเขากลัวเราหมด

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้เราอยู่ในระยะที่ 2 ของโรดแมป มีรัฐบาล มีนายกฯ และ ครม. ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. แต่ทำไมไม่เข้าเข้าทำเนียบฯ สักที เพราะเรารอเวลาที่เหมาะสมตามจารีตประเพณี ไม่ใช่ไปรอฤกษ์ตามสื่อ เพราะฤกษ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้เป็นฤกษ์ที่ดี วันดีของพวกเรา แต่เรื่องทางศาสนาก็ต้องมีบ้าง ในระยะที่ 2 นี้ ก่อนการประชุม ครม. ครั้งแรกก็มีปัญหาไมโครโฟน ก็ต้องสืบสวนกันต่อไปให้ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งคนที่นำไมโครโฟนมาติดตั้งต้องดูที่เจตนา ตนยังไม่ว่าใครถูกใครผิด ไม่เข้าข้างใครอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีการอภิปรายเรื่องงบประมาณ ตนได้อธิบายแนวทางเรียบร้อยแล้ว หลักการของงบประมาณเราใช้หลักทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เราต้องสนับสนุนให้คนพอเพียง เพราะปัญหาคนยากจนวันนี้ต้องการมีทุกอย่างเหมือนคนมีเงิน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราทำวันนี้คือต้องสร้างความเข้มแข็งระหว่างภาครัฐ ภาคราชการ และประชาชน ให้ร่วมมือกัน วันนี้เราได้สร้างห่วงโซ่ทางด้านเศรษฐกิจ เชื่อมต่อกับการลงทุนต่างประเทศ ฉะนั้นสิ่งสำคัญของเราคือการเป็นข้าราชการที่ดีของแผ่นดินเหมือนที่ที่ถวายสัตย์ฯ อย่าคิดว่าเราก็ดีแต่ทำไมเราไม่โต ไม่ได้เป็นอธิบดี เป็นปลัดอย่าคิดอย่างนั้น ทุกคนมีโชคชะตาของตนเองอยู่แล้ว มีคนบอกตนว่าอยากสบายต้องทำกุศลมา 2 ชาติ ดังนั้นทุกคนต้องร่วมมือกันในการเป็นข้าราชการที่ดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการให้บริการและดูแลทุกสุขของประชาชน เลิกทุจริตคอรัปชั่นอย่างเด็ดขาด ใช้จ่ายงบประมาณให้คุ้มค่า และเราโชคดีที่มีงบสำรองการคลังอยู่ 3 แสนกว่าล้านบาท ถือว่าฐานะการเงินการคลังเรายังดีอยู่ หนี้สาธารณะประมาณ 43 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเราต้องคำนวณการใช้เงินตลอด

นายกฯ กล่าวว่า ปีนี้ถ้าเราไปอ่านตั้งเลขงบที่ตนให้ทำมีประมาณ 14 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีกระทรวงที่เกี่ยวข้องในการใช้งบประมาณ ซึ่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแต่ละกลุ่มงานจะไปบูรณาการงบไม่ให้ซ้ำซ้อน ทำตามความเร่งด่วน และลำดับความเดือดร้อน และแต่ละกระทรวงห้ามเหลืองบโดยไม่มีแผนงานรองรับในปลายปี ไม่เช่นนั้นปีหน้าจะตัดงบออก นอกจากนี้ยังมีเรื่องงบสัมมนา ต้องมีการปรับปรุงใหม่ ในประเทศเป็นหลัก ต่างประเทศเท่าที่จำเป็น ต่อไปนี้เวลาไปดูงานต้องสรุปผลว่าไปแล้วได้อะไรกลับมา ให้นายกฯหรือรัฐมนตรีประจำกระทรวงทราบ และประเภทอัปเกรดตนเห็นเอกสารถึงการท่าฯขออัปเกรดบุคคลขึ้นชั้นธุรกิจนั่งแถวหน้า ที่เหลือนั่งชั้นสอง ซึ่งทำไม่ได้ เดี๋ยวตนจะนำรายชื่อให้หน่วยงานลงโทษ ดังนั้น เราต้องมีมาตรการควบคุมทุกหน่วยงาน การใช้จ่ายงบต้องเห็นผลกับประชาชน มีความรับผิดชอบในการใช้จ่ายงบประมาณรัฐทุกท้องถิ่น ทุกภาคส่วน รัฐมนตรีมหาดไทยต้องไปกำหนดการดำเนินการท้องถิ่น และมีแพลนในการเดินต่อไปในปีหน้า ทุกกระทรวงก็เหมือนกัน ฉะนั้นจะต้องมีการตรวจสอบ ทุก 3 เดือนต้องมีการรายงานผลสัมฤทธิ์ทุกกระทรวงต่อครม.ว่าทำอะไรไปบ้าง เราจะมีการตรวจสอบงบประมาณ จะไม่จ่ายงบให้กับแผนงานที่ไม่มีความพร้อม ไม่ผ่านการทำประชาวิจารณ์ เพราะหากอนุมัติไปแล้ว เกิดมีการร้องเรียนก็ต้องโยกงบประมาณไปปีหน้าอีก

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องการตรวจสอบเรามี คสช. คตร. สตง ป.ป.ช. ผู้ตรวจราชการมีหน้าที่ ต่อไปนี้ทุกกระทรวงต้องทำงาน และเสริมด้วยภาคประชาชน เพื่อความโปร่งใส กำหนดการทำงานให้ได้ว่าอะไรคือภารกิจหลัก ภารกิจรอง ต้องมีการประชุมประสานงานร่วมกัน ตอบคำถามสังคมได้ว่าประเทศชาติจะเดินไปอย่างไร

นายกฯ กล่าวอีกว่า ปัญหาวันนี้พวกเราคือการให้บริการขนส่งไม่ทั่วถึง รถเมล์ยังซื้อไม่ได้ ไม่รู้ล้มมากี่ครั้ง เรามียอด 3-4 พันคัน ตนบอกให้ไปหารถใหม่มา 1 พันคัน ซื้อมาอย่างโปร่งใส อีกทั้งของเก่าทุกอย่างยิ่งซ่อมยิ่งแพง รถถังกองทัพบกทิ้งน้ำไปแล้ว ซ่อมก็แพง อายุการใช้งานหมด ที่ใช้ทุกวันนี้ก็พยายามซ่อมให้วิ่งได้ เดี๋ยวจะหาว่าทหารใช้งบเปลือง ดังนั้นเราต้องไม่สร้างภารให้ประเทศเรื่องหนี้สาธารณะ เรื่องที่ดิน ผังเมืองก็เช่นกัน ต้องตีกรอบให้ได้ว่าทำอย่างไร ชาวต่างชาติมาอ่านแผนที่ก็งง ที่ดินบางที่เจริญก็กินกำไรกัน ฉะนั้น ต้องทำให้เจริญทุกที่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราต้องการคือทำก่อน ทำจริง ทำทันที มีผลสัมฤทธิ์ จับต้องได้ใน 3 เดือน มีผลยั่งยืนสู่รัฐบาลใหม่ เรื่องการศึกษาวันนี้ให้เอาทั้งเก่าและใหม่มา บางครั้งหนังสือเก่าก็นำมาใช้ใหม่ไม่ได้ เพราะมีการเขียนบทเรียนในหนังสือ สำหรับการจัดระเบียบสังคมเรายังเดินหน้าจับกุมอาวุธต่อไป รวมถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ต้องมีทั้งกฎหมายและเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้เสียการท่องเที่ยว และอย่าไปมองว่าเขาไม่มาเที่ยวเพราะกฎอัยการศึก ส่วนปัญหาเรื่องนักเรียนตีกันตนขอประกาศว่าต่อไปนี้โรงเรียนไหนตีกัน ให้ปิดคณะที่มีการตีกันไปก่อน จนกว่าจะมีการสอบสวนเรียบร้อย

นายกฯ กล่าวอีกว่า อีกสิ่งหนึ่งคือการปรับตัวของข้าราชการทุกคนต้องเปิดใจ ทำแบบตน ตนเคยหน้างอ ขี้โมโหวันนี้ก็ยิ้มดีทั้งวัน ในใจก็ร้อนละอุอยู่ ต้องอดทน การบริการประชาชนต้องเปิดใจ ยิ้มแย้ม ด้านการเกษตรต้องปรับโซนนิ่งทำให้ได้ในปีนี้ ศูนย์ต่างๆต้องให้ความรู้ ปลอบชาวบ้าน ไม่ใช่มีอยู่เฉยๆ คนที่อยู่ศูนย์ก็ต้องยิ้มแย้มอย่าหงุดหงิด ทุกกระทรวง ทบวง กรมต้องจัดชุดติดต่อประสานงานประชาสัมพันธ์ทุกกระทรวง ตั้งคนที่เผชิญม็อบให้ได้ อย่าให้มาถึงตน อีกสิ่งหนึ่งข้าราชการชุดใหญ่ต้องทำตัวให้เล็กลง อย่าจัดฉาก เวลาตนไปไหนไม่ต้องติดป้ายต้อนรับนายกฯ หรือให้ประชาชนถือป้าย ไม่ต้องมีรูป ไม่ต้องมีโปสเตอร์ ต้องขอบคุณที่มีน้ำใจ แต่ตนขอเปลี่ยนค่านิยมใหม่ นำเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องการปฏิรูปปรองดองทำอยู่ ปัญหาชายแดนภาคใต้วันนี้เป็นวาระแห่งชาติ ต่อไปนี้เลิกพูดกระบวนการนี้การะบวนการนั้น และทุกกระทรวงต้องขยับการพัฒนาภาคใต้ให้เจริญ เราไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม ด้านความมั่นคง เชื่อมโยงกับด้านเศรษฐกิจและอื่นๆ รัฐบาลจำเป็นต้องมีเสถียรภาพ มีความเข้มแข็งในการเจรจาต่อรอง เมื่อไหร่ที่เรามีเสถียรภาพทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้แน่นอน ทั้งนี้ ให้ท่านสบายใจว่าพวกเราเข้ามาแก้ปัญหา เดินหน้าประเทศ ไม่ได้มาเพื่อการเมือง หรือไปตั้งพรรคการเมือง ตนไม่เคยคิด เราต้องแก้ปัญหาโดยเร็ว สถาบันพระมหากษัตริย์ วัฒนธรรม ประเพณีไทย เป็นสิ่งสำคัญ ทุกคนต้องยึดมั่น ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่สถาบันคือสถาบันจำคำพูดตนไว้ และขอขอบคุณล่วงหน้า เราเดินประเทศคนเดียวไม่ได้ ข้าราชการ ประชาชน ต้องให้การสนับสนุน สุดท้ายนี้ขอให้นำนโยบายรัฐบาลไปปฏิบัติทุกกระทรวง และอยากให้ทุกคนมีความรู้สึกเสมอว่าเรากำลังสร้างประเทศไทยใหม่จากที่กำลังจะยุบลงมา เราค้ำยันต่อยอดเพื่ออนาคตลูกหลานข้างหน้า หนักนิดเบาหน่อยต้องอภัยกันเพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน อย่าโกรธแค้นกันนาน

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการประกาศใช้กฎอัยการศึก ว่า ตั้งแต่ประกาศมาใช้แค่มาตราเดียวยังไม่เคยไปฆ่าใครสักคน อย่าไปเชื่อมันโกหก มีอย่างที่ไหนเป็นผู้หญิงหน้าตาก็ดูดี บอกว่าถูกควบคุมตัว 7 วัน แล้วเอาหัวไปกดน้ำ มันดูหนังมากไปรึเปล่า อีนี่ใครจะไปทำว่ะ ผู้ชายด้วยกันยังไม่อยากทำเลยทำไม่ได้ เพราะเราเป็นคนไทยพุทธ ใครจะไปทำคุณ จับมาควบคุมตัวไม่ได้ให้อดข้าวอดน้ำ วันนั้นหน้ามันผ่อง สามีมันก็ไปอยู่ด้วย สั่งให้กลับบ้านมันก็ไม่กลับขอให้อยู่ต่อ กลับบ้านอันตราย แต่เวลาไปพูดไปบอกว่าถูกทรมานถูกทำร้าย ตอกเล็บไอ้บ้าเอ้ยใครจะไปตอกเล็บมันว่ะ นี่คือสิ่งที่พูดไม่จริง แต่สังคมต่างชาติมันรับ ตนก็เบื่อตรงนี้










กำลังโหลดความคิดเห็น