ASTVผู้จัดการรายวัน-"ประยุทธ์" ฉุน "กริชสุดา" แหลต่างชาติ ของขึ้นตวาด "อีนี่!! ใครจะไปทำมันวะ" ทำมึน ไม่รู้ใครเป็นแกนนำกลุ่มต้าน คสช. ระบุประสานต่างประเทศล่าตัวพวกเคลื่อนไหว ทั้งบนดิน ใต้ดินแล้ว แต่ต้องใช้เวลา พร้อมกวักมือเรียกกลับมาคุยกัน วอนอย่าขยายความขัดแย้ง "วัชระ" ยันชายชุดดำมีจริง ซัด สตช.-DSI ลิ่วล้อทักษิณ เป็นเหตุให้รัฐบาล "มาร์ค" จับกุมใครไม่ได้ กองปราบส่งฟ้อง "เสธ.หยอย" คดีครอบครองอาวุธสงครามแล้ว ยันเป็นผู้จัดหาอาวุธให้ชายชุดดำใช้ก่อเหตุแยกคอกวัวปี 53 เผยล่าสุดจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 11 ราย ยังหลบหนีอีก 4 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (17 ก.ย.) ในระหว่างการประชุมชี้แจงและมอบนโยบายรัฐบาลในภาพรวมแก่หัวหน้าส่วนราชการที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวช่วงหนึ่งถึงกรณีที่ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือเปิ้ล สหายสุดซอย แกนนำคนเสื้อแดง ที่ไปร้องต่อเวทีต่างประเทศว่าถูกทหารใช้ความรุนแรงระหว่างควบคุมตัว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอยืนยันว่าทหารไม่ได้มีการทารุณอย่างที่ออกมาให้ข่าว การควบคุมตัว เพราะเจ้าตัวขอไว้เอง เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย แต่พอออกไปก็กลับไปให้ข้อมูลอีกอย่าง ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
"ตั้งแต่ประกาศกฎอัยการศึกมา ใช้แค่มาตราเดียว ยังไม่เคยไปฆ่าใครสักคน อย่าไปเชื่อ มันโกหก มีอย่างที่ไหนเป็นผู้หญิงหน้าตาก็ดูดี บอกว่าถูกควบคุมตัว 7 วัน แล้วเอาหัวไปกดน้ำ มันดูหนังมากไปรึเปล่า อีนี่ใครจะไปทำวะ ผู้ชายด้วยกันยังไม่อยากทำเลย ทำไม่ได้ เพราะเราเป็นคนไทยพุทธ ใครจะไปทำคุณ จับมาควบคุมตัว ไม่ได้ให้อดข้าวอดน้ำ วันนั้นหน้ามันผ่อง สามีมันก็ไปอยู่ด้วย สั่งให้กลับบ้าน มันก็ไม่กลับขอให้อยู่ต่อ กลับบ้านอันตราย แต่เวลาไปพูด ไปบอกว่าถูกทรมาน ถูกทำร้าย ตอกเล็บ ไอ้บ้าเอ้ย ใครจะไปตอกเล็บมันวะ นี่คือสิ่งที่พูดไม่จริง แต่สังคมต่างชาติมันรับ ตนก็เบื่อตรงนี้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์
** นายกฯไม่รู้ใครหัวหน้ากลุ่มต่อต้าน
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการติดตามตัว น.ส.กริชสุดา และองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ที่เคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. อยู่ในต่างประเทศว่า ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปมาก่อนว่าอยู่ในขบวนการไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงไม่เจรจากับหัวหน้าใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า ใครล่ะหัวหน้า
เมื่อถามย้ำว่า อย่างนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เคลื่อนไหวในนามองค์กรเสรีไทยฯ มานาน เหตุใดยังติดตามตัวมาไม่ได้ ทั้งที่มีข่าวว่าเคลื่อนไหวในประเทศที่ไม่ไกลจากเรา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่ประเทศไหน แล้วจะส่งตัวให้เราไหม การประสานต่างประเทศเพื่อขอส่งตัวผู้ที่เคลื่อนไหวกลับมานั้น ก็ขอความร่วมมือไปแล้ว เขาให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่ยังไม่ได้ตัว เรื่องนี้ต้องใช้เวลา
ต่อข้อถามว่า นายจารุพงศ์ ใช้หน้าเฟซบุ๊กองค์กรเสรีไทยฯ เคลื่อนไหว จะมีการดำเนินการปิดกั้นได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พยายามใช้กฎหมาย พยายามปิดอยู่ ไม่อยากจะใช้ความรุนแรง อยากให้กลับมา จะเห็นต่างอย่างไร ตนรับได้ ให้มาคุยกัน เพราะประเทศชาติจะเสียหาย อย่าไปขยายความให้เขาได้ไหม ขอแค่นี้ ถ้าไม่ขยายความ มันก็จบ ก็จุดไม่ติด
เมื่อถามว่า มีเผยแพร่ภาพตัดต่อที่มีประชาชนมานั่งไหว้นายกฯ ขณะเดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าเผยแพร่ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ ต้องตามไปในขบวนการ ต้องเอารูปมาดู เพราะเขาเปิดเฟซบุ๊กกันที่ต่างประเทศ
** “วัชระ” หวด “เหวง” คนกลับกลอก
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาระบุว่า ไม่มีชายชุดดำและกล่าวหารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าไม่สามารถจับชายชุดดำได้แม้แต่คนเดียวว่า สาเหตุที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่สามารถจับกุมชายชุดดำได้ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไม่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย เนื่องจาก สตช. และดีเอสไอยังตกอยู่ภายใต้ระบอบทักษิณ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งสองหน่วยงาน ทำตนประหนึ่งเป็นบริวารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ฟังคำสั่งรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าชายชุดดำไม่มีอยู่จริง โดยในขณะนี้ผู้บังคับบัญชาของ สตช. มีการบังคับใช้กฎหมาย จึงจับกุมชายชุดดำได้หลายคน
"ผมไม่รู้สึกแปลกใจในตัว นพ.เหวง เพราะที่ผ่านมา เคยกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณว่าขายชาติ ทรราช แต่สุดท้ายก็ไปรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงอยากให้ประชาชนไตร่ตรองว่าคำพูดของ นพ.เหวงเชื่อถือได้หรือไม่ ความจริงกำลังไล่ล่าแกนนำเสื้อแดงและชายชุดดำที่สร้างประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าบันทึกในประเทศไทย ขอยืนยันมีชายชุดดำจริง และถูกบงการจากคนที่อยู่แดนไกล ไม่ต้องบอกประชาชนทั้งประเทศก็รู้ว่าชื่ออะไร"นายวัชระกล่าว
***ฟ้อง "เสธ.หยอย" คดีครอบครองอาวุธสงคราม
พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีที่ได้นัดหมาย พล.ท.มนัส เปาริก หรือ เสธ.หยอย อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงคราม ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง เพื่อส่งฟ้องพร้อมสำนวนคดีดังกล่าว ต่ออัยการศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ว่า ตามที่พนักงานสอบสวน บก.ป. นัดให้ พล.ท.มนัส เข้ารายงานตัวที่ บก.ป. แต่ทาง พล.ท.มนัส ได้ประสานมาว่าจะขอเดินทางไปยังอัยการศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี พนักงานสอบสวนจึงนำสำนวนคดีดังกล่าวเดินทางไปสมทบ
คดีนี้ทางคณะพนักงานสอบสวน ทั้ง บก.ป.และ บช.ภ.1 ได้ดำเนินการตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่ง ที่ 312/2557 ลงวันที่ 20 มิ.ย.2557 ซึ่งมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะ ทำการสืบสวนสอบสวนคดีอาวุธสงคราม ขณะนี้ในคดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาทั้งหมด11 คน จับกุมตัวได้แล้ว 7 คน และออกหมายจับไว้ 4 คน
ในจำนวนที่จับกุมได้แล้ว ประกอบด้วย พล.ท.มนัส เปาริก , นายสมเจตน์ คงวัฒนะ , นายจิราวัฒน์ อรชุนกะ , นายภคภูมิ โกศินานนท์ , นายอภิชาติ หรืออัคคี พวงเพ็ชร , นายพีรพงษ์ หรือธานินทร์ สินธุสนธิชาติ และนายวัฒนา หรือศิวะ ทรัพย์วิเชียร ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คน ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ ประกอบด้วย นายจักรภพ เพ็ญแข , นายจักรินทร์ เรืองศักดิ์วิชิต , นายกฤษณะ ทัพไทยและนายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า คดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จึงนำสำนวนคดีสั่งฟ้องต่ออัยการศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี หลังจากนี้ คงขึ้นอยู่กับการพิจารณาสั่งคดีของทางอัยการต่อไป โดยในส่วนของผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี พล.ต.อ.สมยศ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนทุกหน่วย ได้เร่งสืบสวนติดตามจับกุม หากจับกุมตัวได้แล้ว ก็นำเข้ามาในสำนวนคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุด ได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนที่นำสำนวนคดีเดินทางไปยังอัยการศาลจังหวัดทหารบกสระบุรีแล้วว่า ได้สั่งฟ้องคดีพร้อมกับผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ทั้งหมดได้ขอประกันตัวไปในชั้นสอบสวน ก็ถือว่าคดีนี้มีความสำคัญและเชื่อมโยงกับคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงอีกหลายคดี ซึ่งได้แยกคดีไว้แล้ว แต่มีความเชื่อมโยงถึงกัน
***ยันพบเชื่อมโยงจัดหาอาวุธให้ชายชุดดำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ท.มนัส มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายชุดดำ ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธสงคราม ยิงใส่ทหารและประชาชน ในช่วงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณแยกคอกวัว เขตพระนคร เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่ามีความเชื่อมโยงกันในเรื่องของการจัดหาอาวุธที่ถูกนำไปใช้ก่อเหตุ แต่ในส่วนของเส้นทางการเงินนั้น ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยง