“ประยุทธ์” โชว์ของขลัง “แหวน-กำไล” ยันไม่ยกเลิกอัยการศึก จับตา "ทักษิณ-กลุ่มใต้ดิน" เคลื่อนไหว

นายกฯ จ้อไปบ่นไป สั่งทบทวนโคตรไมค์ใหม่ หลังเมื่อวานกรมโยธาฯ ถอดไปเงียบๆ ยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึก อ้างต้องยึดประโยชน์ชาติ ไม่แคร์กระทบท่องเที่ยว ประกันไม่รับตั้งกองทุน 200 ล้านก็ได้ ไม่ตกกระแสต่างชาติตายบนเกาะเต่า สั่งทหาร-ตำรวจปิดเกาะไล่ล่า กำลังสืบกลุ่มเคลื่อนไหวใต้ดิน ยังมอนิเตอร์ “ทักษิณ” เคลื่อนไหว โชว์กำไลเงินหางช้าง แหวนอีกสี่วง โวแจงทรัพย์สิน ป.ป.ช.หมด ปัดข้อกล่าวหาไม่ชอบขี้หน้าสื่อ ฟุ้งไตรมาสหน้าเศรษฐกิจดีขึ้น อย่ากังวลภาษีมรดก



วันนี้ (16 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.55 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่การตรวจสอบการจัดซื้อไมโครโฟนห้องประชุม ครม.ว่า ได้ทบทวนใหม่ทั้งหมด ยุติไปก่อน เมื่อถามว่า สเปกราคาไมค์ไม่ใช่แสนสี่ (หนึ่งแสนสี่หมื่นบาท) ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่ใช่ราคานั้น ต้องไปสอบสวนขั้นตอนว่าเหมาะสมหรือไม่ ควรจะต้องใช้ดีขนาดนี้หรือเปล่า จริงๆ แล้วเราต้องการให้มีการประชุมทางไกลได้ เห็นหน้าเห็นตาของทุกคนเวลาสั่งการ เพราะวันหนึ่งเราต้องดินไปสู่อาเซียน แนวคิดจึงเป็นแบบนั้นมา ส่วนเรื่องของราคานั้นเท่าที่ทราบ ไมโครโฟนรุ่นนี้นำเข้ามาราคากลางๆ ยังไม่ชัดเจน อยู่ในขั้นของการต่อรอง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนว่าถูกต้องหรือไม่สมควรจะใช้หรือไม่ ตอนนี้ยุติทั้งหมดแล้ว

ส่วนเรื่องที่ใครจะต้องรับผิดชอบนั้น อย่าเพิ่งให้ตอบตอนนี้เลย ต้องหาข้อมูลให้ได้ก่อนว่าการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ราคาเป็นอย่างไร แต่วันนี้ที่ยังไม่ใช้ห้องประชุมไม่ได้ เพราะเหม็นสี ห้องยังไม่เรียบร้อย สัปดาห์หน้าจะสามารถใช้ห้องประชุมตึกบัญชาการได้ ถ้าจะใช้ต้องใช้ไมโครโฟนเก่าไปชั่วคราวก่อน จะหาใหม่หรือไม่ค่อยว่ากัน ตอนนี้นายกฯ รับผิดชอบอยู่แล้วในการให้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่าเพิ่งไปลงโทษกันนักหนา เราต้องการให้เกิดความโปร่งใส แล้วก็ต้องดูเจตนาว่าทำเพราะอะไร อย่างไร ต้องไปหากันต่อ ใจเย็นๆ สำหรับสื่อก็ตรวจสอบไป แต่ต้องให้เวลาบ้าง เพราะต้องเรียกคนมาสอบ และทางคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เองก็มีกฎหมายตรวจสอบอยู่มีทั้งภาคทัณฑ์ กักขัง จำขัง ไล่ออก ตัดเงินเดือน ขึ้นอยู่กับเจตนาหรือไม่ ดูในข้อกฎหมาย ทั้งนี้ สิ่งที่อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองพูดให้รับฟังดูบ้าง ถ้ายังไม่ได้ทุจริตอย่างเพิ่งไปทำอะไร

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการปรับปรุง และจัดซื้อไมโครโฟนห้องประชุม ครม. ชั้น 5 ตึกบัญชาการ ได้ให้เจ้าหน้าที่จากบริษัทผู้รับเหมาทำการรื้อและถอดไมโครโฟนออกจากการติดตั้งทั้งหมดอย่างเงียบๆ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสถานที่ของสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล สั่งห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นไปบนตึกบัญชาการ ชั้น 5 โดยเด็ดขาด ในช่วงที่เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมืองถอดรื้อไมโครโฟน

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่มีการพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึก แต่เตรียมไว้อยู่แล้วเรื่องของข้อกฎหมาย ปัญหาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมาดูก่อนทั้งภายในภายนอก ต้องอธิบายว่ากฎอัยการศึกเราใช้บางมาตราเท่านั้น แต่คนส่วนใหญ่ และต่างชาติมักจะตกใจคำว่ากฎอัยการศึก แต่ถ้าเราสามารถอธิบายได้ว่าเราใช้ตรงไหน อย่างไร ก็จะเป็นเรื่องทีดี เพราะวันนี้ยังมีการประเด็นเหล่านี้มาตอบโตกันซึ่งขัดแย้ง ส่วนเรื่องผลกระทบต่อเศรษฐกิจนั้นถ้าภายในประเทศไทยไม่มี แต่ถ้าต่างชาติอาจจะมีบ้าง ซึ่งเราต้องเลือกเอาว่าจะเอาผลประโยชน์ของใครก่อน คนไทยในประเทศนี้เท่าที่ดูโพล 800 เปอร์เซ็นต์ ที่เขาเห็นบ้านเมืองเรียบร้อยก็ไม่ได้เดือดร้อน ส่วนข้อกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวนั้น ถ้ายังมีกฎอัยการศึกอยู่ เช่น เรื่องของประกันชีวิตบางบริษัทไม่รับ ขณะนี้รัฐก็ได้อนุมัติตั้งกองทุนแล้ว 200 ล้านบาท เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวในกรณีที่เกิดเหตุ บาดเจ็บสูญเสีย หรือเกิดเหตุจากการปะทะกันจากกฎอัยการศึก หรือม็อบ หากไม่เกิดเหตุเราก็เสีย

เมื่อถามว่า ในทางลึกเรื่องความสงบถือว่าสงบจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าบนดินก็โอเค มองภาพแบบนี้น่าจะรู้ดีกันอยู่แล้ว ในเว็บไซต์ โซเซียลมีเดีย หรือการปฏิบัติใต้ดิน เราก็มีการสืบทราบดีอยู่ ส่วนเรื่องคดีชายชุดดำนั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนอยู่ซึ่งข้อมูลมาจากประจักษ์พยานหลักฐาน วัตถุพยาน พยานบุคคล ขบวนการ เงินทอง

เมื่อถามว่า เรื่องความสงบนี้ยังไม่สามารถเบาใจได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เบาใจในทุกเรื่อง เพราะปัญหามีอยู่ทุกเรื่อง ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจที่อยู่หลายอย่างด้วยกัน ทั้งปัจจัยภายนอกด้วย สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังไม่ดีขึ้น ทั้งยุโรป ตะวันตก รวมถึงการสู้รบต่างๆ บางประเทศก็มีสงคราม ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบ ประเทศเราก็ได้รับผลกระทบ เช่น เรื่องการส่งออก การประเมินตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ตกทั้งโลก ประเทศใหญ่ๆ อย่างมหาอำนาจก็ตกลงหมด เขาสนใจแต่ว่าจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจของเขาดีขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เหตุที่คนร้ายฆ่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานีนั้น ต้องสอบสวนอีกที และขณะนี้ได้สั่งให้ทหาร ตำรวจปิดเกาะไล่ล่ากันอยู่ เชื่อว่าคนไทยก็รับไม่ได้ รัฐบาลก็รับไม่ได้ และคนในพื้นที่ก็ใส่ชุดดำต่อต้าน แต่เราต้องสร้างความเข้าใจว่าในบางพื้นที่คนต่างชาติไม่ทราบพื้นที่ไหน ไปไหนได้ไม่ได้ เนื่องจากบางพื้นที่บ้านเรายังมีปัญหาอยู่ เพราะมีคนหลายระดับด้วยกันเรื่องนี้ต้องระมัดระวัง

ต่อกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเกิดจากคนต่างด้าว รัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราต้องนำคนต่างด้าวเหล่านี้ขึ้นทะเบียนให้ครบ ไปไล่ดูว่าบริษัทต่างๆ ที่ประกอบการ นำคนขึ้นทะเบียนหรือไม่ หากไม่ขึ้นทะเบียนต้องมีโทษ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาอยู่อย่างนี้

เมื่อถามว่า การประชุม ครม.วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรกอย่างเป็นทางการหรือไม่ และได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ ฝากการบ้านอะไรให้กับ ครม.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การบ้านฝากทุกเรื่องร้อยกว่าเรื่อง เมื่อถามว่า ได้มีการแบ่งงานรองนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แบ่งหมดแล้ว รวมถึงการแต่งตั้งคณะทำงานทั้งหมด เมื่อถามว่า ทำงานในฐานะนายกฯ ยังเขินๆ อยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นอะไรตนก็ยังไม่มีความสุข เพราะบ้านเมืองยังไม่เรียบร้อย ประชาชนยังลำบากอยู่ ตนจะเป็นอะไรก็ตามถือว่าเป็นคนของประชาชนที่ต้องมาดูแล ตนไม่ใช่นักการเมืองและหน้าที่ของตนทำอย่างไรทุกคนจะมีความสุขตามความพอเพียง

เมื่อถามว่า คราวหน้าเมตตาสื่อให้สัมภาษณ์ลักษณะที่สะดวกกว่านี้ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มันต้องมีลำบากหน่อย มันเวลาไม่ปกติ ก็ไม่แอบๆ ยืนเต็มจอ ไม่เช่นนั้นเต็มไปหมด ไมค์ทิ่มหน้า เมื่อยกันเหรอ เมื่อถามว่า เวลาให้สัมภาษณ์ขอโพเดียมเป็นทางการได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โอเค เดี๋ยวจะสั่งให้เตรียมการ คือพูดมากก็ไม่ดี อะไรที่ไม่ได้ทำพูดไปเดี๋ยวตนก็ถูกโจมตี ทั้งที่คิดไว้หลายเรื่องแล้ว บางเรื่องอยู่ในการพิจารณา บางเรื่องอนุมัติไปแล้ว และเดี๋ยวจะมีการแถลง ครม.ได้อนุมัติอะไรไป น้องๆ สื่อก็ช่วยกันบ้าง เพราะบางทีพูดไปสิ่งที่ยังไม่ได้ทำก็จะบอกว่าจะทำไหวเหรอ จะทำได้เหรอ ปีหนึ่งจะทำได้หรือไม่ ท่านต้องให้เวลาเรา บางเรื่องเกิดมาหลายสิบปีและต้องมาแก้ทุกเรื่อง ซึ่ง 4 เดือนที่ผ่านมาทำทุกเรื่อง ทำแบบรัฐบาล ตนก็สั่งและตอนนี้ก็สั่งเหมือนเดิมว่าจะทำอะไรในฐานะนายกฯ

ส่วนกรณีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงหลายกระทรวงครั้งนี้มีมาตรฐานอย่างไรบ้างนั้น นายกฯ กล่าวว่า มาตรฐานก็มีกติกาอยู่แล้ว ต้องเป็นข้าราชการซีไหน อย่างไร มีคุณสมบัติอย่างไร ไม่ต้องโทษหรืออะไรมีหมด เมื่อถามว่า วันนี้ ครม. อนุมัติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยด้วยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แต่งตั้งโยกย้ายเรียบร้อยแล้ว

ต่อข้อถามเรื่องแนวทางการสร้างความปรองดองและการสลายเสื้อสีนั้น นายกฯ มีแนวคิดอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แนวคิดคือต้องให้ทุกท่านมามีแนวคิดร่วมกับตนด้วย ถ้ารัฐบาลและนายกฯ คิดอย่างนี้แล้วประชาชนไม่ร่วมมือจะทำอย่างไร ใครที่เป็นแกนในหน่วยต่างๆ ยังไม่หยุดจะแก้ได้อย่างไร อย่ามาไล่ตนข้างเดียว ไปบอกอีกข้างหรือทุกพวก วันนี้ตนถึงบอกว่าไม่มีข้างกับใคร จะเห็นว่าตนก็ทำอย่างนี้มาตลอด ไม่เคยไปแบนใคร ตัวเองก็ยังโดนและยอมรับ โดนด่าก็ต้องโดน หาว่าตนไม่อย่างนี้อย่างนั้น แต่ตนต้องการเอาประเทศ ซ้ายกับขวาหยุดให้ได้แล้วค่อยปรองดอง หารือพุดคุยกันไป พาประเทศเดินหน้าไปก่อน ถ้าหยุดตรงนี้ให้ตีกันอย่างนี้ แก้กันอยู่อย่างนี้ มันไปไม่ได้ประเทศชาติตกต่ำลงทุกวันจะทำอย่างไร ปัญหาความเหลื่อมล้ำจะทำกันอย่างไร ปัญหามากมายทำอย่างไร สรุปว่าต้องตีกันก่อนใช่หรือไม่ถึงจะชนะกัน แล้วถึงจะเดินหน้าประเทศใช่หรือไม่ มันไม่ได้ เราต้องหยุดความขัดแย้งให้ได้แล้วพูดคุยกัน ปฏิรูปประเทศให้ได้ เพราะปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การบริหารต้องเดิน วันนี้การต่างประเทศสั่งหมด ตนก็พยายามศึกษาทั้งหมด มีหลายอย่างต้องใช้เวลา ก็สั่งแบบทหารสั่ง

เมื่อถามว่า รัฐบาลและ คสช.ยังมอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอาญาอยู่ในต่างประเทศหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกพวกตามอยู่หมด เมื่อถามว่า ติดตามอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า มีๆ แต่เรื่องความมั่นคงคงต้องไม่ได้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีหน่วยข่าวลับ มีเยอะแยะ มีการติดตามทุกพวก ทั้งคลื่นใต้น้ำและบนน้ำ เมื่อถามว่า ในความคิดของนายกฯ อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาถูกดำเนินคดีในไทยเพื่อยุติปัญหาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ตนไม่ทราบ ไม่มีความคิดอะไรทั้งนั้น ใครทำผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าจะไปประเทศพม่าเมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังเตรียมแผนการเดินทาง เมื่อถามว่า จะไปมาเลเซียด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวย้อนว่า ไปพร้อมกันได้มั้ยล่ะ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องจัดลำดับ ควรจะไปไหนก่อน

เมื่อถามว่า นายกฯ ใส่กำไลอะไร พล.อ.ประยุทธ์ยกข้อมือโชว์กำไลพร้อมกับกล่าวว่า เป็นกำไลเงินหางช้าง ใส่มานานแล้ว เมื่อถามว่า มีความเชื่ออย่างไร นายกฯ กล่าวว่า คนโบราณเขาเชื่อกันก็เชื่อตามเค้า เราคนไทย ศาสนา เค้าเชื่อถือกัน หรือนักข่าวไม่เชื่อ ซึ่งนายกฯ ได้ถามสื่อด้วยว่า ถ้ามีแล้วจะใส่หรือไม่ ก็คงใส่ ส่วนแหวนก็เหมือนเดิม แหวนพระ แหวนนะโม แหวนสมเด็จ แหวนนพเก้า เมื่อถามว่า เมื่อวานสวมแหวนทองที่นิ้วมือข้างขวา แต่วันนี้ทำไมถึงมาสวมนิ้วมือข้างซ้าย นายกฯ กล่าวว่า แต่เครื่องแบบมือขวามันตะเบ๊ะไม่ได้ ก็เลยเปลี่ยน

เมื่อถามว่า แจงไปในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.ไปด้วยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แจงหมด ไม่มีอะไร ตนมีเจตนาดี ไม่เป็นไร ตนก็ไม่ใช่คนที่สิ้นไร้ไม้ตอกเท่าไรมั้ง หรือดูหน้าตนแล้วจนมากหรืออย่างไร หรือรวยมาก เมื่อถามว่า ตั้งแต่มาเป็นนายกฯ รู้สึกอารมณ์ดีกว่าตอนนั่ง ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนก็ดีมาตลอด บางทีต้องอดทนกันบ้าง เมื่อถามว่า นักข่าวทำเนียบน่ารักหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงเป็นไปได้

เมื่อถามว่า สื่อนี้ไม่ใช่ปรปักษ์ของท่านใช่ไหม นายกฯ กล่าวว่า เฮ้ย (อุทาน) เป็นมหามิตรตนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มีเสียงร่ำลือเยอะว่าท่านไม่ค่อยชอบขี้หน้าสื่อจริงหรือเปล่า นายกฯ กล่าวว่า “ใครไปพูดน่ะ ใครปากเสีย ก็บางเวลาก็โมโหบ้างนิดหน่อย เวลามีเรื่องหงุดหงิดเข้ามามันซ้ำซ้อน ไม่เข้าใจเราเนี่ย ผมพยายามพูดเยอะๆ พูดเยอะๆ มันก็เป็นประเด็นไง อย่างเมื่อกี๊พูดเรื่องทันสมัย มันคนละเรื่อง ยกตัวอย่างไง คนก็พูดไป อยากจะให้มันตรงตามนโยบาย เพราะจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องหน่วยงานเขาทำ ตอนนี้นายกฯ ก็รับผิดชอบสั่งไปตรวจสอบว่าความจริงเขาว่ายังไง เราต้องการไม่ให้เกิดความโปร่งใสต้องดูที่เจตนาอะไรยังไงก็ไปหากันต่อนะ ใจเย็นๆ”

เมื่อถามเรื่องแพกเกจเศรษฐกิจ นายกฯ ให้น้ำหนักกับเรื่องอะไร นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ดูเรื่องของการส่งออกทำยังไง อันที่หนึ่ง อันที่สองในเรื่องของการยกระดับสินค้าส่งออกของเราให้มีการพัฒนา เพิ่มราคามูลค่าสินค้าอย่างไร จะทำแบรนด์ของประเทศไทยได้อย่างไร มีนวัตกรรมใหม่อย่างไร ทำไมสินค้าที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน ยางพาราทำยังไงให้แปรรูปมาเป็นถุงมือยาง ที่นอนยาง อะไรที่จะส่งออกได้ในราคาที่สูงขึ้นดีกว่าไปขายยางดิบ อันที่ 2 ผลผลิตการเกษตร เช่น เรื่องข้าว ยาง มันสำปะหลัง จะทำอย่างไรทั้งหมด นี่คือสินค้าที่ส่งออกราคาในประเทศจะทำอย่างไร วันนี้ต้องอธิบายพี่น้องประชาชนว่าราคาสินค้าเรากำหนดเองลำบาก ตามข้อตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) วันนี้มันมีปัญหามาก ภาษีเรื่องอะไรต่างๆ ถ้าเราขายราคาสูง เราสู้เขาไม่ได้เลย ขายไม่ออก เพราะว่ามันภาษีสูง สินค้าบางตัวเราไปแข่งเขาไม่ได้เพราะอะไร ค่าแรงมันสูง พอค่าแรงสูงต้นทุนก็บวกค่าแรง 300 เป็น 400

“ผมยกตัวอย่างง่ายๆ แต่ประเทศอื่นค่าแรง 100 เดียว ต้นทุนอีก 100 ก็ขายดัมป์ราคาได้ 300 เราขาย 400 มันสู้เขาได้ไหม ต่างกันตรงนี้ เพราะฉะนั้นเวลาออกไปข้างนอก ต้องสร้างแบรนด์ใหม่ ต้องสร้างอะไรที่ไม่ต้องไปแข่งกับเขา ผมต้องพูดทุกวัน คนเราต้องพัฒนาอย่างไรในการที่จะแข่ง ไม่ใช่ขายอย่างนี้มา 10 ปีแล้ว ก็เป็นแบบนี้สินค้าส่วนใหญ่เคยทำอะไรก็ทำแบบนั้น มันจะต้องพัฒนานะ ไปทำแพกเกจใหม่ได้ไหม ไปทำห่อใหม่ได้ไหม เช่น ไปทำอะไรสวยๆ ข้างในไม่มีอะไร ข้างนอกสวยนะ เหมือนบางประเทศเขาทำกัน โบสวย อันนี้เอามาจากจังหวัดโน้น อันนี้เอามาจากจังหวัดนี้ เราก็ทำสินค้าเราดีทุกอย่าง แพกเกจไม่สวยอะไรต่างๆ ก็ตาม โอทอป ดีหมดเว้นแต่ซิป เว้นแต่กุญแจล็อกอะไรต่างๆ ไม่ดี” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่า นายกฯ มองไปในไตรมาสข้างหน้ามั่นใจไหมว่าจะพาเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ต้องได้ พยายามทำให้ได้ ต้องช่วยกันหลายส่วนนะ ไม่ใช่รัฐบาล ไม่ใช่นายกฯ มันเป็นเรื่องของรัฐ เอกชน ประชาชน ต้องร่วมมือกัน เราดำเนินนโยบายอย่างนี้ ช่วยเราอย่างไร มีข้าราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนมาช่วยกัน เขาต้องการอะไรมาหาให้เจอ ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างเรียกร้องกันไปกันมาแล้วจะทำอย่างไร ต้องเอางบประมาณมาใช้จ่ายกู้มา งบประมาณปีหน้า เรามาใช้หนี้เงินกู้อีก เราใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านเพื่อมาใช้หนี้ หนี้เงินกู้เก่า ถ้าครั้งที่แล้วใหม่หรอ มันก็กู้เพิ่มๆ แล้วท้ายสุดเราจะมีแต่เงินกู้ใช้หนี้เท่านั้น เงินงบประมาณบริหารประเทศไม่มี

เมื่อถามว่า เงินภาษีมรดกเอาจริงเป็นรูปธรรมแน่ นายกฯ กล่าวว่า พิจารณาอยู่ อย่าไปกังวล เพราะรัฐบาลบอกแล้วว่าจะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ต้องมีมาตรการยกเว้นอะไรไปหมด ไม่ใช่ทุกคน เธอมีมรดกไหมล่ะ (ถามนักข่าว) การศึกษาการเรียนรู้ เขามีข้อยกเว้นอยู่

เมื่อถามว่า ภายในปีนี้จะผลักดันให้เกิดสำเร็จ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ได้ผลักดันหรอก มันเป็นเรื่องของกฎหมายเขาดู กฎหมายมาตราเกี่ยวกับความเป็นธรรม มีรายได้มากเสียมาก มีรายได้น้อยเสียน้อย ถ้าคนไม่เข้าสู่ระบบภาษี เงินมันก็ไม่ได้ เขาก็ไม่ได้พัฒนาตัวเอง แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปรีดภาษีจากใครที่รายได้น้อย เราต้องมีเกณฑ์ใครมีรายได้เท่านี้จะต้องเสียภาษี ก็ไปลงทุนไปกู้เอสเอ็มอีมาสร้างกิจการมาเข้าภาษี แล้วก็ตอบแทนรัฐเล็กน้อย เขาต้องการส่งเสริมให้สูงขึ้น อย่าคิดว่าจะรีดภาษีเพื่อจะไปใช้หนี้ ไม่ใช่คิดอย่างนั้น

เมื่อถามว่า ตลอดเวลาสิ้นปีนี้ต้องเห็นเป็นรูปธรรมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ คสช. แต่ถ้าเขาไตร่ตรองมาเรียบร้อย แต่ประเด็นสำคัญให้ความยุติธรรมทุกคน เขามีข้อยกเว้นเยอะไม่ต้องกลัว เมื่อถามว่า นายกฯ เห็นรัฐบาลเปิดเรื่องเศรษฐกิจดิจิตอล นายกฯ กล่าวว่า เรื่องความทันสมัย ปัญหาของเราเรื่องการล่าช้าในการดำเนินการในการลงทุนของต่างประเทศอะไรก็แล้วแต่ก็เร่งรัดเรื่องนี้ไป นี่คือสิ่งที่ว่าเป็นดิจิตอล ดิจิตอลคือการปรับเทคโนโลยี ปรับการติดต่อสื่อสารให้มันดีขึ้น

เมื่อถามว่า นายกฯ คิดว่ามันจะยากไหมกับการที่ปัญหาเรื่องรวยกระจุก จนกระจาย นายกฯ กล่าวว่า ยาก เขาแก้มากี่รัฐบาลแล้ว ก็พยายามแล้ว กำลังทำอยู่ทุกวัน แล้วพยายามอยู่ไม่เคยหยุด ใจเย็นๆ ทนมาได้ตั้งกี่ปีแล้ว ทนอีกหน่อยไม่ได้หรือไง เมื่อถามว่า นายกฯ สัปดาห์หนึ่งทำงาน 7 หลังเป็นนายกฯ จะพักวันไหนบ้าง นายกฯ กล่าวว่า อาจจะมีบ้างไปออกกำลังกายนิดหน่อยกับเพื่อนๆ นอกนั้นไม่มีอะไรเลย ไม่เคยทำอะไรเลย 4 เดือนที่ผ่านมาไม่เคยหยุดงาน