xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ตอกยางโลละร้อยคงต้องขายดาวอังคาร - เหน็บพวกไม่ปรองดองสองชาติไม่ได้เกิดเป็นไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
นายกฯ จ้อยาวแถลงยุทธศาสตร์ชาติและทหาร บอกรู้สึกเขินควบ 3 ตำแหน่ง ลั่นต้องหยุดปัญหาทั้งหมด โวต้องคืนความสุข ไม่งั้นก้าวไปสู่อาเซียนไม่ได้ โอดครวญใส่ชาวสวนยาง ร้องราคาเป็นร้อยแต่ขายได้โลละ 60-70 แขวะคงต้องไปขายดาวอังคาร แนะคนไทยต้องปรับความคิดให้โลกสวยขึ้นไปอีก บอกถ้ามองคนไม่ดีตลอดกลายเป็นไม่ชอบขี้หน้า ชมข้อเสนอแนะเด็ก วปอ. รับจะไปดำเนินการ ตบท้ายใครไม่ปรองดองสองชาติที่แล้วไม่ได้เกิดเป็นไทย



วันนี้ (15 ก.ย.) ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวให้ข้อคิดต่อการแถลงยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์ทหารว่า วันนี้ตนยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมฟังการแถลงในวันนี้ จากการรับฟังในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ตนมีความสุขที่เราได้มีแนวร่วมในการทำงานในระยะนี้ วันนี้เป็นวันแรกที่เข้าทำงานในที่ทำเนียบรัฐบาล และเป็นงานแรกที่ออกข้างนอกในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาก็เป็นอยู่หลายตำแหน่ง วันนี้ก็มาทั้ง 3 ตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี เป็นวันแรกก็แปลกๆ อยู่เหมือนกัน แต่ปัญหาก็เหมือนเดิม เป็นปัญหาเดิมทั้งสิ้นที่เราทราบดีว่าเราต้องหยุดปัญหาทั้งหมดให้ได้ เหมือนกับหยุดเลือดที่มันกำลังไหล หรือว่าหยุดต้นไม้ของเราที่ไม่เจริญเติบโต ใส่ปุ๋ยให้งอกงาม ปรับประชาธิปไตยของเราให้เหมาะสมกับคนไทยให้ได้รับการยอมรับจากสากล

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) กล่าวมาทั้งหมด ทั้งสองส่วนเป็นคำแนะนำที่ดียิ่ง เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของ คสช. รัฐบาลในช่วงของการปฏิรูปที่ดีอยู่แล้วในปัจจุบัน อยากจะบอกว่ายินดีจริงๆ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาตนรับราชการมาเป็นปีที่ 38 ก็จะเกษียณอยู่แล้วอีกไม่กี่วัน มีประสบการณ์พอสมควร แต่ส่วนใหญ่เป็นประสบการณ์ทางด้านทหาร ประสบการณ์ในการทำงานชายแดน การบริหารกองทัพจากที่ผ่านมา วันนี้ตนมีความพึงพอใจที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ทหาร เหล่าทัพทั้งหมด ตำรวจ และเอกชน ประชาชน ทุกส่วนมีความเห็นในแนวทางเดียวกัน ก็คือในเรื่องงานของความมั่นคง ถือว่าเป็นงานที่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ในแต่ละส่วน แตกต่างกันตรงภาระหน้าที่ ทหารก็มากหน่อย ตำรวจก็ภายในเป็นหลัก สำหรับประชาชนก็ต้องดูความมั่นคงเป็นข้อระวัง เพราะฉะนั้นงานทั้งหมดก็มีหลายประการด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของชายแดนอย่างเดียว เป็นเรื่องของความมั่นคงภายใน เป็นเรื่องของภายในคุกคามในปัจจุบันที่มีมากมายหลายอย่าง

ในส่วนของการปฏิบัติงานในวันนี้ ตนถือว่าเราจะต้องร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ต้องร่วมมือกันในทุกมิติ คือ ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมวัฒนธรรม ที่เป็นสามเสาหลักของอาเซียนในปัจจุบัน แล้วเราก็จะก้าวเข้าสู่การเป็นสมาคมอาเซียน เรามีเวลาจำกัด ดังนั้นมันจึงต้องมีวันนี้ต้องมีเวลาคืนความสุขให้กับประเทศไทย ถ้าช้ากว่านี้มันก็แก้ไม่ได้ และเราก็ก้าวไปสู่การเป็นสมาคมอาเซียนไม่ได้อย่างมีเกียรติยศและศักดิ์ศรีไม่มี เห็นตัวเลขเมื่อกี้ไหม ตัวเลขการประเมินคุณภาพ การศึกษา การแข่งขัน มันอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำหมดทั้งสิ้น ตนว่าต้องทบทวน ตนไม่ได้ว่าใครเก่ง ใครไม่เก่ง ความผิดของใคร แต่เป็นหน้าที่ของเราต้องมาแก้ไขในวันนี้ต้องแก้ไขให้ได้ นักศึกษา วปอ.มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ เพื่อที่จะระดมมันสมองออกมาแล้วทั้งหมด ที่มีทหาร ตำรวจ พลเรือน ข้าราชการ ประชาชนทั่วไป นักธุรกิจ ทั้งหมดต้องเอาความรู้ทั้งหมดมาร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องทุจริต ตนว่ามันแก้ได้ สภาพแวดล้อมภายในภายนอก ภายในประเทศก็การทุจริตคอร์รัปชัน ความขัดแย้งการเมืองอะไรต่างๆ แล้วแต่ ภายนอกประเทศก็เรื่องของสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงของโลก การแข่งขัน มาตรการทางการค้าต่างๆ มากมาย ทั้งหมดทั้งความมันคงเศรษฐกิจสังคม ทั้งสามอันเรียกว่าสามเสาหลักของอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนด้านเศรษฐกิจ ทุกคนทราบดีว่าเรามีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจมาก แต่อย่าลืมว่า 6 เดือนแรกนั้นมันติดลบอยู่ แต่นี่ผ่านมา 4 เดือนก็ดีขึ้นมา ไม่ติดลบเหมือนเดิม นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปซึ่งเราก็พยายามขับเคลื่อนตรงนี้ให้ได้ พร้อมทั้งมองว่าปัญหาเศรษฐกิจของเราคือความเข้มแข็ง ในการแข่งขันกับนานาชาติ และประเทศเราหลักคือการส่งออก แต่สินค้าไม่ค่อยมีการพัฒนา ไม่มีนวัตกรรมใหม่ วันนี้เราต้องแก้ไขเรื่องพวกนี้ให้ได้ สร้างความเข้มแข็ง สร้างธุรกิจเอสเอ็มอีให้แข็งแรง ปรับปรุงทุกระบบทั้งใหญ่ กลาง เล็ก

“วันนี้คนไทยบางคนยังไม่รู้ตัวเองเป็นเอสเอ็มอีหรือเปล่า แต่เขามีกองทุนให้กู้ คือเข้ามาแล้วกลัวอย่างเดียวคือกลัวการเสียภาษี อย่างนี้ผมว่าไม่ได้ วันนี้เราต้องทำให้คนไทยทุกคนเข้ามาอยู่ในระบบภาษีให้ได้ พอผมพูดคำว่าภาษีก็ตกใจกันหมด คนรวยก็ตกใจ คนจนก็ตกใจ แล้วนี่รัฐบาลมีรัฐมนตรีชื่อสมหมาย ภาษี อีก ยิ่งตกใจไปใหญ่ สงสัยต้องเปลี่ยนนามสกุลแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยไม่ต้องการเม็ดเงินการลงทุนอย่างเดียว เราต้องส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ขยายการลงทุนของเราเอง ให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในสิ่งที่เราต้องการ และขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการทั้งหมด 11 คณะ โดนตั้งใหม่หมด ตามแนวทางเดิมทั้งของ คสช.ทั้งหมด วันนี้ถ้าเราสามารถลดหนี้สาธารณะได้ เราก็จะสามารถพัฒนาประเทศได้ แต่ตอนนี้เรายังไม่สามารถลดอะไรได้สักอย่าง

ส่วนปัญหายางพาราที่เริ่มมีการเดินขบวน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราก็แก้ปัญหาทั้งระบบอยู่ แต่ไม่รู้เกษตรจะใจเย็นพอหรือไม่ จะขอราคายางที่ 90-100 บาท ขอถามว่าตอนนี้เราขายได้แค่ 60-70 บาท แล้วจะไปขายให้ใครในโลกนี้ สนับสนุนปลูกยางพารากันอย่างนี้คงต้องไปขายที่ดาวอังคารแล้ว ไม่รู้เป็นความคิดของใคร ดังนั้นเราต้องใช้วิธีการลดต้นทุนการผลิตบ้าง ราคายางจะขึ้นหรือลงอยู่ที่นายทุน ใครที่เป็นเศรษฐีก็ให้มาช่วยรัฐบาลดูแล มาช่วยซื้อของเอาไปขาย ช่วยมากระตุ้นสินค้าที่ตกต่ำให้ขึ้นมาให้ได้ วันนี้บริษัทต่างๆ เข้ามาก็พยายามบอกให้ซื้อยาง ทำถุงมือยาง ทำถนน ซึ่งความจริงมันไม่ค่อยคุ้ม เพราะมันแพง เรื่องนี้มีหลายคนเสนอว่าทำไมไม่ทำโน้นทำนี้ แต่อยากบอกว่าถ้าเข้ามาทำแล้วมันไม่ง่ายอย่างที่คิด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อถึงเรื่องการศึกษาว่า จากการประเมินผลด้านการศึกษาเราอยู่อันดับท้ายๆ และกระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงที่ใช้งบประมาณมากที่สุด ส่วนใหญ่ใช้ด้านบุคลากร และเคยมีผู้รู้บอกว่า บางโรงเรียน ผู้อำนวยการดูแลเด็กแต่ 30 คน แต่มีซี 8 ต้องปรับตรงนี้ให้ได้ พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มาในวันนี้ต้อช่วยดู จะปรับจะรวมอย่างไรก็ต้องทำจะได้ช่วยลดบุคคลกร ทุกวันนี้บางครอบครัวยากจน แต่พ่อแม่ต้องเสียเงินค่ากวดวิชา ทั้งๆ ที่บอกว่าเรียนฟรี แต่กลับไปจ่ายค่าเรียนกวดวิชาแพงกว่าอย่างนี้ไม่ได้ แต่ที่พูดมาไม่ได้ตำหนิกระทรวงศึกษาฯ เรามาเป็นรัฐบาลต้องแก้ปัญหาทุกปัญหาให้ได้ และการศึกษาต้องมีความเข้มแข็ง เพราะหากการศึกษาไม่ดีคนก็ไม่เข็งแรง สังคมก็อ่อนแอ และจะทำให้เกิดความขัดแย้ง ถูกชักจูงหรือไปเป็นเครื่องมือของใครก็แล้วแต่

“การศึกษาถ้าจะให้เด็กมีความสนใจ ครูก็ต้องเก่ง และมีวิธีการสอนที่เหมาะสม ให้มีความผูกพันกันระหว่างครูกับเด็กนักเรียน แต่ปัจจุบันความผูกพันระหว่างครูกับเด็กไม่มี เด็กเห็นครูเป็นแค่คนที่มาทำหน้าที่แทนพ่อเวลาไปทำงานเท่านั้นโดยมองว่า ครูเป็นลูกจ้างเพราะกินภาษีที่พ่อจ่าย ซึ่งตรงนี้น่าเป็นห่วงเราต้องสร้างระบบความสัมพันธ์ของครูและนักเรียนขึ้นมาใหม่ สิ่งที่ตนพูดมาจะแก้ไม่ได้วันนี้ไม่ใช้แค่ให้เด็กท่องบัญญัติ 10 ประการ แต่จะต้องมีการสร้างค่านิยม 12 ประการที่ตนเขียนมา หลังจากนี้จะให้กระทรวงศึกษาฯ ไปทำให้คล้องจองเพื่อให้เด็กท่องกันให้ได้และจะให้เอาไปไว้ในข้อสอบด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การส่งเสริมคนดีวันนี้ บอกว่ามีทั้งคนดีและคนไม่ดีแล้ว คนดีเป็นอย่างไร คนดีคือคนไม่โกง ไม่ทุจริตและวันนี้เป็นอย่างไรคนดี จากดีกลายเป็นไม่ดี ดีน้อยกลายเป็นไม่มีดีอีกเลย ลักษณะแบบนี้คนไทยต้องปรับแก้ใหม่ ต้องมองโลกให้สวยขึ้นมาอีก มองคนให้ดี ถ้าเรามองคนไม่ดีตลอด ก็จะไม่ดีเพราะเราไม่ชอบขี้หน้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ทรงสอนพวกเราไว้หลายคน สอนว่าถ้าเราเห็นใครไม่ดี เราลองหาจุดที่ดีของเขา เติมส่วนที่ดีให้กับเขาสักหน่อย เติมจนกว่าจะพอใจ หากเติมหมดแล้วเขายังไม่ดี แสดงว่าเขาไม่ดีจริง แต่ถ้าเราบอกไม่ดีตั้งแต่ต้น ก็ทำให้ไม่อยากมองหน้า ตนก็ได้พยายามเติมตลอด บางคนก็ยังไม่ดี ก็มีเลยกลับไปคิดว่าเราไม่ดีเองหรือเปล่า ที่แก้ใครไม่ได้ กลับไปแก้ตัวเองดีกว่า ฉะนั้นต้องสอดแทรกทั้งหมด อนาคตของชาติไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นของรุ่นลูก รุ่นหลาน วันนี้ถ้าเราไม่ช่วยกันทำยุทธศาสตร์ชาติ อนาคตลูกหลานจะยิ่งกว่านี้ จะตีกันยิ่งกว่านี้ และเราจะกลายเป็นที่สุดท้ายในอาเซียน ที่สุดท้ายในสังคมโลก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เรามีสิ่งที่ดีอยู่หลายอย่าง มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีวัฒนธรรมที่งดงาม บางคนบอกว่าไม่ต้องมีแล้วโลกใหม่ ต้องปรับใหม่เท่าเทียมกัน ขอถามว่าที่คนต่างประเทศเข้ามาในไทย เพราะอะไร เพราะเราเป็นประชาธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้สิทธิเสรีภาพทุกคน เขามาเพราะแบบนี้หรือ แต่ที่เขามาเพราะเรามีบ้านเมืองที่งดงาม มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ มีวัฒนธรรมที่น่าเยี่ยมชม ขณะที่แต่ละประเทศเวลาคนไป จะไปดูของ ไปดูบ้านเมืองที่งดงาม แค่นั้นเหมือนกันทุกประเทศ เวลาตนบอกกับต่างประเทศ จะบอกว่าเราตีกันช้าไปหน่อย แต่ท่านตีกันมา 200 ปีแล้ว และท่านก็เลิกไปแล้ว เจริญแล้ว เราสงบกันมาตลอด เพิ่งมาตีกันปีนี้ ก็เลยช้าหน่อย ให้เวลาเราบ้าง ตนได้อธิบายไปแบบนั้น ไม่รู้จะไปอย่างไร ไปแบบกำปั้นทุบโต๊ะ ฉะนั้นวันนี้สิ่งที่อยากจะบอก เราพร้อมรับทุกอย่างที่ วปอ. เสนอมาทั้งหมด และชื่นใจที่หลายๆ อย่างมีความตรงกันอยู่แล้ว อะไรที่ฝ่ายไหนไปทำได้ ก็จะแจกจ่ายไปให้ดำเนินการ และเรื่องสำคัญอื่นๆ ให้ไปดูว่าวันนี้ที่ทะเลาะกันมีเรื่องอะไรบ้างทั้งการเมือง พลังงาน สาธารณูปโภคพื้นฐาน สถานการณ์น้ำ ก๊าซ น้ำมัน ให้ไปดูที่สื่อสารต่างๆ มันไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เขาบอกว่าเป็นนายกฯ แล้วให้พูดน้อยๆ เดี๋ยวจะล้ำเส้นเกินไป แต่ก็อดพูดไม่ได้ เพราะท่านพูดเป็นทางการกันแล้ว ก็ขอพูดในทางปฏิบัติ ตนเป็นนักปฏิบัติ อย่างเรื่องขยะวันนี้ให้มีการนำร่องไปแล้วที่ จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา ทราบว่าประชาชนบางส่วนไม่เห็นชอบ ตรงนี้ให้คุยกันต่อไป หากไม่กำจัดขยะให้ได้ ไม่สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ แต่เรื่องการแยกขยะตนเคยสอนครอบครัวบอกให้แยก แต่ทำไมพอถึงเวลารถขยะมาเก็บ ก็กวาดรวมกันหมด แล้วจะแยกไปทำไม

“จริงๆ หนักใจอยู่ในการทำงาน ซึ่งระยะที่ 2 ที่ทำในเรื่องการปฏิรูป 11 เรื่อง สิ่งไหนทำได้ก็ทำก่อน ทำจริง และมีผลภายใน 1 ปี และมีผลยั่งยืน เกิน 1 ปีไปแล้วรัฐบาลไหนมาก็ส่งไป วางพื้นฐานประเทศไว้ให้ได้ เรามาช่วยกันก่ออิฐ ถือปูน ใส่เหล็กเข้าไปให้แข็งแรง ที่จะยุบลงมาจะได้ไม่ยุบ สามอำนาจยังไม่ทันล้ม ก่อน 22 พ.ค. ผมไม่ได้ไปแย่งอำนาจใครมา เพราะรัฐบาลไม่มีอำนาจเต็ม เราเลยมาทำแทน” พล.อ.ประยุทธกล่าว และว่าคราวหน้าพูดจะเก็บบัตรดีกว่า

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ขอให้มั่นใจในการทำงานของพวกเราทั้ง คสช. รัฐบาล ข้าราชการ ประชาชน ต้องช่วยกันเดินหน้าประเทศชาติ วันนี้อย่าเพิ่งโทษเป็นความผิดใคร เราต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้ โดยใช้หลักความพอเพียงตราหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รวมถึงปัญหาภาคใต้ต้องเน้น เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา วันนี้บางคนไม่เข้าใจกองทัพ มองว่าทหารตายทุกวันสู้เค้าไม่ได้หรืออย่างไร นั่นคือสิ่งที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ต้องอธิบายกันต่อไป ความจริงมันไม่สู้กับเรา มันแอบยิงเรา ถามว่าต้องทำอย่างไร ต้องไปแอบยิงกลับหรือ วันนี้ไม่รู้ใครเป็นใคร บ้านเมืองเละไปหมด ถ้าเรายิงกันเละทั้งเมืองแล้วใครเข้ามา ต่างชาติจะเข้ามา นั่นคือสิ่งที่ต้องระวัง

“วันนี้ที่พูดไม่ได้เต็มปาก เราไม่ต้องการให้ต่างชาติเข้ามา ถือเป็นกิจการภายในของไทย อาเซียนบอกเป็นเรื่องของไทย ให้ไทยแก้ไป อย่าไปว่าเขา เขาเต็มที่แล้ว ถ้าไปยุ่งมากก็ไปบ้านโน้นบ้านนี้ เขาก็ไม่อยากให้ไป ฉะนั้นเราต้องแก้ให้ได้ด้วยการพัฒนา ซึ่งต้องใช้เวลา ซึ่งมีคนเจ็บคนตาย วันนี้คิดว่าไม่เสียใจหรือที่ลูกน้องตาย ลูกทหาร เมียทหาร ไม่มีหัวใจหรืออย่างไร พูดจากันให้เสียหายไปหมด รวมถึงเรื่องการใช้เงิน อย่าเอาเรื่องเงินมาเป็นตัววัด เรื่องนี้สู้กันในสายเลือดมาตลอดมาเป็นร้อยปี ก็พยายามจะเร่งรัดให้ดีที่สุด ให้เร็วที่สุด วันนี้สิ่งที่น่าพอใจคือยังไม่ลุกลามไปต่างประเทศ ต่างประเทศไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องคุยเรื่องสันติภาพเพื่อต้องการให้โลกภายนอกเห็นว่าเราไม่ได้ใช้กำลังอย่างเดียว แต่ใช้กฎหมาย บางคนบอกเราไม่ต้องไปคุยกับใคร ไม่ต้องสันติภาพกับใคร เอาทหารกวาดล้างให้หมด นั่นแหละจะเข้าเงื่อนไขของยูเอ็น (องค์การสหประชาชาติ) ทันที เขาไม่ต้องพูด ถ้าใช้กำลังทางทหารเมื่อไร เมื่อนั่นจะยิงกันสนั่นทั้งเมืองแล้วเป็นการรบกับประชาชน ใช้ทหารไปกวาดล้างประชาชน ยิ่งประชาชนที่นับถือกันคนละศาสนาจะเข้าเงื่อนไขที่ต่างชาติจะส่งกำลังเข้ามาในไทยทันที ต้องการอย่างนั้นหรือเปล่า เรื่องนี้ต้องเข้าใจ อย่าใจร้อน วันนี้มันมีพวกมีอิทธิพล ค้าของเถื่อนผิดกฎหมายผสมกันอยู่ด้วย เราต้องค่อยๆ แก้กันไป ทหารตายทุกวันเจ็บปวดทุกวัน แต่เราเป็นทหารต้องอดทน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในตอนท้ายว่า ขอชื่นชมการแถลงยุทธศาสตร์ของนักศึกษา วปอ. ที่ทำและทุ่มเทมาจะไม่เสียเปล่า ตนจะนำไปดำเนินการซึ่งหลายๆ อย่างตรงกับนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ขอบคุณที่จะร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ประเทศชาติ ผนึกกำลังคืนสันติสุขให้ประเทศไทยให้มั่นคง มั่งคั่ง นโยบายรัฐบาล จริงใจ จริงจังและยั่งยืน วิธีการทำงานแบบทำจริง ทำทันที มีผล ยั่งยืน ส่วน 3 ป. โปร่งใส ปรองดอง เป็นธรรม เราจะทำอย่าดีที่สุด วันนี้ต้องเร่งรัดพัฒนาประเทศชาติให้ได้โดยเร็ว ขอบคุณคนไทยทุกคน ถ้าใครไม่คิดอย่างนี้คิดว่าไม่ใช่แหละ มันไม่ใช่แสดงว่า 2 ชาติที่แล้วไม่ได้เกิดเป็นคนไทยถ้าสองชาติที่แล้วเกิดเป็นคนไทยต้องลำบากเหมือนพวกเรา แต่ต้องพัฒนาชาตินี้ของพวกเราให้ดีกว่าชาติหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น