“แจ๊ค” จวก “จ้อน” ลิ้นไก่เขียว เสพติดอำนาจ สบประมาทกำพืด จี้สำนึกบุญคุณ

อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อประชาธิปัตย์ จวกรองประธาน สปท.เสพติดอำนาจ อ้างปฏิรูปหวังอยู่ยาว ลิ้นไก่เขียวเอาใจ คสช. ปัดยุ “มีชัย” ลาออก บอกแค่ห่วงผู้อาวุโสคงไม่หูเบา สับไม่ควรสบประมาทต้นกำเนิด จี้สำนึกพระคุณ แฉเสนอชื่อคนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่กลับไม่โหวตเอง ไล่ตอบคำถามคนเมืองเพชรริบอำนาจเลือกตั้ง ส.ว. ยันรัฐบาลผ่านมา 2 ปี ไม่มีผลงานอะไรเลย

วันนี้ (14 มี.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ว่าควรเสนอสิ่งสร้างสรรค์มากกว่าการยุแยงตะแคงรั่วแบบการเมืองยุคเก่าๆ ที่ไม่สามารถเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้ว่า ปกติเดิมนายอลงกรณ์อยู่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เคยพูดแบบนี้ พอไปเสพติดอำนาจโดยอ้างคำว่าปฏิรูปบังหน้าแล้วหวังจะอยู่ในอำนาจยาวก็จำเป็นต้องพูดเพื่อเอาใจ คสช. ไม่ผิดเลยที่ตนเคยบอกว่านายอลงกรณ์มีลิ้นไก่สีเขียวไปแล้ว เลยพูดเอาใจทหารบางคนไม่หยุด การที่มีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ออกมาสัมภาษณ์เรื่องรัฐธรรมนูญล้วนเป็นไปในทางสร้างสรรค์และเป็นประชาธิปไตยมากกว่าในโมเดลความคิดของแม่น้ำ 5 สายเสียอีก โดยเฉพาะที่ระบุว่าหากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ถูกกดดันมากๆ อาจลาออกได้ก็เป็นการห่วงใยบุคคลากรสำคัญของ คสช.ที่รับหน้าเสื่ออยู่ในขณะนี้ ไม่เห็นว่าเป็นการยุแยงตะแคงรั่วอย่างที่นายอลงกรณ์ วิตกจริตตรงไหนเพราะผู้อาวุโสอย่างนายมีชัยไม่ใช่คนหูเบา ลุแก่อำนาจเหมือนคนบางคน

นายวัชระกล่าวว่า นายอลงกรณ์เป็นศิษย์เก่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้งเพราะการเมืองยุคเก่าแบบพรรคประชาธิปัตย์มิใช่หรือ แสดงว่าประชาชนไว้วางใจและเชื่อมั่นหากประชาชนไม่ไว้วางใจ นายอลงกรณ์ อาจไม่ได้เป็นผู้แทนฯ จึงไม่ควรสบประมาทพรรคที่ให้กำเนิด และได้เป็นรัฐมนตรีเพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเลือกให้เป็น นายอลงกรณ์จึงควรสำนึกในพระคุณของพรรค ไม่ควรพูดให้พรรคเสียหาย อย่าได้กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ขัดค่านิยม 12 ประการของ คสช.เสียเองและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่นักเรียนนักศึกษาเยาวชน

นายวัชระกล่าวว่า ขณะที่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ก็เรียกร้องการปฏิรูปนำหน้า นายอลงกรณ์เป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่แล้วก็ต้องปฏิรูปตัวเองด้วย แต่น่าสงสัยมากว่าเมื่อมีการเสนอชื่อบุคคลลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค นายอลงกรณ์ ได้เสนอชื่อคนคนหนึ่งให้ลงสมัคร แต่ถึงเวลาลงคะแนน คนที่เสนอชื่อกลับไม่ได้คะแนนแม้แต่คะแนนเดียว แล้วอย่างนี้นายอลงกรณ์จะปฏิรูปอะไรได้ แค่กล้านับหนึ่งด้วยตนเองยังไม่กล้า และที่สนับสนุนให้มี ส.ว.ลากตั้งช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีว่า คือภารกิจการปฏิรูปให้สำเร็จไม่ใช่สืบทอดอำนาจ ก็เท่ากับว่านายอลงกรณ์ เป็นอดีต ส.ส.เพชรบุรีเห็นด้วยกับ คสช.ว่าต้องริบอำนาจการเลือกตั้ง ส.ว.จากคนคนเมืองเพชรก็ต้องกลับไปตอบคำถามชาวบ้านให้ได้ว่าคนเมืองเพชรไม่ดีอย่างไร ถึงต้องริบอำนาจการเลือกตั้ง ส.ว.ที่เคยมีของประชาชนไปเป็นของ คสช.เพียงพวกเดียวถ้าจะไม่ให้ใครคิดว่าคสช.สืบทอดอำนาจก็ต้องวางหลักการปฏิรูปที่แท้จริงไว้แล้วถอยตัวบุคคลออกมา ประชาชนถึงจะเชื่อว่าไม่มีการสืบทอดอำนาจจริง

“การที่ท่านออกมาบอกว่าขอส่งข่าวไปยังพรรคการเมืองให้เปิดหูเปิดตาว่าการปฏิรูปเดินหน้าไปได้มากนั้นเป็นเพียงแค่ละครปาหี่ รัฐบาลบริหารประเทศมา 2 ปี ไม่มีผลงานการปฏิรูปอะไรเลย ท่านอย่าเชลียร์ คสช.จนเกินงาม เพราะท่านเคยมาจากการเลือกตั้งแต่กลับไปเห็นดีเห็นงามกับการแต่งตั้ง คสช.อาจเข้าใจผิดว่านักการเมืองเป็นแบบท่านทุกคน ซึ่งความจริงนักการเมืองที่แบบนายอลงกรณ์สามารถนับหัวได้ ท่านเคยเป็นถึงเลขานุการนายชวน หลีกภัย น่าจะได้หลักความกตัญญู ซื่อสัตย์ มีคุณธรรมจากนายชวนเป็นสมบัติติดตัวออกจากพรรคไปบ้างเพื่อเป็นต้นทุนในการปฏิรูปการเมืองให้ประชาชนต่อไป” นายวัชระกล่าว