นายกฯ และหัวหน้า คสช.เตรียมแบ่งงาน 19 กระทรวงให้ 5 รองนายกฯ ทันทีที่แถลงนโยบายรัฐบาล เผย คสช.ยังดูแล 5 ด้านแต่ลดบทบาทลง เน้นเรื่องด่วนรักษาความสงบ ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ สั่งรัฐมนตรีหาคนมีความสามารถช่วยงาน ยึดหลักทำก่อน-ทำจริง มีผลสัมฤทธิ์ปีหน้า ในค่านิยม 12 ประการ ยันสรรหา สปช.ไม่มีล็อก แย้ม ครม.ไม่มีกำหนดระยะเวลาทำงาน อ้างเชื่อมั่นในความดี
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานการประชุมคณะ คสช.ครั้งที่ 13 โดยรอง คสช.ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร พล.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการ คสช. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า ทันทีที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติและจะมีการแบ่งการทำงาน 19 กระทรวงให้รองนายกรัฐมนตรี 5 คน ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล, นายยงยุทธ ยุทธวงศ์, พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร, นายวิษณุ เครืองาม ดูแล ขณะที่บทบาทการทำงานของ คสช.5 ด้านยังคงอยู่แต่ก็ต้องลดบทบาทลง มีเพียงการดำเนินการเกี่ยวกับงานขับเคลื่อนที่เป็นเรื่องเร่งด่วน เช่น การรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความมั่นคงภายใน รวมถึงการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ คสช.มุ่งเน้น พร้อมระบุถึงการทำงานในส่วนของรัฐบาลใหม่ด้วยว่าได้กำชับให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมทำงานเพื่อขับเคลื่อนประเทศ โดยยึดหลักทำก่อน ทำจริง มีผลสัมฤทธิ์ ปี 58 และยั่งยืนบนพื้นฐานของค่านิยมคนไทย 12 ประการที่มีความเหมาะสมกับประเทศไทยและสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ส่วนการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปที่มีการสมัครเข้ามากว่า 6,000 คนนั้นจะพิจารณาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ยืนยันไม่มีการล็อกสเปก
“การทำงานของคณะรัฐมนตรีต่อจากนี้จะไม่มีการกำหนดระยะเวลาการทำงานเพราะไม่ต้องการให้เงื่อนไขของเวลามาเป็นอุปสรรค ผมเชื่อมั่นในความดี ว่าความดีจะชนะความไม่ดี และจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว