“ประยุทธ์” ประชุม คสช. จี้ทำเรื่องเร่งด่วนให้เสร็จก่อนแถลงนโยบาย ครม.ใหม่ โยนแม่ทัพภาค 1 ดูสถานการณ์ประเทศก่อนชงพิจารณาปรับลดกฎอัยการศึก แต่ยันยังไม่ใช่เวลานี้ ระบุอาเซียนโอเคความเชื่อมั่น พร้อมติดตามตั้งศูนย์การเรียนรู้ 882 แห่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช เน้นย้ำยึดหลักค่านิยมคนไทย 12 ประการ
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานการประชุมคณะ คสช.ครั้งที่ 13 โดยรอง คสช.ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร พล.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการ คสช. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในที่ประชุมว่า ขอให้ทุกส่วนงานขับเคลื่อนเรื่องที่เร่งด่วนให้แล้วเสร็จก่อนที่จะมีการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยการทำหน้าที่ของคณะ คสช.จะลดระดับลงโดยจะเน้นดูแลการทำงานในส่วนของการรักษาความสงบเรียบร้อยและ การรักษาความมั่นคงภายในประเทศ การดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนกรอบการทำงานระหว่าง คสช.กับทางคณะรัฐมนตรี ตนจะชี้แจงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง
“สำหรับกฎอัยการศึกนั้นได้มอบหมายให้ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ ไปพิจารณาและสรุปถึงสถานการณ์ภาพรวมของประเทศ เพื่อนำเสนอมายัง คสช.เพื่อพิจารณาปรับลดหรือผ่อนคลายต่อไปในอนาคต แต่ผมยืนยันว่ายังไม่ใช่ในเวลานี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการทำงานในส่วนงานต่างๆ โดยเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการคือ การรักษาสภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัยของประเทศ และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนในชาติและต่างประเทศนั้น ปัจจุบันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสมาชิกกลุ่มประเทศในอาเซียน พร้อมกับให้มีการติดตามงานที่สำคัญๆ อาทิ ความก้าวหน้าการจัดตั้งวันสต็อปเซอร์วิสให้ได้ในทุกภาคธุรกิจ การจัดตั้งศูนย์บริการต่างชาติในประเทศไทย การดูแลเรื่องวีซ่าและการตรวจคนเข้าเมืองสำหรับผู้ที่จะเข้ามาลงทุน รวมถึงติดตามการตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาที่บริษัทกลุ่มทุนขนาดใหญ่ของต่างชาติจะเข้ามาถ่ายทอดความรู้ให้ไทย นอกจากนี้ยังมีการติดตามเรื่องการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้จำนวน 882 ศูนย์ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชของเกษตรกรไทย โดยการประสานกับทางกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนบริหารจัดการน้ำด้วย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ในส่วนงานด้านสังคมจิตวิทยา ด้านกฎหมายและกิจการพิเศษ โดยย้ำให้ดำเนินการโดยยึดหลักค่านิยมคนไทย 12 ประการ การเสนอกฎหมายต้องมีความทันสมัยเพื่อประโยชน์ในการลดปัญหาการคอร์รัปชัน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมในการดำเนินคดีด้วย