ลุงตู่ กระแสฟีเวอร์เริ่มหด !!

เกาะกระแส

00 ภายในสัปดาห์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 อย่างเป็นทางการ จากนั้นภายในอีกไม่เกินสองสัปดาห์ ก็จะมีครม. มีรัฐบาลเข้ามาบริหารบ้านเมืองอย่างเต็มตัว ทุกอย่างกำลังเดินไปตามโรดแมปของพวกเขา หลังจากก่อรัฐประหารนานกว่า 3 เดือน อย่างไรก็ดี เวลานี้หลายคนกำลังจับตามองว่าหน้าตาของรัฐมนตรีชุด "ประยุทธ์1" จะออกมาเป็นเช่นไร แม้ว่าที่ผ่านมาพอจะคาดการณ์ได้ล่วงหน้าแล้วว่าตำแหน่งสำคัญจะมีใครกันบ้าง

00 คาดกันว่าจะมีหลายคนมาจาก คสช. โดยเฉพาะระดับรองหัวหน้า คสช. ที่ต้องเกษียณฯในเดือนก.ย.จะต้องมานั่งในตำแหน่งสำคัญรองรับ เริ่มจาก พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. รองหัวหน้า คสช. ฝ่ายความมั่นคงดูแลด้านต่างประเทศ จะมานั่งรองนายกฯ ควบรมว.ต่างประเทศ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง จะนั่งรองนายกฯ ควบรมว.คมนาคม พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย จะนั่งรองนายกฯ ควบรมว.ศึกษาฯ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองนายกฯ ยังไม่ชัวร์ว่าจะควบกระทรวงไหน แต่ข่าวแว่วว่าอาจควบสำนักนายกฯ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ฝ่าย กม.จะมานั่งเก้าอี้ รมว.ยุติธรรม และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เวลานี้เป็นประธาน กมธ.งบประมาณ ตามเส้นทางที่ผ่านมาก็น่าจะนั่งเก้าอี้ รมช.คลัง แต่ตามโผที่ปล่อยออกมา อาจไปนั่ง รมว.แรงงาน

00 ส่วน รมว.กลาโหม และมหาดไทย กำลังล็อบบี้กันหนัก ว่าจะสงวนเอาไว้ให้ "พี่ใหญ่-พี่รอง" ของ "บูรพาพยัคฆ์" ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หรือไม่ โดยเฉพาะรายแรก หากจะนั่งเก้าอี้ ก็ต้องขอนั่งรองนายกฯ ควบกลาโหมคุมกองทัพ แต่ก็มีเสียงต้านอยู่เหมือนกัน เนื่องจากเกรงภาพลบเรื่องภาพลักษณ์ อีกทั้งทำให้การทำหน้าที่นายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สะดวก ข่าวล่าสุดบอกว่า อาจให้เขาควบ รมว.กลาโหม อีกตำแหน่งเพื่อตัดปัญหา ก็ว่ากันไป เอาเป็นว่าส่วนใหญ่ มาร์กชื่อเอาไว้หมดแล้ว ยกเว้นตำแหน่งสำคัญสองสามตำแหน่งเท่านั้น ที่รอตัดสินใจขั้นสุดท้าย

00 แม้ว่ากำลังเฝ้ารอดูหน้าตา ครม.ชุดใหม่ รวมถึงผลสำรวจที่ออกมา ชาวบ้านยังแสดงความพึงพอใจการทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้า คสช. สารพัดโพลออกมาตรงกันว่า "ปลื้ม" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สอบผ่านได้คะแนนสูง แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องสังเกตใน"จุดเล็กๆ" ที่เพิ่งมองเห็นก็คือ เมื่อดูจาก "สวนดุสิตโพล" ที่แม้ว่าหลายคนไม่ค่อยเชื่อถือ เมื่อพิจารณาจากแบ็กกราวด์มองว่า ยึดโยงกับเครือข่ายทักษิณ แต่คราวนี้ก็ต้องจับตาบ้างเหมือนกัน นั่นคือ ผลสำรวจที่ออกมาว่า มีคนเริ่มไม่พอใจมากขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อเทียบกับช่วง 1 เดือนของคสช. ได้คะแนน 8.82 ครบ 2 เดือนได้คะแนน 8.87 เพิ่ม.05 คะแนน แต่เมื่อครบ 3 เดือน ได้คะแนน 8.80 "ลดลง" .07 คะแนน น่าสนใจอีกก็คือ ในผลสำรวจยังต้องการให้แก้ไขเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง ไฟใต้ นั่นแสดงว่า ยังไม่พอใจนัก

00 แม้ผลสำรวจดังกล่าวอาจจยังไม่อาจชี้วัดได้มากนัก แต่ก็เป็นจุดสังเกต ชี้ให้เห็นความเคลื่อนไหวบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้น โดยชี้ให้เห็นแนวโน้มในอนาคต เพราะเมื่อนำมาพิจารณาตามความเป็นจริง มันก็สอดคล้องกัน นั่นคือ เริ่มมีเสียงวิจารณ์ ความผิดหวังเริ่มมีให้เห็นมากขึ้น ทั้งจากเรื่องการตั้ง สนช. การตั้งคณะกรรมการสรรหา สปช. การปฏิรูปด้านพลังงาน ที่ดูแล้วไม่ค่อยมีความหวัง ถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้ "กลุ่มทุนพลังงาน" เข้ามาฮุบทรัพยากรของชาติ โดยฮั้วกับกลุ่มทุนใน ปตท.

00 ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาในเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง ค่าครองชีพ ดูเหมือนจะดี แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ราคาสินค้าทางการเกษตรหลักๆ ไม่กระเตื้องตรงกันข้าม ยังดิ่งลงเรื่อยๆ ราคาข้าวยังดีไม่มาก ยางพารารูดลงต่ำกว่า ก.ก. ละ 50 บาท นี่ขนาดเป็นช่วงหน้าฝนปิดกรีด หากเป็นช่วงเปิดกรีด ฤดูข้าวนาปีที่จะประดังเข้ามาในอีกราวสองเดือนข้างหน้า จะเป็นไงกันบ้าง แม้แต่ราคาผลไม้ตามฤดูกาล ทุกอย่างยังตกต่ำเหมือนเดิม นานไปก็น่าเป็นห่วง หากแก้ปัญหาจนมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ฝ่ายต่อต้านที่กำลังซุ่มซ่อนอยู่ ก็อาจได้จังหวะโผล่ออกมาขยายวงได้ไม่ยากเหมือนกัน !!

00 โผล่ออกมาย้ำอีกรอบ สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ให้เครือข่ายลิ่วล้อทั้งหลายอยู่นิ่งเอาไว้ก่อน เพราะเวลาแค่ 1 ปี ไม่นานเกินรอ มีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ พวกเขาก็มีลุ้นกลับมาได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะต้องแข่งกับ "พรรคทหาร" หากมีขึ้นในอนาคต เพื่อรองรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ "บูรพาพยัคฆ์" หากต้องการลงสนามการเมืองในระยะยาว ก็ยังเชื่อว่า "ระบอบทักษิณ" ยังสู้ได้ หรือหากสถานการณ์เปลี่ยน ถึงตอนนั้นมีการแบ่งอำนาจกันลงตัวแบบพึ่งพากัน มันก็ไม่แน่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ว่าตอนนี้ "อย่าแตะต้อง" กันก็แล้วกัน แค่นี้ทนได้ เพราะไม่มีอะไรเสียหาย แค่ขาดทุนกำไรนิดหน่อย ไม่มีปัญหาอยู่แล้วใช่มั๊ย แม้ว !!