xs
xsm
sm
md
lg

นโยบายรัฐพร้อม“บิ๊กตู่”แถลงเองยึด5หลัก-แก้11ปัญหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชิมลางประชุม ครม.นัดแรกคึกคัก ทหาร - ตำรวจ รักษาความปลอดภัยเข้ม ครม.สวมชุดไทยพระราชทาน “บิ๊กตู่” ไหว้ศักดิ์สิทธิ์ก่อนเริ่มงาน หยอดนักข่าวทำเนียบฯน่ารัก ก่อนเอ่ยขอแรง “ช่วยกันๆๆ” ด้าน “วิษณุ” เผยร่างนโยบายเสร็จแล้วยึด 5 กรอบหลักสาง 11 ปัญหา พร้อมแถลง สนช. 12 ก.ย.นี้ ระบุ คสช.ลดเพดานเป็นแค่กุนซือรัฐ คาดตั้ง “ไก่อู” ร่วมทีมโทรโข่ง ขณะที่ “มาร์ค” สะกิด รบ.อำนาจเบ็ดเสร็จ หวั่นตรวจสอบยากเสี่ยงปัญหาทุจริตอื้อ“โอ๊คอ๊าค” ตีปิ๊บการ์ตูนประวัติ “แม้ว”

วานนี้ (9 ก.ย.) ที่ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อรับฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนในการดำเนินการประชุม ครม.และรับฟังการรายงานการดำเนินการจากหัวหน้าฝ่ายต่างๆของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้ง 5 ฝ่ายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รวมไปถึงรับทราบความคืบหน้าการยกร่างนโยบายรัฐบาลที่จะมีการแถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตามถือเป็นการเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ มาติดตามทำข่าวจำนวนมาก ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย มีทหารและตำรวจสนธิกำลังดูแลอยู่ภายในทำเนียบฯอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นพื้นที่โดยรอบตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี และกำหนดให้สื่อมวลชนอยู่ตามจุดที่กำหนดไว้ โดยกำชับว่า ไม่ให้เดินตามนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่จะมาประชุม

นายกฯขึ้นตึกไทยฯ แต่ยังไม่เข้าห้องทำงาน

ต่อมาเวลา 09.06 น. พล.อ.ประยุทธ์ในชุดไทยพระราชทานสีฟ้า ได้เดินทางออกจากกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) มาถึงทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ และ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ซึ่งมีข่าวว่า จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มารอต้อนรับ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากรถยนต์ ได้โบกมือทักทายสื่อมวลชน และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อสักการะพระพรหม ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้เข้าห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด หลังจากนั้น

พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า มาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตา ศาลยาย โดยได้ถวายผ้าแพรเจ็ดสี เครื่องสักการะ ผลไม้ หมากพลู

ซึ่งหลังจากสักการะเสร็จสิ้น สื่อมวลชนได้พยายามทักทายให้ พล.อ.ประยุทธ์อารมณ์ดีและยิ้ม และบอกว่านักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลน่ารักทุกคน ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ หันมายิ้ม และพูดว่า “นักข่าวทำเนียบฯน่ารักทุกคน” ก่อนจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุม ครม. ที่ตึกสันติไมตรีหลังใน ซึ่งก่อนจะเข้าห้องประชุมยังได้หันมาบอกสื่อมวลชนที่รอติดตามทำข่าวว่า “ช่วยกันๆๆ”

ในช่วงก่อนการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับที่ประชุมว่า วันนี้ถือเป็นวันดีที่ได้มีการประชุมเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งจะเน้นความโปร่งใส สร้างค่านิยม 12 ประการ ให้กับคนในชาติ ขอให้ ครม.ปฏิบัติตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณเอาไว้ คือ ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และยึดผลประโยชน์ของประเทศ พร้อมกันนี้จะมีการรับทราบถึงผลการดำเนินงานของ คสช. และจะหารือถึงข้อสรุปในการทำงานร่วมกันในอนาคต ทั้งนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่า จะมีการแถลงนโยบายต่อ สนช.ในวันที่ 12 ก.ย.นี้

ทั้งนี้การประชุมใช้เวลาราว 4 ชั่วโมง เสร็จสิ้นเมื่อเวลา 13.20 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดก๋วยเตี๋ยวปลาชื่อดัง "ลิ้มเหล่าโหงว" มาเสิร์ฟเป็นอาหารกลางวัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ เพียงแต่หันมายิ้มพร้อมโบกมือให้สื่อมวลชนเท่านั้น จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางกลับไปที่ บก.ทบ.ทันที

นโยบายรัฐบาลเสร็จแล้ว-ยึด5กรอบ

เมื่อเวลา 13.50 น. ที่ตึกนารีสโมสร นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้แถลงภายหลังการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้จะไม่ถือว่าเป็นการประชุมอย่างเป็นทางการ และจะไม่เรียกว่าเป็นการประชุมครั้งที่ 1 เนื่องจากเป็นการประชุมก่อนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ที่ต้องมาพบปะเพราะมี 3 หัวข้อสำคัญที่ต้องทราบก่อนเข้าบริหารราชการแผ่นดิน คือ 1.ซักซ้อมความเข้าใจวิธีทำงาน รวมทั้งเตรียมตัวปฏิบัติภารกิจของรัฐมนตรีแต่ละคน และการชี้แจงแนวทางที่ ครม.จะเสนอแต่งตั้งที่ปรึกษา เลขานุการ ผู้ช่วยรัฐมนตรี 2.นายกฯต้องการให้หัวหน้าฝ่ายแต่ละฝ่ายของ คสช.มารายงานผลการปฏิบัติงานในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนายกฯได้สั่งการให้พิมพ์เป็นรูปเล่มแจกจ่ายไปตามกระทรวงเพื่อจะได้สานต่อได้ถูกต้อง และ 3.ให้ ครม.รับทราบว่าได้ยกร่างนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12 ก.ย.แล้วเสร็จแล้ว ซึ่งนายกฯลงมากำกับด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ร่างนโยบายรัฐบาลมาจาก 5 แหล่งที่นายกฯได้ให้แนวทางไว้ คือ 1.ยึดหลักตามแนวพระราชดำริ คือ เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา 2.ยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3.แผนพัฒนาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 4.นโยบาย คสช. เช่น โรดแมป 3 ระยะ และหลักค่านิยม 12 ประการ เป็นต้น และ 5.ปัญหาของประเทศและความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาว่า คนส่วนใหญ่ต้องการอะไร เรียกร้อง อยากเห็นอะไร

“ทำก่อน ทำจริง ทำทันที” สโลแกน รบ.

นายวิษณุกล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้กำหนดให้รัฐบาลมีหน้าที่ 3 ข้อ คือ 1.การบริหารราชการแผ่นดิน 2.การปฏิรูปประเทศ และ 3.สร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น ฉะนั้นนโยบายที่จะแถลงจึงครอบคลุมหน้าที่ 3 ข้อนี้ ซึ่งหน้าที่แต่ละข้อจะแตกเป็นเรื่องย่อยหลายข้อ สำหรับหน้าที่แรกคือการบริหารราชการแผ่นดิน นโยบายที่จะแถลงจะครอบคลุมปัญหาต่างๆของประเทศ 11 ด้าน อาทิ เศรษฐกิจ การศึกษา ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และการเตรียมตัวเข้าสู่อาเซียน เป็นต้น ทั้งนี้นายกฯได้ให้แนวทางการทำงานว่าในปัญหาใหญ่ทั้งหมด 11 ด้าน ซึ่งแตกเป็นเรื่องย่อยๆ ให้แบ่งว่าอะไรเป็นเรื่องต้องทำเร่งด่วนเฉพาะหน้า หรือระยะแรกที่อาจต้องทำภายใน 1 เดือนหลังจากรัฐบาลเข้าทำงานแล้ว ระยะกลางคือเรื่องที่ทำต่อจากระยะแรกแต่ต้องพยายามให้เสร็จภายใน 1 ปี เพราะไม่ได้อยู่ 4 ปีเหมือนรัฐบาลปกติ และสุดท้ายคือระยะยาว ที่กว่าจะเห็นผลก็ประมาณ 5-10 ปีข้างหน้า อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องในอนาคตแต่รัฐบาลจะวางรากฐานเอาไว้ให้ ต่อจากนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาลต่อไปมารับช่วงต่อ

“นายกฯได้ย้ำไว้ให้ในนโยบายด้วยว่า สิ่งที่ท่านเคยพูดมานั้นซึ่งอาจถือเป็นคำขวัญประจำรัฐบาลก็ได้ เพราะจะปรากฏในนโยบายทั้งหมด นั่นก็คือเรื่องการทำก่อน ทำจริง ทำทันที โดยหวังผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน” นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า นายกฯได้กำชับให้ในทุกๆหัวข้อไม่ว่าเศรษฐกิจ การศึกษา ความมั่นคง ให้แทรกเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเข้าไปให้หมด ให้แทรกเรื่องการปฏิรูปการสร้างความเปลี่ยนแปลงเข้าไป และให้แทรกการเดินหน้าเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติที่แทรกเข้าไปอยู่ในหัวข้อ นอกจากนี้การประชุม ครม.ครั้งหน้าจะประชุมเพื่อแบ่งงานรองนายกฯ

แย้มเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ส่วนเงื่อนเวลารัฐบาลนี้มีเวลาทำงาน 1 ปี อาจจบวกหรือลบขึ้นอยู่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเสร็จเมื่อใด นโยบายจึงเขียนเพื่อที่จะให้ทำงานได้ใน 1 ปี ยกเว้นสิ่งที่วางรากฐาน ส่วนเป้าหมายเรื่องประชาธิปไตย เรื่องการปฏิรูป เรื่องไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นเป้าหมายที่จะต้องเดินไปถึงจุดนั้นให้ได้ และเป็นคำตอบสุดท้ายเพื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลหน้า และหวังว่าสิ่งรัฐบาลใหม่ที่จะมาจะสามารถรับช่วงงานทั้งหมดไปทำได้ และเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่เป็นภาระกับประชาชน

สำหรับเรื่องการยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกนั้น นายวิษณุกล่าวว่า นายกฯระบุว่าจะพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ในโอกาสแรกที่จะทำได้ ซึ่งจะเป็นตามความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ของการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันมิติการท่องเที่ยวก็มีเรื่องอื่นด้วย ซึ่งฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังศึกษาเตรียมข้อมูลอยู่ หลังจากวันที่ 12 ก.ย.เป็นระยะเวลาที่พิจารณาได้ทั้งนั้น

เล็งเปิดเวทีคู่ขนาน สปช.เดินงานปฏิรูป

ในส่วนภารกิจด้านการปฏิรูปนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่จะเป็นสถาปนิกหลักในการคิดว่าจะออกแบบประเทศอย่างไร ซึ่งเวทีของ สปช. 250 คนจะเป็นเวทีทางการ นอกจากนี้รัฐบาลจะเปิดพื้นที่ให้แก่ผู้ที่เข้ารับการสรรหา แต่อาจไม่ได้รับเลือก โดยเฉพาะในส่วนของผู้ที่เข้ารอบสุดท้าย 550 คน เนื่องจากบุคคลเหล่านี้อาจมีความคิดดีๆในการเสนอความเห็นออกแบบประเทศ คนกลุ่มนี้รัฐบาลจะส่งเสริมให้มีเวทีแสดงความเห็นได้ แม้จะไม่ได้เป็น สปช.ก็ตาม เช่น อาจประสานให้เป็นกรรมธิการ อนุกรรมาธิการ คณะทำงาน หรือที่ปรึกษาของ สปช.

แจง คสช.เริ่มลดบทบาท

ในส่วนของบทบาทของ คสช.ในระหว่างที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาบริหารประเทศนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า หลังจากที่ ครม.เข้ารับหน้าที่โดยสมบูรณ์ คสช.จะเริ่มลดเพดานลงมาเป็นระดับองค์กรหนึ่ง ไม่ใช่ปฏิบัติหน้าที่เหมือนรัฐบาลมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น จะออกประกาศหรือคำสั่งอะไรไม่ได้อีก ยกเว้นใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกหรือจัดระเบียบภายใน คสช.เอง นอกเหนือจากนั้นทั้งหมดต้องผลักมาอยู่ที่รัฐบาล คสช.อยู่เพื่อทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ 1.ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาล หรือรัฐบาลขอความเห็นไป และ 2.ดูแลเรื่องความมั่นคง ส่วนกรณีจะเรียกบุคคลมารายงานตัวต้องทำตามกฎอัยการศึกเท่านั้น

รองนายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ คสช.แต่งตั้งก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แจ้งว่า เมื่อมีรัฐบาลแล้วจะมีการรื้อโครงสร้างใหม่เพื่อปรับให้เป็นโครงสร้างของฝ่ายบริหารแทน โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปในดูข้อกฎหมาย เช่น อะไรที่เขียนว่า หัวหน้า คสช.เป็นประธาน และรองหัวหน้า คสช.เป็นรองประธาน ให้ปรับมาเป็นนายกฯเป็นประธาน และรองนายกฯเป็นรองประธานแทน ส่วนกรณีซุปเปอร์บอร์ดเป็นการตั้งโดยไม่ได้อาศัยกฎหมายตัวใด แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจตรางาน หากให้ยังคงอยู่ก็สามารถอยู่ต่อได้

“บิ๊กตู่” นำ ครม.กราบสมเด็จวัดปากน้ำ

ด้าน นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วย ครม.ทั้งคณะ จะเดินทางไปนมัสการสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปฺญโญ) ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้ามาทำงานบริหารประเทศ

ทั้งนี้รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ในเวลา 11.30 น. วันที่ 10 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เชิญคณะรัฐมนตรีทั้งหมดมาร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่เวลา 13.00 น. จะเชิญ ครม.ทั้งหมดร่วมขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางไปยังพุทธมณฑล เพื่อกราบนมัสการ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ในเวลา 14.00 น.

คาด“ไก่อู-วีระชน-กุลชาติ-ยงยุทธ”ทีมโฆษก

ขณะที่ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ไม่เป็นทางการวันนี้ ได้เห็นชอบให้ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประสานรัฐบาลกับ สนช.

รายงานข่าวจาก คสช.แจ้งว่า สำหรับการแต่งตั้งทีมโฆษกรัฐบาลนั้น คาดว่าจะมีการแต่งตั้ง 4 คนด้วยกันได้แก่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ผู้ชำนาญการกองทัพบก พ.อ.วีรชน สุคนธปฎิภาค ผู้ชำนาญการกองทัพบก และทีมโฆษก คสช. พ.อ.ม.ล.กุลชาติ ดิศกุล รองเลขานุการกองทัพบก และ นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. และอาจมีการเพิ่มบุคคลเข้ามาร่วมในทีม เพื่อความรอบด้านในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมวันนี้ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ คงต้องรอการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า

“มาร์ค”เตือน รบ.คสช.เสี่ยงทุจริต

ทางด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการบริหารราชการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ว่า เป็นรัฐบาลที่ค่อนข้างมีอำนาจเบ็ดเสร็จ สามารถทำอะไรได้รวดเร็ว ส่วนกลไกการตรวจสอบ แม้จะยังมีอยู่ ทั้งองค์กรอิสระ หรือรัฐสภา ซึ่งข้อได้เปรียบที่อาจเห็นได้ชัดคือ การออกกฎหมาย จะมีมากกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องยอมรับว่า กระบวนการตรวจสอบจะไม่เข้มข้นเท่ายุคที่เป็นประชาธิปไตย เช่น กลไกการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือนโยบายที่ผิดพลาดอาจจะไม่เข้มแข็ง ซึ่งเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้บริหารว่า จะมีวิธีการที่จะทำให้การตรวจสอบดำเนินการไปได้ ซึ่งหากผู้ปฏิบัติ ไม่ได้ติดอยู่กับวงจรของธุรกิจการเมือง เรื่องนี้จะมีการดำเนินการได้อย่างเด็ดขาด แต่เมื่อใดที่การตรวจสอบหายไป ความเสี่ยงในเรื่องการทุจริต ก็จะมีมากขึ้น

“เราเปลี่ยนจากระยะที่ 1 มาสู่ระยะที่ 2 สุดท้ายไปจบลงเข้าสู่ระยะที่ 3 ก็คือเมื่อมีรัฐธรรมนูญถาวร เมื่อมีการเปิดให้มีการเลือกตั้งกันอีก วันนั้นสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ดีขึ้นหรือไม่ ตัวนี้จะเป็นตัววัดความสำเร็จของสิ่งที่ท่านกำลังพูดกับประชาชน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

“โอ๊ค”ตีปิ๊บการ์ตูนประวัติ“แม้ว”

รายงานข่าวแจ้งว่า อินสตาแกรม @oak_ptt และเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra ของ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหลบหนีคดีที่ดินรัชดา ได้โพสต์ข้อความตั้งแต่เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) ระบุว่า "อีก 3 วันเค้าจะกลับมา" และวันนี้ยังได้โพสต์ข้อความล่าสุด "อีก 2 วัน ทุกคนจะหายคิดถึง" พร้อมกับที่อยู่เว็บไซต์ยูทิวบ์ ระบุว่า www.youtube.com/thaksinstory

เมื่อเข้าไปยังยูทิวบ์ดังกล่าว พบว่าชื่อผู้ใช้เป็น Tadoodao Animation (ตาดูดาว อนิเมชั่น) โดยได้โพสต์วีดีโอคลิป (Official MV) ตาดูดาว เท้าติดดิน ซึ่งเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นชีวประวัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน โดยจะออกเผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 11 ก.ย. นี้ แต่ไม่ระบุว่าจะเผยแพร่ผ่านช่องทางใด
กำลังโหลดความคิดเห็น