xs
xsm
sm
md
lg

“องอาจ” ยันเปลี่ยนข้อเท็จจริงคดีไม่ได้ แม้ป่วนใต้-บนดิน ขอ “ปู” หนุนแผน “มาร์ค”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
รอง หน.ปชป. ห่วง พ.ค. เดือด เหตุมีการตัดสินคดีสำคัญ มีชุมนุมใหญ่ 2 กลุ่ม ไร้หลักประกันไม่รุนแรง จี้หน้าที่รัฐ ศอ.รส. ดูแลความสงบ ชี้มีดิ้นเดินเกมบน-ใต้ดิน ป้ายสี บิดเบือนคดี ปล่อยข่าวกระทบสถาบัน ใช้ความรุนแรงกดดัน เชื่อเปลี่ยนข้อเท็จจริงไม่ได้ ยันแผน หน.ปชป. อ่านละเอียดช่วยหาคำตอบชาติ มีจุดดี 5 ประการ ไม่เอื้อใคร ขอ นายกฯสละเก้าอี้ตามแผน เพื่อทางออก



วันนี้ (4 พ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์การเมืองใน เดือนพฤษภาคมว่า จะเป็นเดือนพฤษภาเดือด เพราะจะมีการพิจารณาคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มมวลชนที่จะเคลื่อนไหวทั้งที่สนับสนุนและต่อต้านรัฐบาล การนัดชุมนุมของมวลชนสองฝ่ายเกิดใน กทม. แม้ว่าจะออกมายืนยันว่าจะชุมนุมโดยสงบไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เผชิญหน้า แต่ไม่มีหลักประกันว่าจะมีการก่อให้เกิดเหตุรุนแรงหรือไม่ จึงถือว่าเป็นสถานการณ์เดือดของประเทศไทยที่อาจก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนำไปสู่การแก้ปัญหาหรืออาจเป็นสถานการณ์ที่นำไปสู่การเพิ่มวิกฤตประเทศมากขึ้น คณะบุคคลที่มีส่วนช่วยแก้วิกฤตคือผู้ที่รับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง คือ รัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมถึง ศอ.รส. ที่เป็นหน่วยงานรักษาความสงบ จึงหวังว่านายกฯ รัฐบาล และ ศอ.รส. จะเป็นกลไกสำคัญของบ้านเมืองช่วยกันรักษาบรรยากาศของประเทศไม่ให้เข้าสู่บรรยากาศที่จะก่อให้เกิดวิกฤตในบ้านเมือง

นายองอาจ ยังกล่าวว่า ยิ่งใกล้เวลาตัดสินคดีมากเท่าไหร่ ก็มีการเคลื่อนไหวหลากหลายรูปแบบในบ้านเมือง โดยสองส่วนที่สำคัญคือ เดินเกมบนดินและใต้ดิน เกมบนดินแรกคือ แกนนำรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ให้ร้ายป้ายสี ดิสเครดิต ศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช. อย่างต่อเนื่อง 2 บิดเบือนข้อเท็จจริงของคดี พูดขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว สร้างความสับสนให้สังคม 3 ข่มขู่ศาลรัฐธธรรมนูญ และ ป.ป.ช. อย่างเปิดเผย ส่วนเกมใต้ดินก็มีอย่างต่อเนื่อง คือ 1. การปล่อยข่าวโจมตีผ่านโซเชียลมีเดียให้กระทบถึงสถาบันซึ่งยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน 2. มีบุคคลไม่ทราบฝ่ายใช้ความรุนแรง คุกคามกดดันด้วยอาวุธสงครามต่อองค์กรที่กำลังพิจารณาคดีความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยกลไกรัฐไม่ดำเนินการใดๆ 3. มีการอาฆาตมาดร้ายต่อองค์กรอิสระในทางลับรวมทั้งองค์กรศาลแต่ไม่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งนี้เกมบนดินและใต้ดินที่ดำเนินการอยู่นั้นหวังที่จะให้ผลการพิจารณาคดีแปรเปลี่ยนจากหลักนิติรัฐและนิติธรรม แต่เชื่อมั่นว่าเกมบนดินและใต้ดินที่ดำเนินการอยู่นั้นไม่สามารถเปลี่ยนข้อเท็จจริง หลักกฎหมายในการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญได้

นายองอาจ ยังกล่าวถึงแผนเดินหน้าประเทศไทยปฏิรูปภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า หลังจากมีการเผยแพร่ต่อสาธารณชนมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องปกติ ตนเชื่อว่าหลายคนที่วิจารณ์ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดในแผนนี้อย่างชัดเจน จึงมีคำถามและข้อสงสัย มีความไม่เห็นด้วยหรือเห็นด้วยในบางส่วน แต่เชื่อว่าหากได้อ่านอย่างละเอียดจะเห็นได้ว่าเป็นแผนที่ช่วยหาคำตอบให้ประเทศไทยในวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์ พยายามเสนอทางเลือกให้กับประเทศและสังคมไทยได้ช่วยกันพิจารณา เพื่อประโยชน์ชาติไม่ใช่ประโยชน์ของนายอภิสิทธิ์ หรือประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งไม่ใช่การหาทางลงให้ กปปส. อีกทั้งไม่ได้ต้องการทำลายล้างรัฐบาล หรือพรรครัฐบาล แต่เสนอเพื่อประโยชน์ประเทศและสังคมไทยโดยรวม จึงหวังว่าคนที่จะวิจารณ์แสดงความเห็นใดก็ตาม อยากให้ศึกษารายละเอียดของแผนดังกล่าวก่อนจะมีความเข้าใจถึงความจริงใจและจริงจังของนายอภิสิทธิ์ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการหาคำตอบให้ประเทศด้วยเจตนาดี เพราะถ้าแผนนี้เดินหน้าได้จะมีจุดดี 5 ประการ เกิดในสังคมไทย คือ

1. จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่จะนำไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นนองเลือด บาดเจ็บล้มตายของผู้บริสุทธิ์ 2. มีส่วนในการระงับยับยั้งเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร 3. ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากความขัดแย้งทางการเมือง 4. เปิดโอกาสให้องค์กรอิสระและศาลทำหน้าที่โดยไร้แรงกดดันจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด 5. ป้องกันการฉีกรัฐธรรมนูญทุกรูปแบบ เพราะเป็นการปฏิรูปภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม กุญแจสำคัญที่จะเปิดประตูไปสู่ทางออกจากวิกฤต คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องสละอำนาจภายในเวลาสั้นๆ ประมาณ 5-6 เดือน เพื่อดำเนินการตามแผนนี้ ถ้าสละอำนาจก็จะเป็นส่วนสำคัญทำให้แผนเดินหน้าประเทศเดินหน้าต่อได้ ดังนั้น การแก้ไขวิกฤตบ้านเมืองกำลังเดินเข้าสู่มือของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าจะหยิบกุญแจที่นายอภิสิทธิ์เสนอมาไขเปิดประตูหาทางออกและคำตอบให้ประเทศไทยหรือไม่ คนอื่นในรัฐบาลจะวิจารณ์อย่างไรเราเคารพ แต่คนที่ต้องตัดสินใจคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งตนเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทราบปัญหาของประเทศ จะปล่อยให้ปัญหาดำรงอยู่ต่อไปจนเกิดวิกฤตมากขึ้นทำไม ทำไมไม่ช่วยหาคำตอบให้ประเทศไทย จึงหวังว่าในช่วงวันหยุดนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ จะพิจารณามีส่วนร่วมกับนายอภิสิทธิ์ในการหาคำตอบและทางออกให้ประเทศไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น