“สุริยะใส” ตอก รัฐ พท. หางโผล่หนุนคุกคาม ป.ป.ช.- ศาล รธน. ทั้งบนดินใต้ดิน ยิ่งใกล้ชี้ชะตา ครม. แถมแนวคิดนายกฯ ม.7 ไม่ได้แค่ขู่ยังกดดันพระราชอำนาจ ชี้รู้ชะตาไม่รอดความผิดที่ก่อ จึงสวมบทอันธพาล ฉะ ลุ่อำนาจจนสร้างวิกฤต ย้ำชัดผิด ม.68 เล็งรวมข้อมูลชงศาล รธน. ฟัน
วันนี้ (20 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนและกรรมการคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) แสดงความเห็นถึงขบวนการต่อต้านคุกคามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญในขณะนี้ชัดเจนว่ารัฐบาลรักษาการ และพรรคเพื่อไทยเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง แม้ที่ผ่านมาจะพยายามบ่ายเบี่ยง อ้างว่าไม่เกี่ยวข้องก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์ยิ่งใกล้วันพิพากษามากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งเปลือยตัวตนชัดเจนของรัฐบาลรักษาการ และพรรคเพื่อไทย ที่พยายามทุกวิถีทางทั้งใต้ดินบนดินเพื่อคุกคามกดดัน ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะแนวคิดเสนอนายกฯ พระราชทาน มาตรา 7 ของนายเกษม นิติศิริ รักษาการรัฐมนตรียุติธรรม และแถลงการณ์ของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) ล่าสุด ที่นอกจากข่มขู่องค์กรอิสระแล้ว ยังพยายามกดดันพระราชอำนาจโดยตรง
นายสุริยะใส ระบุต่อว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยคงรู้ชะตากรรมตัวเองล่วงหน้าแล้ว ทั้งกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและกรณีโยกย้ายตำแหน่งเลขาฯสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ของนายถวิล เปลี่ยนศรี ทั้ง 2 กรณีรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงได้ และจำนนต่อหลักฐานความผิด ยากที่จะรอดพ้นจากความผิดที่ได้กระทำไว้ จึงใช้วิธีอันธพาล เล่นบทถนัดเตะตัดขาองค์กรอิสระไปเลย ฉะนั้นรัฐบาลรักษาการและพรรคเพื่อไทยจะปฏิเสธความรับผิดชอบวิกฤตการเมืองในขณะนี้ไม่ได้ เพราะมีเจตนาวางอำนาจบริหารเหนือรัฐธรรมนูญ และเหนือกระบวนการตรวจสอบมาตลอดจนทำลายสมดุลอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย สร้างวิกฤตเรื้อรังมาจนปัจจุบัน
นายสุริยะใส ระบุอีกว่า พฤติการณ์แบบนี้ยืนยันชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยเข้าข่ายกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เป็นการล้มล้างการปกครอง เข้าข่ายกระทำการได้มาซึ่งอำนาจที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญ โดยในเรื่องนี้กลุ่มกรีนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทยและตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคต่อไป