นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า นับแต่คดีความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าสู่การพิจารณาของทั้ง 2 องค์กร ยิ่งใกล้เวลาตัดสินคดีความ ก็ได้เห็นการเคลื่อนไหวทั้งเกมบนดิน และใต้ดิน ซึ่งเกมบนดินก็พบว่ามีแกนนำในรัฐบาลออกมาให้ร้ายป้ายสี ดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช.ตลอดมา และยังมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง จากขาวเป็นดำ สร้างความสับสนให้กับสังคมหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งการข่มขู่ทั้ง 2 องค์กรอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาล
ส่วนเกมใต้ดิน เห็นว่ามีการปล่อยข่าวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช.ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียหลากหลายรูปแบบ ซึ่งพยายามให้กระทบสถาบัน โดยยังดำเนินอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และมีบุคคลไม่ทราบฝ่ายใช้ความรุนแรงคุมคามด้วยอาวุธสงครามนานาชนิดต่อองค์กรต่างๆ ที่กำลังพิจารณาคดีความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งไม่มีกลไกของรัฐเอาจริงเอาจังในการระงับยับยั้ง เอาคนผิดมาลงโทษ รวมทั้งยังมีการอาฆาตมาดร้ายโดยตรงในทางลับต่อองค์กรอิสระ และศาล ซึ่งไม่ได้ปรากฏเป็นข่าวสาธารณะแต่อย่างใด
นายองอาจ กล่าวรว่า ทั้งเกมบนดินและใต้ดินดังกล่าว ล้วนเป็นกระบวนการให้การพิจารณาคดีแปรเปลี่ยนไปจากหลักนิติรัฐ นิติธรรม อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่าเกมที่พยายามดำเนินการอยู่ขณะนี้ไม่ว่าจะใคร ทั้งในเชิงบุคคล หรือคณะบุคคล คงไม่สามารถแปรเปลี่ยนข้อเท็จจริง และหลักกฎหมายในการพิจารณาคดีความต่างๆ ของ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 องค์กรที่ถูกจัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ จะเป็นองค์กรที่ช่วยผดุงความยุติธรรม ตรวจสอบถ่วงดุล การใช้อำนาจรัฐของผู้มีอำนาจได้ รวมทั้งเชื่อมั่นว่าทั้ง 2 องค์กรยังเป็นที่พึ่งให้กับสังคมได้
ส่วนเกมใต้ดิน เห็นว่ามีการปล่อยข่าวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช.ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียหลากหลายรูปแบบ ซึ่งพยายามให้กระทบสถาบัน โดยยังดำเนินอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และมีบุคคลไม่ทราบฝ่ายใช้ความรุนแรงคุมคามด้วยอาวุธสงครามนานาชนิดต่อองค์กรต่างๆ ที่กำลังพิจารณาคดีความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งไม่มีกลไกของรัฐเอาจริงเอาจังในการระงับยับยั้ง เอาคนผิดมาลงโทษ รวมทั้งยังมีการอาฆาตมาดร้ายโดยตรงในทางลับต่อองค์กรอิสระ และศาล ซึ่งไม่ได้ปรากฏเป็นข่าวสาธารณะแต่อย่างใด
นายองอาจ กล่าวรว่า ทั้งเกมบนดินและใต้ดินดังกล่าว ล้วนเป็นกระบวนการให้การพิจารณาคดีแปรเปลี่ยนไปจากหลักนิติรัฐ นิติธรรม อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่าเกมที่พยายามดำเนินการอยู่ขณะนี้ไม่ว่าจะใคร ทั้งในเชิงบุคคล หรือคณะบุคคล คงไม่สามารถแปรเปลี่ยนข้อเท็จจริง และหลักกฎหมายในการพิจารณาคดีความต่างๆ ของ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 องค์กรที่ถูกจัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ จะเป็นองค์กรที่ช่วยผดุงความยุติธรรม ตรวจสอบถ่วงดุล การใช้อำนาจรัฐของผู้มีอำนาจได้ รวมทั้งเชื่อมั่นว่าทั้ง 2 องค์กรยังเป็นที่พึ่งให้กับสังคมได้