รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จี้ยิ่งลักษณ์แสดงความรับผิดชอบลาออกตามนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ชี้ทำให้เรือประเทศไทยล่มติดหล่มมานานแต่ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ ชี้ทำให้เรือประเทศไทยล่มโดยมีรูรั่วทั้งออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดคนโกงและทุจริตเชิงนโยบายในโครงการรับจำนำข้าว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายชอง ฮง วอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีเหตุเรือเฟอรี่ล่ม ว่า เป็นอุทธาหรณ์สอนใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้เรือประเทศไทยล่มติดหล่มมานานพอสมควรแต่นายกไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ กับการที่ทำให้รัฐนาวาประเทศไทยล่มแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่มีส่วนทำให้เรือประเทศไทยล่มโดยมีรูรั่วหลายกรณี 1 พยายามให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดคนโกง ฆ่าเผา เป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาชาติ ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะร่วมผลักดันให้มีการออกกฎหมายที่ขัดต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรม 2 การทุจริตเชิงนโยบายโดยเฉพาะการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกกล่าวหาอยู่ใน ป.ป.ช.ด้วย เนื่องจากปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตไม่ฟังเสียงท้วงติงจากทั้งฝ่ายค้าน นักวิชาการ และ ป.ป.ช. อีกทั้งไม่เคยแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด 3 การใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการบริหารราชการแผ่นดิน
“หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองมาตั้งแต่ต้น คงไม่เกิดวิกฤตรุนแรงขนาดนี้ แต่วันนี้ยังไม่สายเกินไปถ้านายกจะเอาแบบอย่างนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ก็อาจมีส่วนช่วยให้ปัญหาทุเลาเบาบางลงได้ จึงฝากให้พิจารณาการดำรงตำแหน่งของตัวเองโดยนำกรณีนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้มาเป็นอุทธาหรณ์”
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเคลื่อนไหว เป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกให้กับประเทศไทย ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า นายอภิสิทธิ์มีความจริงใจและจริงจังที่อยากเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา และหาคำตอบให้กับประเทศโดยไม่มีเจตนาเหมือนที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พยายามกระแนะกระแหนว่า ดัดจริต เพราะความเห็นของทั้งนายนพดล และพรรคเพื่อไทยที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของนายอภิสิทธิ์นั้น แม้เป็นสิทธิ์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยหาทางออกให้กับบ้านเมืองจึงไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อชาติ
ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามสามารถแสดงตนออกมาเพื่อร่วมแสวงหาทางออกแก้ปัญหาและหาคำตอบให้ประเทศไทยเป็นเรื่องควรรับฟังด้วยจิตใจที่เปิดกว้างว่ามีอะไรทีเป็นไปได้จะได้ร่วมมือร่วมใจเดินหน้าดีกว่าปล่อยให้ทุกอย่างเดินหน้าโดยไม่มีความพยายามใด ๆ ที่จะหาทางออกร่วมกัน
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ เคารพจุดยืนหรือความเห็นของทุกฝ่ายที่แสดงออกในบ้านเมือง แต่เราหวังว่า ทุกฝ่ายจะเคารพในจุดยืน ความคิดเห็นหรือการดำเนินการของนายอภิสิทธิ์ ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการหาคำตอบให้ประเทศ หากทุกฝ่ายยึดประโยชน์ส่วนรวมไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตนหรือครอบครัว ตนเชื่อว่าทุกปัญหามีทางออกและประเทศนี้จะมีคำตอบเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นการนัดหมายกับภาคส่วนต่าง ๆ ของนายอภิสิทธิ์ในสัปดาห์หน้าจะเดินหน้าต่อไปเพื่อทำตามความมุ่งหวังที่จะช่วยแก้ปัญหาบ้านเมือง และคิดว่าไม่น่าจะมีอุปสรรคใด ๆ แม้จะมีเสียงวิจารณ์ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่อยากให้อยู่บนพื้นฐานความเข้าใจนายอภิสิทธิ์ที่พยายามช่วยหาคำตอบให้ประเทศโดยไม่มีอะไรแอบแฝงทำผิดเป็นถูกใด ๆ ทั้งสิ้น.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายชอง ฮง วอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีเหตุเรือเฟอรี่ล่ม ว่า เป็นอุทธาหรณ์สอนใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้เรือประเทศไทยล่มติดหล่มมานานพอสมควรแต่นายกไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ กับการที่ทำให้รัฐนาวาประเทศไทยล่มแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่มีส่วนทำให้เรือประเทศไทยล่มโดยมีรูรั่วหลายกรณี 1 พยายามให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดคนโกง ฆ่าเผา เป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาชาติ ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะร่วมผลักดันให้มีการออกกฎหมายที่ขัดต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรม 2 การทุจริตเชิงนโยบายโดยเฉพาะการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกกล่าวหาอยู่ใน ป.ป.ช.ด้วย เนื่องจากปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตไม่ฟังเสียงท้วงติงจากทั้งฝ่ายค้าน นักวิชาการ และ ป.ป.ช. อีกทั้งไม่เคยแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด 3 การใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการบริหารราชการแผ่นดิน
“หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองมาตั้งแต่ต้น คงไม่เกิดวิกฤตรุนแรงขนาดนี้ แต่วันนี้ยังไม่สายเกินไปถ้านายกจะเอาแบบอย่างนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ก็อาจมีส่วนช่วยให้ปัญหาทุเลาเบาบางลงได้ จึงฝากให้พิจารณาการดำรงตำแหน่งของตัวเองโดยนำกรณีนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้มาเป็นอุทธาหรณ์”
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเคลื่อนไหว เป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกให้กับประเทศไทย ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า นายอภิสิทธิ์มีความจริงใจและจริงจังที่อยากเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา และหาคำตอบให้กับประเทศโดยไม่มีเจตนาเหมือนที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พยายามกระแนะกระแหนว่า ดัดจริต เพราะความเห็นของทั้งนายนพดล และพรรคเพื่อไทยที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของนายอภิสิทธิ์นั้น แม้เป็นสิทธิ์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยหาทางออกให้กับบ้านเมืองจึงไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อชาติ
ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามสามารถแสดงตนออกมาเพื่อร่วมแสวงหาทางออกแก้ปัญหาและหาคำตอบให้ประเทศไทยเป็นเรื่องควรรับฟังด้วยจิตใจที่เปิดกว้างว่ามีอะไรทีเป็นไปได้จะได้ร่วมมือร่วมใจเดินหน้าดีกว่าปล่อยให้ทุกอย่างเดินหน้าโดยไม่มีความพยายามใด ๆ ที่จะหาทางออกร่วมกัน
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ เคารพจุดยืนหรือความเห็นของทุกฝ่ายที่แสดงออกในบ้านเมือง แต่เราหวังว่า ทุกฝ่ายจะเคารพในจุดยืน ความคิดเห็นหรือการดำเนินการของนายอภิสิทธิ์ ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการหาคำตอบให้ประเทศ หากทุกฝ่ายยึดประโยชน์ส่วนรวมไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตนหรือครอบครัว ตนเชื่อว่าทุกปัญหามีทางออกและประเทศนี้จะมีคำตอบเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นการนัดหมายกับภาคส่วนต่าง ๆ ของนายอภิสิทธิ์ในสัปดาห์หน้าจะเดินหน้าต่อไปเพื่อทำตามความมุ่งหวังที่จะช่วยแก้ปัญหาบ้านเมือง และคิดว่าไม่น่าจะมีอุปสรรคใด ๆ แม้จะมีเสียงวิจารณ์ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่อยากให้อยู่บนพื้นฐานความเข้าใจนายอภิสิทธิ์ที่พยายามช่วยหาคำตอบให้ประเทศโดยไม่มีอะไรแอบแฝงทำผิดเป็นถูกใด ๆ ทั้งสิ้น.