xs
xsm
sm
md
lg

เสวนาพลังงานใครปล้นไป โวยกลุ่มทุนปิดปาก “แดง-กปปส.” เปรียบ ปตท.สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดเสวนา “น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติของประชาชน ใครปล้นไป?” แกนนำ กคป.เผยนักการเมืองแทรกแซงพลังงานตั้งแต่ปี 40 มาถึงแปรรูป ปตท.หนำซ้ำตั้งกองทุนน้ำมันฉ้อฉล เสื้อแดงโวยถูกปกปิดจากกลุ่มทุนห้ามพูดเรื่องพลังงานทั้งสองสี เตือนเลิกโกหกว่าไทยไม่มีพลังงาน-น้ำมันดิบ นักวิชาการเปรียบ ปตท.สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถ.ราชดำเนิน คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ชมรมนักธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (SVN) เครือข่ายปฎิรูปพลังงานไทย จัดเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่อง “น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติของประชาชน ใครปล้นไป?” โดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวเปิดการเสวนา ว่า ตามที่ญาติวีรชนเคยแถลงการณ์ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้นี้ด้อยคุณภาพจึงเกิดปัญหาตามมาในขณะนี้ อยากบอก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ถึงจะมีอำนาจก็จะปกครองยาก พวกเราในฐานะผู้สูญเสียเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ อยากบอก พ.ต.ท.ทักษิณว่า อย่ายึดติดอะไร การคิดว่าดวงไม่ดีหรือมีเคราะห์ เราในประเพณีพุทธศาสนาไม่ต้องแก้กรรมแต่ให้แก้พฤติกรรม โดยการเสียสละ และอโหสิกรรม ที่ผ่านมาสังคมไทยสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณมามากมาย แต่การเสียสละเงิน 4.6 หมื่นล้านคิดว่าเป็นการคืนให้ประชาชน ถ้าไม่ยึดติดสังคมจะสงบลง อยากให้ทบทวนว่าประเทศไทยเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย ดังนั้นตาซ้ายกับตาขวาถึงอย่างไรก็หนีไปด้วยกันไม่ได้

นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนหัวข้อการเสวนาในวันนี้สรุปชัดๆ ว่าไม่ว่าจะเป็นก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน คือสมบัติของประชาชน แต่ปรากฏว่าวันดีคืนดีทุกรัฐบาลที่เข้าบริหารประเทศ หรือเปรียบเสมือนผู้จัดการมรดกของเรา ในการจัดสรรผลประโยชน์ แต่ผลประโยชน์ของประชาชนกลับหายไป และประชาชนต้องมาทนรับกับสิ่งที่เราต้องใช้เมื่อไปเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องมาดูว่าจากหัวข้อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติของประชาชน ใครปล้นไปกันแน่

จากนั้นเริ่มการเสวนาหัวข้อ “น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติของประชาชน ใครปล้นไป?” โดยมีนายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา แกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฎิรูปพลังงานไทย (กคป.) นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการอิสระ นายสุรวิทย์ เสรีชน แกนนำแดงปฏิวัติพลังงานไทย และนายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตกรรมการปฏิรูปประเทศ เป็นคณะผู้บรรยาย

นายอิฐบูรณ์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นอยู่ในกิจการปิโตรเลียมของประเทศไทยต้องใช้คำว่าเป็นแปลงปิโตรเลียมในการให้สิทธิในการสำรวจทั้งบนบกและในทะเล ซึ่งระบบสัมปทานอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 เป็นลักษณะการประมูลโดยใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการปิโตรเลียม ซึ่งเป็นกิจการภายในของกระทรวงพลังงาน ซึ่งพบว่าการเผยแพร่ข้อมูลที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2554 ประเทศไทยมีสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมด 63 สัมปทาน 79 แปลงสำรวจ พื้นที่รวม 225,893 ตร.กม.หรือคิดเป็น 44 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ประเทศไทย จากผู้รับสัมปทาน 30 บริษัท โดยปริมาณการผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยปี 2555 ทั้งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ และคอนเดนเสท (ก๊าซธรรมชาติเหลว) รวม 986,000 บาร์เรลต่อวัน แต่กระทรวงพลังงานแจ้งว่า มีแค่ 801,300 บาร์เรลต่อวัน จึงอยากถามจำนวนปิโตรเลียมที่เหลือหายไปไหน ซึ่งประเทศไทยสามารถผลิตน้ำมันส่งออกได้จำนวนมาก แต่คนไทยไม่ค่อยทราบกัน

นายอิฐบูรณ์ กล่าวต่อว่า ในสัดส่วนปริมาณและมูลค่าการขายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งผลิตปิโตรเลียมของประเทศไทยเมื่อเดือน ต.ค. 2556 กลุ่มเชฟรอนมีสัดส่วนถึง 56 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกลุ่ม ปตท.สผ.อยู่ที่ 42 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มเฮสส์ (ไทยแลนด์) 2 เปอร์เซ็นต์ โดยสิ่งที่นักการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวตั้งแต่ปี 2540 โดยเฉพาะตั้งแต่พรรคไทยรักไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล 9 ก.พ. 2544 ถึง 19 ก.ย. 2549 เมื่อรัฐบาลไทยรักไทยเข้ามาในเดือน ต.ค. 2544 ก็แปรรูป ปตท.ให้มีการถือหุ้นได้ 49 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นตั้งกระทรวงพลังงาน เพื่อกำกับดูแลกิจการปิโตรเลียม น้ำมัน ก๊าซเอ็นจีวี และก๊าซแอลพีจี ที่สำคัญปี 2547 มีการตั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยการย้ายกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากกระทรวงการคลังไปอยู่กับกระทรวงพลังงาน เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน และเป็นผู้กำหนดราคาน้ำมัน สามารถกำหนดอัตราเรียกเก็บและชดเชยเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ ซึ่งเป็นการฉ้อฉลคนไทยไปแล้ว

นายสุรวิทย์ กล่าวว่า หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าการเมืองรับใช้เศรษฐกิจ สูงสุดคือการชิงผลประโยชน์กัน ซึ่งการเป็นคนเสื้อแดงของตนมาจากจิตสำนึกรักความเป็นธรรม ยึดทรัพย์รับไม่ได้ ยุบพรรครับไม่ได้ และรัฐประหารรับไม่ได้ ก็เหมือนคนเสื้อเหลืองที่รับการทุจริตไม่ได้ ส่วนที่ตนมาสนใจ ปตท.นั้น เพราะเป็นการปล้นชิงขูดรีดประชาชนเป็นจำนวนมากมาหลายสิบปี ซึ่งการต่อสู้ทั้งหมดมี 3 กลุ่มจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมหรือ กปปส. กลุ่มปฏิรูปหรือกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มประชาชน ที่ถูก 2 กลุ่มแรกกดขี่ขูดรีดอยู่ แต่กลุ่มทุนผูดขาดพลังงานคือศัตรูของคนไทยอย่างแท้จริง มีการปกปิดจากกลุ่มทุนพลังงาน มีการบิดเบือนว่าเป็นเรื่องสีเสื้อเท่านั้น ซึ่งเวทีเสื้อแดงที่ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หรือของเวที กปปส.นั้น สปอนเซอร์กลุ่มใหญ่คือกลุ่มพลังงาน กลุ่มพลังงานจะเชียร์ใครก็ได้ แต่ประชาชนห้ามมาแย่งคืน ขอกอบโกยอยู่ฝ่ายเดียว และกีดกันประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทุกขั้นตอน

“ปล้นชิงยังไม่พอ ยังขูดรีดขายน้ำมันให้ประชาชนแพงอีก กองทุนน้ำมันเชื่อเพลิงก็เป็นจุดพักกำไรของกลุ่มทุนเหล่านี้ ขุมสมบัติในประเทศไทยจะทำให้ประเทศนี้ควรจะมีแต่ความร่ำรวย แต่กลับถูกคนไม่กี่คนปล้นชิงไปเท่านั้น จึงอยากให้เลิกโกหกว่าประเทศนี้ไม่มีพลังงาน หรือไม่มีน้ำมันดิบ ซึ่ง 15 มี.ค. 2555 ประเทศไทยมีแท่นขุดเจาะในอ่าวไทย 334 แท่น จะเรียกว่าประเทศไทยไม่มีพลังงานได้หรือไม่” นายสุรวิทย์ กล่าว

ขณะที่ นายคมสัน กล่าวว่า ราคาน้ำมันของบ้านเราถือว่าแพงมาก หากไปตรวจสอบก็พบว่ามีค่าภาษีโดยรวมสูงเกือบ 30-40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนก็เคยไปถามคนๆ หนึ่งว่าทำไมน้ำมันบ้านเราต้องใช้ราคาอ้างอิงจากประเทศสิงคโปร์ ก็มีการตอบกลับมาว่าเพราะไม่มีราคาอ้างอิงที่ไหน แต่ตนก็ถามว่าเมื่อเรามีโรงกลั่นน้ำมัน ทำไมต้องใช้ราคาอ้างอิงจากประเทศสิงคโปร์ คำถามก็จะวนเวียนอยู่แบบนี้ เพราะไม่มีใครอยากตอบได้ นอกจากนี้ ปัญหาสำคัญจากเงินที่เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น เพราะภายหลังแปรรูป ปตท. ก็มีการปล่อยน้ำมันให้ลอยตัว และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ไม่สามารถรักษาระดับราคาน้ำมันได้ เป็นการเก็บเงินในลักษณะเดียวกันกับภาษี ไม่มีกฎหมายใดๆ รองรับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

“องค์กร ปตท.เป็นประเภทสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เหมือนจระเข้ที่กินทุกอย่าง วันดีคืนดีบอกเป็นองค์กรรัฐ วันดีคืนดีบอกเป็นองค์กรเอกชน วันดีคืนดีบอกผู้ถือหุ้นว่าเราเป็นเอกชน พอจะเสียผลประโยชน์ก็มาบอกว่าเป็นองค์กรรัฐ จึงอยากให้ประชาชนนมาใส่ใจเรื่องนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม” นายคมสัน กล่าว

ด้าน นายณรงค์ กล่าวว่า ปัจจุบันทุนเป็นทุนต่อสังคม เศรษฐกิจ สังคมให้แก่โลก และสะสมความมั่งคั่งจากแรงงานผู้อื่น พลังงงานก็เป็นตัวอย่างการสะสมทุนของโลก ประเด็นอยู่ที่ว่าทำไมประชาชนยังหลงใหลพวกทุนเหล่านี้ และประชาชนจึงถูกให้ฆ่าฟันกันเอง ขณะที่ทุนไม่เคยล่มสลาย เพราะฉะนั้นระบบทุนนิยมของไทยเกิดขึ้นภายใต้การโอบอุ้มของเผด็จการ ทุนจึงเป็นการขับเคลื่อนผลประโยชน์ส่วนตนทั้งสิ้น









กำลังโหลดความคิดเห็น