“กิตติรัตน์” เตรียมหาข้อสรุปเอง หลัง กกต.ไม่ชี้ขาดกู้เงินจำนำข้าว อ้างกู้ 1.3 แสนล้านอยู่ในกรอบบริหารหนี้ที่ ครม.เดิมอนุมัติไว้ ไม่สร้างผลผูกพัน ครม.ชุดต่อไป ตาม ม.181 และจะออกเป็นพันธบัตร ไม่กู้จากสถาบันการเงินโดยตรง
ภายหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.มีคำวินิจฉัยเรื่องการกู้เงิน 1.3 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการจำนำข้าวว่า ไม่อยู่ในอำนาจของ กกต.ที่จะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ซึ่งอยู่ในดุลยพินิจรัฐบาลที่จะดำเนินการหรือไม่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่อ่านคำวินิจฉัยของ กกต.อย่างเป็นทางการ จึงไม่สามารถบอกได้ว่ารัฐบาลจะสามารถกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการรับจำนำข้าวได้หรือไม่ ดังนั้น กระทรวงการคลังขอกลับไปพิจารณาอย่างชัดเจนเพื่อหาข้อสรุปก่อนจะตัดสินใจว่าจะเดินหน้ากู้เงิน 1.3 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ หากพิจารณาแล้วพบว่า ไม่ขัดข้อกฎหมายตามที่ กกต.ระบุ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ที่ห้ามมิให้ ครม.และรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ภายหลังการยุบสภา การกระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงาน หรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อ ครม.ชุดต่อไป กระทรวงการคลังพร้อมจะเดินหน้ากู้เงินดังกล่าวทันที
เบื้องต้นเห็นว่าการกู้เงินจะไม่เป็นภาระผูกพันกับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหาร เนื่องจากการกู้เงินยังอยู่กรอบบริหารหนี้สาธารณะ ตามที่ ครม.อนุมัติกรอบการก่อหนี้มาก่อนหน้านี้
โดยการกู้เงินวงเงิน 1.3 แสนล้านบาทจะมาจากการออกพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งสามารถระดมทุนได้หลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องกู้เงินผ่านสถาบันการเงินโดยตรงเพียงอย่างเดียว ซึ่งยืนยันว่าสภาพคล่องในประเทศยังมีเพียงพอ ซึ่งจะพยายามทำให้เกษตรกรได้เงินโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม เพื่อความชัดเจนนายกิตติรัตน์ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการจำนำข้าวจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในเวลา 10.00 น.วันพรุ่งนี้