xs
xsm
sm
md
lg

อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ดักคอกู้โปะจำนำข้าว ชี้ “รบ.-กกต.” ตีมึนมีลุ้นโทษอาญา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา (แฟ้มภาพ)
“ชูชาติ ศรีแสง” ดักคอ รบ.วอนอ่าน รธน.มาตรา 181 ก่อนขอ กกต.อนุมัติกู้ 2.8 แสนล้านบาทกู้หน้าจำนำข้าว ยันไม่เข้ากรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตาม 181 (2) กกต.จึงไม่มีอำนาจอนุมัติ เตือนดึงดันได้สิทธิ์ลุ้นอาญามาตรา 157 ทั้ง รบ.และ กกต.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Chuchart Srisaeng ถึงกรณีรัฐบาลรักษาการจะขออนุมัติจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ในการกู้เงิน 280,000 ล้านบาท เพื่อเอาไปซื้อข้าวจากชาวนาตามโครงการรับจำนำข้าว ว่าถ้าเป็นความจริงก็เป็นการใช้เงิน 280,000 ล้านบาท เพื่อซื้อเสียงจากชาวนาทั่วประเทศ ใคร่ขอให้รัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง อ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ก่อนที่จะดำเนินการดังกล่าว

“รัฐธรรมนูญ มาตรา 181 บัญญัติว่า คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตําแหน่ง ต้องอยู่ในตําแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ แต่ในกรณีพ้นจากตําแหน่งตามมาตรา 180 (2) คืออายุสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงหรือมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ได้เท่าที่จําเป็น ภายใต้เงื่อนไขที่กําหนด ดังต่อไปนี้

(1) ฯลฯ
(2) ไม่กระทําการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน
(3) ไม่กระทําการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป
(4) ฯลฯ

การขอกู้เงินไม่ใช่เป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จึงไม่ใช่กรณีที่จะขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามมาตรา 181 (2)

แต่เป็นกรณีการกระทำอันมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป ตามมาตรา 181 (3) จึงเป็นกรณีที่รัฐบาลไม่สามารถกระทำได้ และคณะกรรมการการเลือกตั้งก็ไม่มีอำนาจที่ให้อนุมัติให้กระทำได้

ถ้ารัฐบาลขออนุมัติขอกู้เงิน 280,000 บาท ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง แล้วคณะกรรมการการเลือกตั้งอนุมัติให้รัฐบาลกู้เงิน และรัฐบาลไปกู้เงินจำนวนเงินดังกล่าว ทั้งรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง ก็มีโอกาสที่จะถูกดำเนินคดีฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้”


กำลังโหลดความคิดเห็น