xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” แจงบอยคอตเลือกตั้ง ขอหลอมเป็นหนึ่งกับมวลชนร่วมปฏิรูป-ล้างระบอบทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปชป.มีมติบอยคอตเลือกตั้ง 2 ก.พ. หวังกู้วิกฤตศรัทธาจากประชาชน หลังถูกระบอบทักษิณทำลาย “มาร์ค” เชื่อเลือกตั้ง 2 ก.พ.ไม่ชอบธรรม เหตุไม่ตอบโจทย์ประเทศ ประชาชนไม่ยอมรับ ประกาศจุดยืนขอหลอมรวมเป็นหนึ่งกับมวลชนร่วมปฏิรูปประเทศ พิสูจน์มีพรรคการเมืองที่เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ยอมรับเส้นทางที่เลือกยาวและยาก แต่พร้อมสะสมพลังปฏิรูปให้เข้มแข็ง ล้างระบอบทักษิณอย่างยั่งยืน ยันไม่ขวางเลือกตั้ง อัดปูเน่าไร้ความชอบธรรมเสนอสภาปฏิรูปหลังเลือกตั้ง เหตุทรยศต่อความไว้วางใจจาก ปปช. ท้าทุกพรรคที่หนุนเลือกตั้งประกาศชัดว่าต้องการต่ออายุระบอบทักษิณ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันนี้ (21 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค และอดีต ส.ส.ของพรรค แถลงหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคถึงเหตุผลที่พรรคมีมติไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557

โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรคและอดีต ส.ส.พรรคมีมติไม่ส่งผู้สมัครโดยเป็นข้อสรุปจากการพิจารณาและกระบวนการที่มีความรอบคอบ รวมทั้งการมีส่วนร่วมของสมาชิกอย่างแท้จริง โดยเลขาธิการพรรครายงานผลการสอบถามความคิดสาขาพรรคทั่วประเทศต่อการเลือกตั้งและแนวทางของพรรค และรองหัวหน้าภาคที่หารือกับอดีต ส.ส. เห็นตรงกันว่าพรรคไม่สมควรส่งผู้สมัคร เพราะพรรคเห็นว่าการเมืองของประเทศไทยอยู่ในภาวะที่ล้มเหลวมาเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 8-9 ปี สืบเนื่องจากระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะกระบวนการประชาธิปไตยถูกบิดเบือนโดยบุคคลบางกลุ่ม ทำให้วันนี้ประชาชนขาดความศรัทธาในระบบพรรคการเมืองและระบบการเลือกตั้ง หากสภาพดังกล่าวยังดำรงต่อไปหมายความว่าการเมืองไม่มีการเปลี่ยนแปลง บ้านเมืองไม่มีการปฏิรูปก็จะตกอยู่ในสภาพการเมืองล้มเหลว ความขัดแย้ง สุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรง ความสูญเสีย การทุจริตก็จะดำรงไปอย่างต่อเนื่อง

“พรรคต้องการหยุดภาวะการเมืองล้มเหลวนี้ พรรคจึงต้องหาทางออกที่แก้ปัญหาได้จริง เพราะประเทศไทยสูญเสียโอกาสมาอย่างต่อเนื่องทั้งการทุจริต นโยบายล้มเหลว ซึ่งเป็นการตัดโอกาสของประเทศที่จะพัฒนาให้ความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้น”

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคมองว่าสภาพการเมืองที่ล้มเหลวต่อเนื่องนี้เป็นปัญหาที่รัฐบาลชุดปัจจุบันที่ยังทำหน้าที่รักษาการเป็นผู้ที่ทำให้เกิดวิกฤต ทั้งๆ ที่มีโอกาสจะนำพาบ้านเมืองออกจากสภาพการเมืองล้มเหลวโดยอาศัยเสียงสนับสนุนจากประชาชนในขณะนั้นแก้ปัญหาประชาชน แต่รัลบาลยิ่งลักษณ์กลับใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง มีการผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมล้างความผิดให้คนทุจริตคอร์รัปชันที่ถูกศาลตัดสินแล้ว และยังพยายามแก้ไขกติกาสูงสุดของประเทศ บิดเบือนโครงสร้างอำนาจ ต่างตอบแทนกับสมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่ง หวังครองอำนาจตลอดไปและใช้อำนาจกอบโกยผลประโยชน์ให้ตัวเอง แม้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วก็ยังไม่ยอมรับอำนาจศาล โดยคิดหาหนทางที่จะบรรลุเป้าหมายในการแก้ปัญหาให้ตนเองและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง

พรรคได้ทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มความสามารถ จนชะลอยับยั้งความเสียหายได้หลายอย่าง ซึ่งหากไม่มีฝ่ายค้านที่เข้มแข็งบ้านเมืองจะเสียหายมาก เช่น กฎหมายนิรโทษกรรมอาจผ่านไปแล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. และการกู้เงินให้คนไทยเป็นหนี้ 50 ปีอาจจะผ่านไปแล้ว แต่วิกฤตศรัทธาที่รัฐบาลก่อขึ้นลุกลามไปเป็นวิกฤตศรัทธาพรรคการเมืองโดยรวม การเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่สามารถให้คำตอบหรือปฏิรูปประเทศให้หลุดพ้นวงจรนี้ และไม่อาจทำให้ประชาชนกลับมาศรัทธาระบบพรรคการเมืองและการเลือกตั้งได้

“แม้พรรคส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งก็ไม่อาจคลายวิกฤตศรัทธาได้ ซึ่งนับตั้งแต่มีการยุบสภาเป็นต้นมาได้ใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะกอบกู้ศรัทธาประชาชนให้มาสนับสนุนการเลือกตั้งและรัฐบาลหลังเลือกตั้งที่จะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ แต่เราพบความจริงว่าการลงสมัครเลือกตั้งเป็นการช่วงชิงอำนาจแบบเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนพยายามถึงขั้นที่จะพิสูจน์ว่าความรู้สึกของประชาชนใช้ไม่ได้กับพรรคประชาธิปัตย์ โดยอาสาว่าพรรคจะเป็นเครื่องมือในการปฏิรูปเพราะเชื่อว่าการต่อสู้กับระบอบทักษิณในขั้นสุดท้ายจะประสบความสำเร็จได้ไม่ผ่านกระบวนการประชามติก็ต้องผ่านการเลือกตั้ง แต่ขณะนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ ตนพยายามค้นหาบุคคลที่ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะปฏิรูปประเทศได้ โดยพรรคลงสมัครและให้บุคคลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวเป็นนายกฯ คัดเลือกรัฐมนตรีปฏิรูปประเทศได้อย่างอิสระ พรรคจะเป็นเพียงเสียงข้างมากในสภาสนับสนุนให้การปฏิรูปสำเร็จแล้วคืนอำนาจให้แก่ประชาชน แต่บุคคลที่ตนไปพูดคุยและความรู้สึกของประชาชนที่ตนไปสอบถามก็ยังยืนยันว่าไม่สามารถทำให้เกิดความเชื่อมั่นการปฏิรูปหลังการเลือกตั้งได้ แม้แต่ตัวแทนภาคธุรกิจยังเห็นว่าแม้จะมีสัตยาบันของพรรคการเมืองก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดความเชื่อถือจากประชาชน

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในฐานะพรรคการเมืองที่มีความเชื่อในการปฏิรูป ตนรู้สึกเสียใจเพราะการปฏิรูปหลายอย่างพรรคพยายามดำเนินการมาแล้วในช่วงที่มีอำนาจ เคยเสนอกฎหมายให้ความผิดทุจริตไม่มีอายุความ การปฏิรูประบบภาษีให้เก็บภาษีที่ดิน ทรัพย์สินและข้อเสนอจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศฯในอดีต แต่แม้ว่าพรรคจะทำงานสนับสนุนการปฏิรูปอย่างชัดเจน แต่ประชาชนก็ไม่เชื่อว่าพรรคจะทำให้เกิดการปฏิรูปได้ โดยมองว่าจะถูกขัดขวางโดยระบอบทักษิณ ทำให้ตกอยู่ในสภาพว่าพรรคจะลงสมัครหรือไม่ไม่สามารถตอบคำถามเรื่องความชอบธรรมของการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ เมื่อพรรคไม่ลงสมัครการเลือกตั้งจะชอบธรรมหรือไม่ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบ ถ้าประชาชน 70 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นไปตัดสินใจไปเลือกตั้งการเลือกตั้งก็ชอบธรรม แต่ถ้าพรรคลงสมัครโดยประชาชนไปใช้สิทธิไม่ลงคะแนนให้พรรคใดเป็นจำนวนมากการเลือกตั้งก็จะไม่ชอบธรรม เพราะประชาชนได้แสดงออกแล้วว่าจะไม่รับรองความชอบธรรมจากการเลือกตั้งครั้งนี้

“ถ้าผมลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเป็นผู้แทนราษฎร แต่ถามว่าถ้าผมมลงสมัครวันนี้ใครคือราษฎรที่ผมจะเป็นตัวแทนของเขา ราษฎรที่เชื่อในระบอบทักษิณเขามีตัวแทนอยู่แล้ว แต่ราษฎรที่ประสงค์จะเห็นการปฏิรูปวันนี้ถ้าลงเลือกตั้งเขาไม่มองว่าผมเป็นตัวแทนของเขา มองว่าเป็นส่วนหนึ่งในการต่ออายุให้การเมืองที่ล้มเหลว เราจึงตัดสินใจเดินเข้าสู่การเป็นพรรคการเมืองเคียงคู่กับการปฏิรูปประเทศ โดยไม่ขัดขวางการเลือกตั้ง ไม่มีจุดยืนสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนอกรัฐธรรมนูญแต่พรรคพร้อมที่จะบอกว่าเส้นทางปฏิรูปประเทศพรรคจะทำงานกับประชาชนตามขั้นตอนคือ ให้ข้อเท็จจริงระดมสมองว่าประเทศต้องปฏิรูปอย่างไร จากนั้นขัดเกลาเป็นนโยบายเพื่อให้ประชาชนใช้พรรคเป็นเครื่องมือเป็นตัวแทนในการปฏิรูปอย่างแท้จริง ผมทราบดีว่าฝ่ายตรงกันข้ามจะกล่าวหาสารพัดเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้”

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่บอกว่าพรรคไม่เคยคว่ำบาตรการเลือกตั้งเคยทำมาแล้วโดยหัวหน้าพรรคคนแรก จากนั้นเป็นยุคของตนในปี 2549 แต่พรรคไทยรักไทยยังทุจริต ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นพฤติกรรมที่บ่อนทำลายประชาธิปไตย วันนี้สภาพการเมืองไม่แตกต่างกัน พรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคร่วมรัฐบาล ทรยศต่อประชาชนจนเกิดวิกฤตประชาชนออกมาต่อต้าน แต่ยังไม่มีสำนึกถึงการกระทำผิด กลับมาบอกว่าจะสร้างสภาปฏิรูปลงสัตยาบันขอให้รัฐบาลมีอำนาจอยู่เพียงสองปีก็ไม่มีความน่าเชื่อถือหลงเหลืออยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาตนได้พยายามขอความร่วมมือจากพรรคการเมืองอื่นเพื่อแสวงหาทางออกด้วยการเลื่อนการเลือกตั้งเพื่อหาคำตอบให้ประเทศ แต่ก็ถูกปฏิเสธ

ทั้งนี้ เห็นว่าการเลือกตั้งที่จะเป็นคำตอบต้องเป็นธรรมและประชาชนยอมรับผลการเลือกตั้ง รวมทั้งนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น วันนี้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ไม่ตอบโจทย์นี้ เพราะรัฐบาลยังใช้งบประมาณรัฐทัวร์หาเสียง ใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือคุกคามฝ่ายตรงข้าม นายกฯเดินทางไปพบ กกต.จนต้องจำยอมให้มีการเลือกตั้งแม้ กกต.จะเห็นว่าอาจจะนำไปสู่วันมหาโกลาหล สภาพแบบนี้เรียกความศรัทธาคืนจากประชาชนไม่ได้ ตนจึงบอกว่าเราไม่ขัดขวางการเลือกตั้ง แต่นักการเมืองที่ลงสมัครประกาศตัวให้ชัดว่าขอต่ออายุระบอบทักษิณ กับการเมืองที่ล้มเหลว แล้วทำไปตามกติกาที่คิดว่าถูกต้องเลือกตั้งสำเร็จ เป็นรัฐบาล แต่พวกตนจะรอวันที่พลังปฏิรูปเข้มแข็งชะล้างสิ่งเหล่านี้ออกจากประเทศไทย และรอคอยวิถีทางประชาธิปไตยที่แท้จริงที่จะแข่งขันเสนอตัวเข้าสู่อำนาจ

“พรรคต้องการให้โอกาสกอบกู้ศรัทธาประชาชนต่อพรรคการเมืองในระบบรัฐสภา บ้านเมืองมาถึงวันนี้เพราะรัฐบาลทรยศต่อความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ อย่าให้ฝ่ายค้านต้องทำเหมือนรัฐบาลเลย หลังปฏิรูปต้องมีสภา ต้องมีพรรคการเมือง ขอให้มีพรรคการเมืองสักพรรคหนึ่งที่พร้อมทำเพื่อประเทศชาติไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง เห็นแก่ความเปลี่ยนแปลงมากกว่าการช่วงชิงอำนาจ หลอมรวมให้พรรคการเมืองเป็นหนึ่งเดียวกับประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศ ผมขออภัยพี่น้องประชาชนที่ตั้งใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่ได้คิดว่าจะแพ้หรือเป็นฝ่ายค้านแต่เชื่อว่าในสถานการณ์ปกติพรรคจะได้คะแนนมากที่สุดตั้งแต่ตั้งพรรค และจะมีโอกาสเป็นรัฐบาลแต่จะมีการจัดตั้งมวลชนมาขัดขวางทำให้เกิดปัญหาเดิม หรือหากประชาธิปัตย์แพ้ก็พิสูจน์แล้วว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มความสามารถด้วยความเต็มใจ เราไม่ใช่พรรคการเมืองที่เห็นคุณค่าความเป็นพรรคการเมืองเพื่อก้าวสู่ผลประโยชน์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยไม่ต้องคิดถึงพวกผมในสภาเพราะในวันที่เราอยู่ในสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไม่มาสภา ถึงเวลานักการเมืองส่องกระจกตัวเอง กลับมากอบกู้ศรัทธา พวกผมเลือกเส้นทางที่ยากและยาวในการที่จะเป็นตัวแทนประชาชนขอให้ประชาชนร่วมเดินกับพรรค จะเกิดการปฏิรูปที่ยั่งยืนทำให้ศรัทธากลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยอีกครั้งอย่างยั่งยืน”













กำลังโหลดความคิดเห็น