xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ” แวบศูนย์ราชการ!! คปท.พักยก “อัศวิน” โร่คุย “วรพงษ์” หย่าศึก พล.1- แก๊สน้ำตายังชุลมุนอรทัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมที่หน้า บช.น.
เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม : ตำรวจระดมปาแก๊สน้ำตา-สารเคมีต่อเนื่องที่แยก พล.1 และสะพานชมัยมรุเชฐ ผู้ชุมนุมวัย 25 ถูกยิงด้วย 0.22 ที่ขาบาดเจ็บ

วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่แยก พล.1 เมื่อเวลา 09.50 น. บรรยากาศบริเวณแยก พล.1 มวลชนจาก คณะกรรมการประชาชนเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.ที่เวทีราชดำเนิน มีการนัดหมายกันที่ข้างเวทีเวลา 10.00 น.และจะเคลื่อนขบวนมายึด บชน.ให้ได้ นำโดยนายชุมพล จุลใส แกนนำ โดยมีมวลชนบางส่วนได้ทยอยมาถึงบริเวณนี้บ้างแล้ว ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมีการตรึงกำลังเหมือนเช่นเมื่อวาน แต่ขณะนี้แนวแบริเออร์เหลือเพียงแถวเดียวเท่านั้นมวลชนก็จะประชิดแนวของตำรวจทันที

เวลา 10.00 น. พ.ต.ท.สุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ นายตำรวจที่ยังอยู่ในราชการที่สวมเครื่องแบบเต็มยศ ซึ่งเคยขึ้นเวทีการชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ได้พยายามจะยื่นหนังสือให้แก่ตำรวจเพื่อเรียกร้องให้หยุดการปกป้องรัฐบาลและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังอยู่ในข้อหากบฏ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธและไม่ได้ออกมารับหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด

“เอกนัฏ” ชง 4 ข้อรัฐบาล - ขรก.ทยอยทำงานศูนย์ราชการ

เวลา 10.20 น.ที่ศูนย์ราชการ นายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.แถลงเรียกร้องไปยังรัฐบาลยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ คือ ขอให้รัฐบาลและคนในรัฐบาลเลิกปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. เพื่อจะรวบอำนาจไว้ที่ตัวเองทั้งหมด, ขอให้รัฐบาลเลิกการอ้างใช้อำนาจของรัฐตามรัฐธรรมนูญหลังปฏิเสธไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ, ขอให้ยุติการกระทำที่คุกคามใส่ร้ายประชาชน และขอให้รัฐบาลเลิกคิดว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นม็อบของนายสุเทพ พร้อมย้ำว่าการปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ใช่การปฏิวัติรัฐประหาร แต่ถือเป็นการทวงคืนอำนาจของประชาชนคืน ทั้งนี้ได้ขอร้องให้ข้าราชการทุกส่วนหยุดรับใช้ระบอบทักษิณและมายืนเคียงข้างประชาชน และพร้อมพูดคุยกับองค์กรสื่อกรณีที่ส่งมวลชนไปกดดันที่สถานีโทรทัศน์ต่างๆ

ทั้งนี้ ภายในศูนย์ราชการ ยังคงมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่องค์กรอิสระ และพนักงานรัฐวิสาหกิจบางส่วนเดินทางมาทำงาน เนื่องจากหน่วยงานต้นสังกัดไม่ได้แจ้งหยุด บางหน่วยงานสามารถเข้าทำงานได้ แต่ในบางหน่วยงานที่ถูกล็อกกุญแจไว้ก็ไม่สามารถเข้าทำงานได้ ยกเว้นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่นัดลูกค้าไว้ และยกเว้นศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง และกองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการชุมนุมค่อนข้างเงียบเหงา โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส.ได้ทักทายมวลชนซึ่งยังคงมีมวลชนเข้าแถวถ่ายรูปด้วย พร้อมให้กำลังใจ จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ขณะที่บางส่วนขึ้นรถกระบะเดินทางไปสมทบกับผู้ชุมนุมที่บริเวณกองบัญชาการตำรวจนครบาล

ตำรวจถล่มแก๊สน้ำตา ยิงกระสุนยางแยก พล.1 ม็อบโดนกระสุนจริงเจ็บ 1

เวลา 10.35 น. มีรถขยายเสียงพร้อมมวลชนอีกจำนวนหนึ่งเคลื่อนผ่านบริเวณแยก พล.1 เพื่อไปปิดบริเวณแยกการเรือน ซึ่งมีรายงานว่าอาจจะบุกเข้าไปยังสภาผู้แทนราษฎร

เวลา 10.39 น. เริ่มมีการโจมตีด้วยแก๊สน้ำตา รวมทั้งน้ำผสมสารเคมีจากฝั่งตำรวจบริเวณแท่งแบริเออร์ ทำให้มวลชนที่อยู่ตรงแยก พล.1 แตกกระจาย

เวลา 10.45 น. บริเวณแยกการเรือน ถนนราชวิถี ตัดกับถนนราชสีมา ได้มีกลุ่มมวลชนนำโดยนายอิสสระ สมชัย เดินทางมากดดันตำรวจที่ตั้งด่านสกัดอยู่ เพื่อเข้าไปเยี่ยมชมรัฐสภา เมื่อเดินทางมาถึงกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามรื้อเอาแนวลวดหนามหน้าแท่งแบริเออร์ และได้ใช้ผ้าคลุมกล้องวงจรปิด จากนั้นเตรียมที่จะเคลื่อนย้ายแนวแท่งแบริเออร์ แต่นายอิสสระประกาศว่าให้ผู้ชุมนุมฟังคำสั่งตนเพียงคนเดียวอย่าเพิ่งไปเคลื่อนย้ายใดๆ และมีการพูดคุยตอบโต้ผ่านเครื่องขยายเสียงไปมาระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม ล่าสุดเริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อผู้ชุมนุมได้ประชิดแท่งแนวแบริเอร์เตรียมพร้อมสู้กับแก๊สน้ำตา และการฉีดสารเคมี

เวลา 10.58 น. ที่เวทีนางเลิ้ง ได้ประกาศให้มวลชนบางส่วนที่ไปป้วนเปี้ยนแถวบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐกลับมาสู่เวที ภายหลังตำรวจโยนแก๊สน้ำตาเข้ามายังบริเวณอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้มีการเตือนหากไม่กลับมาจะถือว่าเป็นบุคคลที่ปลอมปนเข้ามาสถานการณ์ ทั้งนี้มีรายงานว่า แกนนำ คปท.บางส่วนไม่ได้เข้ามายังเวทีเนื่องจากต้องไปขึ้นศาลในคดีชุมนุมที่สนามบินเมื่อปี 2551

เวลา 11.05 น. มีรายงานว่า เกิดเหตุผู้ชุมนุมชาย อายุ 25 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเจาะที่บริเวณขาขวา ระหว่างที่ตำรวจมีการปาแก๊สน้ำตาบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ โดยมีการยืนยันจากหน่วยกู้ภัยที่รุดไปจุดเกิดเหตุว่าเป็นกระสุนปืน .22 ต่อมาทราบชื่อผู้บาดเจ็บ คือ นายจิรัฏ ไม่ทราบนามสกุล ถูกยิงที่ป้อมตำรวจบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ โดยมีรายงานจากแพทย์ระบุว่ากระสุนฝังเข้าที่เข่าขวา

เวลา 11.38 น. ที่แยก พล.1 ทหารพยาบาลเข้าประจำการในพื้นที่เพื่อทยอยช่วยเหลือผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บจากแก๊สน้ำตาที่ปามาจากเจ้าหน้าที่แล้ว โดยมีรายงานผู้บาดเจ็บจากกระสุนยางด้วย

ตำรวจเตรียมพร้อมม็อบขังนายกฯ ศอ.รส.เปลี่ยนหัวให้ “สุรพงษ์” คุมแทน “ประชา”

เวลา 11.15 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้ได้มีการสั่งปิดกั้นถนนด้านหน้าเลนฝั่งติดหน้าสำนักงานแล้ว รวมทั้งสั่งปิดทางเดินของสกายวอล์กหน้าสำนักงานด้วย ภายหลังนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำเวทีราชดำเนิน ได้ประกาศบนเวทีสั่งให้มีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปเพิ่มเติมหลังจากที่ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประชุม ศอ.รส.อยู่ด้านใน

เวลา 11.29 น.พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวภายหลังการประชุมร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีและ ศอ.รส. ระบุว่านายกฯ เป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมส่งผลภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่างประเทศ มีมติมอบหมายงานให้นายสุรพงษ์เข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแลและควบคุมการทำงานของ ศอ.รส. ขณะที่ตนยังทำหน้าที่กำกับดูแล สตช. และเป็นที่ปรึกษา ซึ่งการเปลี่ยนบุคคลไม่มีนัย ขณะที่การประชุมนายกฯ ได้แจ้งถึงการหารือกับนายสุเทพจริง โดยผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นผู้ประสาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่าเงื่อนไขและข้อเสนอใดๆ ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด ข้อเสนอใดที่อยู่นอกเหนือกฎหมาย ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ เชื่อจะมีการหารือกับนายสุเทพอีกครั้ง และขอให้ยุติการชุมนุม อย่างไรก็ตาม ทำเนียบรัฐบาลยังสามารถปฎบัติงานได้ตามปกติ การประชุม ครม.ยังมีเหมือนเดิม แต่ไม่สามารถบอกสถานที่ได้

ด้านนายสุรพงษ์กล่าวว่า ตนจึงต้องเร่งทำหน้าที่ชี้แจง ขณะเดียวกันเพื่อไม่ให้การทำงานหยุดชะงัก ก็ขอให้ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจมาดำเนินงานตามปกติ และยืนยันรัฐบาลจะใช้ความอดทน ไม่ใช้ความรุนแรง

เวทีราชดำเนินส่งทีมจี้ กสทช.จัดการช่อง 9-11 เมินถ่ายม็อบแถลง

เวลา 11.30 น.ที่เวทีราชดำเนิน นายถนอม อ่อนเกตุพล แกนนำปราศรัยระดมประชาชนเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เพื่อเรียกร้องให้ยึดใบอนุญาตและระงับการออกอากาศสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 และช่อง 9 อสมท ขณะที่นายสาทิตย์ ได้ร่างหนังสือที่เตรียมร้องต่อ กสทช.ระบุได้รับข้อมูลจากผู้บริหารระดับสูงว่ารัฐบาลได้ส่งกลุ่มบุคคลเข้าไปบังคับสั่งการไม่ให้ช่อง 11 และ ช่อง 9 นำเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวของประชาชนที่ลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาล เป็นที่ปรากฏว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้ใช้อำนาจรัฐแทรกแซงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 46 จึงขอให้ กสทช.สั่งการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 46 และระเบียบข้อบังคับในการออกใบอนุญาตของสื่อมวลชนทั้ง 2 แห่งโดยเร่งด่วน หากสั่งการไม่ปฏิบัติตาม ขอให้ยึดใบอนุญาต และระงับการออกอากาศทันที

โฆษก ป.ป.ช.เมินตรวจ ศอ.รส.ชี้ไม่ใช่หน้าที่ - กสม.วอนทุกฝ่ายหยุดใช้ความรุนแรง จี้ ตร.งาน

เวลา 11.59 น.นายวิชา มหาคุณ โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ปฏิเสธคำเชิญของ ศอ.รส. ที่ต้องการให้ ป.ป.ช.ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์ปฏิบัติหน้าที่ โดยระบุการเข้าร่วมสังเกตการณ์หรือให้ข้อเสนอแนะในการปฏิบัติหน้าที่ของ ศอ.รส.ตามที่ขอมานั้น จึงมิใช่ภารกิจขององค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐแต่อย่างใด

เวลา 12.00 น. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการยุติการใช้ความรุนแรงในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง 1. ผู้ชุมนุมรอบมหาวิทยาลัยรามคำแหงต้องยุติการใช้ความรุนแรงและขอให้ตำรวจออกมาปฏิบัติหน้าที่ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงและตัวผู้กระทำความผิด และให้แถลงผลดำเนินการให้ประชาชนทราบ 2. ผู้ชุมนุมต้องสนับสนุนและให้ความเคารพต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยไม่คุกคาม และสื่อมวลชนเองต้องให้ความสำคัญในการนำเสนอข่าวสารตามข้อเท็จจริงอย่างเที่ยงตรง 3. ทั้งสองฝ่ายจะต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ยั่วยุและไม่ใช้ความรุนแรง

4. การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในการระงับเหตุร้ายหรือการละเมิดกฎหมายจะต้องเป็นไปอย่างละมุนละม่อม และปฏิบัติจากเบาไปหาหนักตามหลักสากล 5. ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจากเหตุการณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณาในการให้การเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบ และครอบครัวโดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ไม่เลือกปฏิบัติ รวมถึงสภาพจิตใจอย่างเป็นธรรม

ศูนย์ราชการขอมวลชนสมทบ สตช.-บช.น.-ชมัยฯ ยังปาแก๊สต่อเนื่อง

เวลา 11.57 น.ที่แยก พล.1 ขณะนี้สถานการณ์เริ่มนิ่ง หลังเสียงแก๊สน้ำตาเงียบไปประมาณ 5 นาที อย่างไรก็ตาม พบว่าก่อนหน้านี้ตำรวจพยายามยั่วยุมวลชนด้วยการออกเครื่องกระจายเสียงถากถางแกนนำมวลชนอย่าเอามวลชนเป็นโล่กำบัง อาทิ “น้องลูกหมีอยู่ไหน อย่าหดหัวอยู่หลังประชาชน ออกมาเจอพี่เร็ว”

เวลา 12.29 น.ที่ศูนย์ราชการ แกนนำได้ประกาศขออาสาสมัครให้ไปร่วมสมทบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบช.น.โดยมีรถกระบะวนเข้ามารับผู้ชุมนุมอออกไปจำนวนหลายสิบคัน และก่อนออกเดินทางก็ได้มีการแจกหน้ากากอนามัย น้ำเกลือ อาหาร แว่นตากันลม และอาหารด้วย

เวลา 12.35 น.ที่แนวกั้นสะพานชมัยมรุเชฐ ยังมีการปาแก๊สน้ำตาออกจากฝั่งตำรวจหลังแนวแบริเออร์อย่างต่อเนื่อง โดยผู้ชุมนุมใช้กระสอบทรายชุบน้ำจำนวนมากใช้ในการคลุมแก๊สน้ำตา รวมทั้งมีหน่วยแนวหน้าราว 50 คนคอยเก็บลูกแก๊สน้ำตาขว้างกลับไปทางฝั่งตำรวจ

รถตู้อัลจาซีร่าถูกยิง!! หน.ช่างภาพเดลินิวส์หูฉีก คปท.ทลายแบริเออร์ชมัยฯ ใกล้เสร็จ

เวลา 12.47 น.ที่สะพานชมัยมรุเชฐ เกิดเหตุรถตู้ของสำนักข่าวต่างประเทศ อัลจาซีรา ถูกยิง 2 นัด บริเวณช่องเติมน้ำมันและประตูผู้โดยสาร ขณะรายงานสดสถานการณ์การชุมนุม บนถนนพระราม5 ตรงข้ามอาคารสำนักงานข้าราชการพลเรือน กพ. โดยมีพยานยืนยันวิถีกระสุนมาจากแนวตำรวจ

เวลา 13.00 น. ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ล่าสุดยังคงเป็นไปอย่างตึงเครียด ผู้ชุมนุมพยายามนำรถตำรวจที่ยึดมาได้เมื่อคืนนี้ย้ายแท่งแบริเออร์ เพื่อเปิดเส้นทางเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงระดมยิงแก๊สน้ำตา สลับกับการฉีดน้ำผสมสารเคมีใส่ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า รถถ่ายทอดสดของช่อง มีเดียนิวส์ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในรถ ทำให้ผู้ชุมนุมและทีมข่าวที่หลบอยู่แนวหลังรถ ต้องวิ่งหนีกระเจิง

เวลา 13.20 น. ที่เวทีราชดำเนิน เกิดเสียงดังคล้ายปืน 2 ครั้ง บริเวณใกล้กับเวที เมื่อผู้สื่อข่าวได้วิ่งเข้าไปที่จุดเกิดเหตุ พบการ์ดประจำตำแหน่งอ้างว่า มีบุคคลแต่งกายคล้ายการ์ดขับจักรยานยนต์มาจุดประทัดโดยอ้างว่า เพื่อไล่เฮลิคอปเตอร์ตำรวจ แต่การตรวจสอบกลับพบบุคคลดังกล่าวไม่มีบัตรประจำตัวการ์ดแต่อย่างใด จากนั้น นายสาทิตย์ จึงขึ้นเวที สั่งให้การ์ดผู้ชุมนุมติดบัตรประจำตัว ซึ่งพร้อมระดมมวลชนเป่าลูกโป่ง สกัดเฮลิคอปเตอร์ตำรวจด้วย

เวลา 13.40 น.มีรายงานจากพยาบาลสนามแจ้งว่า นายสุรเชษฎ์ วัชรวิศิษฎ์ หัวหน้าช่างภาพ นสพ.เดลินิวส์ ที่ถ่ายภาพอยู่ฝั่งคปท. ถูกกระสุนไม่ทราบชนิดยิงเฉี่ยวลริเวณหู ทำให้หูฉีก ขณะนี้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลหัวเฉียวแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่า ตำรวจยิงแก๊สน้ำตามาจากอาคาร กพ. ด้วย

เวลา 13.46 น.ตำรวจหลังแนวชมัยมรุเชฐ ประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงระบุจะใช้กระสุนยางยิงผู้ชุมนุม หากนำรถแทรคเตอร์เข้ามาใกล้แนวแบริเออร์ แต่ล่าสุดผู้ชุมนุมได้ใช้รถผู้ต้องขังของตำรวจทำลายแนวแบริเออร์ไปได้แล้ว 2 ชั้น เหลือเพียงชั้นหนึ่งที่อยู่หน้าแนวตำรวจ

"ปู" อ้างข้อเสนอม็อบไม่มีในกม. ลั่นพร้อมเจรจาทุกออฟชั่น แต่ต้องมีขั้นตอนให้เสียงส่วนใหญ่โหวต

เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุตนไม่ยึดติดอำนาจ ทั้งยุบสภา หรือลาออก เพราะอยู่ภายใต้กฏหมาย แต่ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมตนยังไม่เห็นตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ในการหารือกับนายสุเทพ ตนได้รับทราบข้อเสนอ และยืนยันตนไม่ทำตัวเป็นเงื่อนไข หรือเป็นปัญหา ถ้าอะไรที่ทำให้คืนความสงบก็ยินดี รัฐไม่ยึดเหนี่ยวอำนาจ พร้อมทั้งขอเรียกร้องคนไทยให้ร่วมกันหาทางออก ยืนยันกองทัพวางบทบาทเป็นกลาง ตนอยากเรียกร้องคนที่รู้ข้อกฏหมายมาร่วมหาทางออก พร้อมเปิดทุกออฟชั่นเพื่อหาความสงบ ตำรวจไม่กระทำรุนแรงต่อประชาชน และขออย่าปิดสถานที่ราชการ เพื่อให้บริการประชาชน ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่รู้จะทำตามข้อข้อเรียกร้องยังไง

เมื่อถามว่า คนเลือกมารัฐบาลจะทำยังไง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อะไรที่เป็นความสุขของคนทั้งประเทศคือเสียงส่วนใหญ่ ก็ต้องมีขั้นตอนให้คนส่วนใหญ่บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเสียงส่วนใหญ่ยินยอมก็ยินดี

"สุเทพ" เรียกแกนนำม็อบถก - 2 จุดเร่งลุยแกนวกั้นตำรวจ คปท.พักยก แนะรอประกาศชัยคืนนี้
เวลา 13.47 น. ที่แยกการเรือน มวลชนได้รื้อแนวป้องกันที่เป็นรั้วลวดหนาม กับแท่งแบริเออร์ โดยสามารถรื้อไปแล้ว 1 ชั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา ยิงใส่ผู้ชุมนุมหลายสิบลูกพร้อมประกาศให้ม็อบถอยร่นออกจากแนว 50 เมตร และบอกว่า จะใช้กระสุนยางบริเวณแนวแบริเออร์ แต่ผู้ชุมนุมก็ไม่ฟังเสียงยังรุกล้ำเข้ามา จนกระทั่งผู้ชุมนุมรื้อแนวลวดหนามหลังแนวแบริเออร์ชั้นแรกถูกรื้อออกแล้ว

เวลา 13.43 น. พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงเป็นระยะบนเวทีชุมนุมสะพานมัฆวานรังสรรค์ ติดกับแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขอความร่วมมือไม่ให้ผู้ชุมนุมงดการยั่วยุเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อารักขาทำเนียบรัฐบาลเพราะเป็นการสร้างแรงกดดันให้ตำรวจ และขอให้ผู้ชุมนุม อยู่อย่างสงบอหิงสาปราศจากอาวุธภายในสถานที่ชุมนุม ทั้งนี้เชื่อว่า วิธีนี้จะทำให้ประชาชนออกมาชุมนุมเพื่อโค่นล้มร้ฐบาลที่หมดความชอบธรรมเป็นจำนวนมากได้ เพราะถ้าไปยั่วยุตำรวจแล้วมีการตอบโต้กันขึ้นอาจทำให้คนที่อยู่ทางบ้านไม่กล้าออกมาร่วมชุมนุม

เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ราชการ มีรายงานว่า นายสุเทพ ได้เรียกแกนนำผู้ชุมนุมทุกเครือข่ายมาร่วมรับประทานอาหารภายในศูนย์อาหารร โดยภายหลังรับประทานอหารเสร็จก็ประชุมภายในห้องประชุมในชั้นใต้ดินของศูนย์ราชการทันที โดยนายสุเทพ ได้ยืนเพื่อหารือกับแกนนำทั้งหมด และมีการ์ดยืนรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดที่หน้าห้อง

เวลา 14.02 น. ที่แยก พล.1 มวลชนได้ปักหลักประจันหน้าเข้าหาแนวกั้นแบริเออร์ของตำรวจ โดยตลอดทั้งวันตำรวจได้ระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า "เอาโรงพักของเราคืนมา" และสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ติดกับแนวกั้นยิงแก๊สน้ำตาเป็นวิถีตรงใส่ผู้ชุมนุม ด้านฝั่งผู้ชุมนุมยังคงปักหลักและได้มีการระดมนำกระสอบทรายจำนวนมาก มาชุบน้ำเพื่อใช้คลุมกระป๋องแก๊สน้ำตาที่ถูกยิงตกลงมา พร้อมทั้งได้นำพัดลมมาตั้งใกล้แนวปะทะเพื่อผลักดันทิศทางของควันแก๊สน้ำตาให้ย้อนกลับไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้พบผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระป๋องแก๊สน้ำตาตกใส่ศีรษะ 1ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยได้เข้ามาช่วยเหลือและนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว รวมทั้งยังพบผู้บาดเจ็บถูกยิงด้วยกระสุนยาง ซึ่งแพทย์สนามของทหารปืนใหญ่ที่1 รักษาพระองค์ ได้เข้าให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ขณะที่ผู้ชุมนุม บางส่วนถอยร่นออกมาพักอยู่ด้านหน้าสโมสรทหารบก และส่วนหนึ่งได้เข้าไปหลบอยู่ในหอประชุมกองทัพบก

เวลา 14.10 น. ที่สะพานชมัยมรุเชฐ มีรายงานผู้ชุมนุมถูกยิงจังหวะชุลมุนอีก 1 ราย เข้าที่บริเวณชายโครง ส่วนผู้ชุมนุมพยามรื้อแนวแบริเออร์ และมีบางส่วนได้ขว้างก้อนหินเข้าไปฝั่งตำรวจ ทำให้ตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง อย่าเข้ามาใกล้แนวแบริเออร์ และประกาศเตรียมพร้อมใช้กระสุนยาง

นอกจากนี้ยังมีรายงาน ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหอพักสตรีบำรุงดุสิตวิทยา ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุและมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ ได้ออกมาตะโกนขอความช่วยเหลือเนื่องจากมีแก๊สน้ำตาตกลงบนหลังคาก่อนที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และมวลชนจำนวนหนึ่งจะเข้าไปช่วยเหลือออกมา และปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่บรรยากาศในทำเนียบรัฐบาล พบว่ามีจนท.ยืนประจำการอยู่บนดาดฟ้าของตึกบัญชาการ 2 จำนวน 2 นาย

เวลา 14.35 น. ที่แยกการเรือน ยังคงมีการยิงแก๊สน้ำตาจากตำรวจต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมประชิดแนวแบริเออร์ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมชายยังคงเดินหน้ารื้อแนวแบริเออร์และลวดหนามออก ชั้นที่ 2 หากรื้อสำเร็จก็จะเป็นแนวลวดหนามประมาณ 20 เมตร ก็จะเป็นแนวแบริเออร์ หน้าแนวตำรวจควบคุมฝูงชน โดยมีแก๊สน้ำตาหลายลูกหล่นเข้าไปในพื้นที่ ม.ราชภัฏสวนดุสิต และบริเวณสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

เวลา 15.12 น. ที่สะพานชมัยมรุเชฐ นายอมร อมรรัตนานนท์ แกนนำ คปท.ประกาศบนรถปราศรัย ขอให้มวลชนและนักศึกษาอาชีวะออกจากแนวกั้นตำรวจ เนื่องจากตำรวจจะใช้กระสุนจริง ขอให้กลับมาที่แนวของคปท. โดยถือโอกาสแยกแยะมวลชนกับผู้ปะปนมาสร้างสถานการณ์ หากใครเดินไปจะถือว่าเป็นพวกฝ่ายตรงข้ามมาป่วน พร้อมกับขอให้รอประกาศชัยชนะในคืนนี้ 20.30 น. ล่าสุดได้หยุดพักการพยายามลุยเข้าพื้นที่ทำเนียบชั่วคราว โดยมีรายงานว่า แกนนำได้เจรจากับตำรวจ ขอพักเป็นเวลา 3 ชั่วโมง

"เอกนัฏ" จวกนายกฯ ตบตา สั่งโจกจ่อขนแดงลุย ดาราแห่ร่วมสมรภูมิพล.1 ม็อบใช้แบ๊กโฮทะลวงแนวกั้น
เวลา 15.30 น.ที่เวทีราชดำเนิน แกนนำได้ปล่อยขบวนนำโดยรถแบ๊คโฮสีเหลืองเคลื่อนไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมีรถสิบล้อขนาดใหญ่บรรทุกประชาชนเคลื่อนนำหน้ารถแบ๊คโฮ และมีมวลชนที่พกพาอุปกรณ์ป้องกันแก๊สน้ำตาติดตามไปเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้มี น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี นั่งบนรถนำขบวนไปรื้อแนวแบริเออร์ที่ขวางกั้นผู้ชุมนุม ซึ่งขณะนี้มีประชาชนไหลมาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก มีการเตรียมลูกโป่งจำนวนมากเพื่อเตรียมรับมือเฮลิคอปเตอร์ โดยแกนนำให้มวลชนเตรียมให้พร้อมหากมีการนำเฮลิคอปเตอร์บินผ่านเหนืออนุสาวรีย์ให้เตรียมปล่อยลูกโป่งรบกวนการบิน

เวลา 15.40 น.ที่ศูนย์ราชการ นายเอกนัฏ แถลงระบุถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรียังเป็นการเล่นละครตบตาประชาชนอีกครั้งที่กล่าวว่าข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชนไม่สามารถปฏิบัติได้ตามกฎหมาย หรือไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการที่นายกรัฐมนตรีระบุจะไม่เป็นเงื่อนไขของการแก้ไขปัญหาพร้อมที่จะหยุด แต่ชัดเจนว่ากระบวนการระบอบทักษิณไม่ยอมหยุด มีการยกระดับการตอบโต้ไม่ว่าจะเป็นการการประกาศผ่านเฟซบุ๊กของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พานิชย์ให้มีการระดมมวลชนคนเสื้อแดงไปที่ศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ สอดคล้องกับที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช เคยระบุก่อนที่จะมีการเสียชีวิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงว่า “ถ้านักศึกษามาเจอดีแน่”

นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนผู้อำนวยการศอ.รส. ซึ่งชัดเจนว่ารมว.ต่างประเทศน่าจะรับฟังคำสั่งได้ดีจากคนที่อยู่ในต่างประเทศ และยังมีข่าวความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารสตช. กับบช.น. โดยทราบว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ถึงกลับพูดว่า “ กูรอเวลานี้มานานแล้ว” รวมถึงมีการยิงกระสุนปลอมในพื้นที่อื่น โดยไม่ได้มีการประกาศให้ทราบล่วงหน้า ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ จึงอยากขอให้สื่อช่วยการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐและขอเรียกร้องให้ระบอบทักษิณหยุดทำร้ายประชาชนได้แล้ว อย่างไรก็ตามในวันนี้นายสุเทพ ก็จะได้มีการแถลงถึงท่าที่กปปส.อีกครั้งในเวลา 19.30 น. สิ่งที่เป็นห่วงในขณะนี้คือมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาแฝงตัวเพื่อที่จะก่อความวุ่นวาย จึงเกรงว่าจะเหมือนกับที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ขณะนี้แกนนำแต่ละจุดยังสามารถควบคุมได้

เวลา 15.55 น.ที่แยก พล.1 มีรายงานว่า ตำรวจหันมาใช้พัดลมขนาดใหญ่มาช่วยเป่าแก๊สน้ำตาที่ผู้ชุมนุมใช้พัดลมยักษ์เป่ากลับมา ขณะที่ผู้ชุมนุมเริ่มนำแทรกเตอร์เข้ามาเคลื่อนย้ายแบริเออร์ออกจากแนวป้องกันของตร. โดยด่านหน้าของผู้ชุมนุมได้มีการขึงสแลนป้องกันแก๊สน้ำตาเอาไว้ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีรายงานว่าพบดารานักแสดงมาร่วมการชุมนุมที่จุดดังกล่าวด้วย อาทิ จารุณี สุขสวัสดิ์ หรือเปิ้ล ชนกวนันท์ รักชีพ หรือ ตุ๊ก พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง หรืออ๊อฟ

เวลา 16.00 น.ที่แยก พล.1 มีรายงานตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้ารถปราศรัย โดยผู้ชุมนุมช่วยกันดับแก๊สน้ำตา พร้อมกับใช้รถขยะเปิดทางฝ่าเข้าไป และใช้รถแบ๊คโฮขับไปทางแนวกั้น ตำรวจ แล้ว

เวลา 16.20 น.ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีประชาชนจำนวนมากเข้าจับจองจนเต็มหน้าสำนักงานฯ โดยนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำผู้ชุมนุม ได้ปราศรัยให้ตำรวจทำงานเพื่อประชาชน

เวลา 16.21น.ที่ศูนย์ราชการ มีเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ 2 ลำมาบินวนดูสถานการณ์การชุมนุม นับสิบรอบ ซึ่งนายสำราญ รอดเพชร โฆษกบนเวทีก็ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมทราบพร้อมกับระบุว่า เป็นใช้สงครามจิตวิทยาเพื่อต้องการทำให้ผู้ชุมนุมเกิดความหวาดกลัว ทำให้ผู้ชุมนุมภายในศูนย์ต่างโห่ร้องไล่ รวมถึงท้ายทายให้ลงจอด โดยหลายรอบของการบินวนนั้นมีลักษณะการบินต่ำเพื่อจงใจยั่วยุผู้ชุมนุม และอาจจะเพื่อเก็บภาพการชุมนุมของมวลชนให้ชัดเจน พร้อมกันนี้นายสำราญ ได้ประกาศขออาสาสมัคร 500 คนเพื่อไปตรวจสอบพื้นที่ด้านทิศใต้ทิศตะวันออกข้างศูนย์ราชการซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์ค ที่มีกระแสข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มอยู่เพื่อที่จะบุกเข้ามาขอคืนพื้นที่ศูนย์ราชการ

"สุเทพ" พร้อม "สมบัติ" ออกศูนย์ราชการ - สมรภูมิพล.1 จบ "อัศวิน" ถก "วรพงษ์" ถอยทั้ง 2 ฝ่าย
เวลา 16.48 น.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางไปที่แยก พล.1 เพื่อเจรจากับพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะเพื่อนร่วมโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 30 เพื่อขอให้ตำรวจถอยออกจากพื้นที่ โดยล่าสุดผลการเจรจาได้ให้ทั้ง 2 ฝ่าย ขยับออกมาจากแนวกั้นแท่งแบริเออร์แล้ว สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย

เวลา 16.54 น.มีรายงานว่า นายสุเทพ ได้เดินทางออกจากศูนย์ราชการ พร้อมกับนายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศาสตร์ออกจากศูนย์ราชการโดยไม่ทราบจุดหมาย

เวลา 17.01 น.พล.อ.ปรีชา เดินทางมาที่รถเครื่องขยายเสียง พร้อมยกมือไหว้ เพื่อขอร้องให้มวลชนอาชีวะถอยออกจากแนวกั้นที่แยกพล.1 ให้กลับที่ตั้งบริเวณเวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ เนื่องจากตำรวจมีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรง โดยมวลชนบางส่วนไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก

เวลา 17.10 น.ประตูทำเนียบฝั่งสะพานอรทัย ยังมีการยิงแก๊สน้ำตาอยู่เป็นระยะ โดยจุดดังกล่าวยังคงมีมวลชนซึ่งเป็นนักเรียนอาชีวะอยู่จำนวนมากชุมนุม แต่ไม่มีแกนนำ คปท.ควบคุม

เวลา 17.19 น.ที่แยกการเรือน มีรายงานว่า ชุดปราบจลาจลหลายร้อยนายระดมกำลังเตรียมเข้าสลายมวลชนที่รื้อแนวกั้น

เวลา 17.20 น.มีรายงานว่า ศาลอาญา อนุมัติออกหมายจับนายนิติธร นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี และนายพิชิต ไชยมงคล โฆษก คปท. รวม 3 ข้อหา อาทิ มั่วสุม บุกรุกสถานที่ราชการ ทำให้เสียทรัพย์ กรณีนำมวลชน บุกเข้าไปภายในกระทรวงการต่างประเทศ

"วิทยา" โวย ตร.ยึดลูกโป่ง -สะพานอรทัย อาชีวะยังบู๊หนัก "ชูวิทย์" โผล่การเรือน ม็อบจ่อถอยแล้ว
เวลา 17.21 น.ที่กระทรวงการคลัง นายวิทยา แก้วภารดัย แกนนำกปปส.ขึ้นเวทีปราศรัยตำหนิตำรวจสถานีตำรวจนครบาลสามเสน ยึดลูกโป่ง ขณะที่รถขน มาที่เวทีปราศรัยพร้อมปล่อยทิ้ง 7,000ใบ

เวลา 17.29 น.ที่สะพานอรทัย ยังคงมีการยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มวลชนได้ใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อดึงรถตำรวจ 2 คันที่ขวางหน้าประตูทำเนียบออก และพยายามจะใช้วิธีเดียวกันในการดึงแบริเออร์ที่เหลือไม่กี่ก้อนที่กั้นออก แต่ฝ่ายตำรวจได้ตอบโต้โดยการยิงและขว้างแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มีการสังเกตเห็นตำรวจจำนวน 5 นายอยู่บนดาดฟ้าตึกบัญชาการ 1 ภายในทำเนียบ คอยยิงแก๊สน้ำตาและระเบิดเสียงข่มขู่ตลอดเวลา

เวลา 17.30 น.ที่แยกการเรือน นายถนอม ประกาศบอกผู้ชุมนุมปฏิบัติให้เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก พร้อมย้ำกับผู้ชุมนุมให้ทราบว่าที่มาจุดนี้มาเพื่อแหย่และยื้อ ไม่ได้มายึด เพื่อดึงกำลังตำรวจไม่ให้ไปสนับสนุนยุทธศาสตร์สำคัญที่บช.น. และทำเนียบรัฐบาล จนกว่าจะถึงเวลา 20.00 น.ที่แกนนำหลักจะแถลงข่าวดีให้ทราบขณะที่นายอิสสระ ก็ปราศรัยโจมตี สลับกับการปลุกมวลชนให้สู้ ทั้งนี้ตั้งแต่ 17.00 น.เป็นต้นมาไม่มีการยิงแก๊สน้ำตา แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังเตรียมพร้อมรับมือระดมผ้าเช็ดหน้า น้ำเปล่ามาเพิ่ม พร้อมผ้าห่มและกระสอบป่านชุบน้ำให้เปียกเพื่อใช้สำหรับคลุมแก๊สน้ำตาเวลาตำรวจยิงมาใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้เกิดความเบาบาง

ขณะที่ฝั่งตำรวจก็พูดผ่านเครื่องขยายเสียงเป็นระยะว่าห้ามผู้ชุมนุมรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่หวงห้ามเพราะตำรวจจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง และย้ำให้หยุดเพราะขณะนี้ผู้ใหญ่กำลังเจรจากันอยู่ ทำให้ผู้ชุมนุมโห่ร้องใส่

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้เดินทางมาให้กำลังใจผู้ชุมนุมด้วย ล่าสุดผู้ชุมนุมเริ่มถอยจากแนวแบริเออร์ เตรียมเดินทางกลับ

ม็อบลุยสนามกอล์ฟไล่เช็ก ตร.แต่ไม่พบ - แนวชมัยฯ เริ่มตึงเครียดอีก
เวลา 18.00 น.ที่ศูนย์ราชการ หลังจากที่แกนนำได้ประกาศขออาสาสมัคร 500 คนไปตรวจสอบพื้นที่ด้านทิศ ใต้ทิศตะวันออกข้างศูนย์ราชการซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์ค เนื่องจากที่มีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มอยู่ จึงเกรงจะบุกเข้ามาขอคืนพื้นที่ปรากฏว่าเมื่ออาสาสมัครไปถึงก็ได้ปีนประตูเข้าไปภายในสนามกอล์ฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามกอล์ฟไม่สามารถทัดทานได้ แต่เมื่อผู้บริหารสนามกอล์ฟลงมาพบกับมวลชนและได้รับแจ้งว่า มีกระแสข่าวมีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายกองร้อยเข้าประจำในพื้นที่ของสนามกอล์ฟเพื่อเตรียมจะเข้าขอคืนพื้นที่ศูนย์ราชการ จึงต้องการขอตรวจสอบพื้นที่

ทางผู้บริหารฯก็ให้ความร่วมมือโดยพาตัวแทนมวลชน พร้อมทั้งสื่อนั่งรถกอล์ฟไปดูตามจุดต่างๆ ทั่วบริเวณสนามกอล์ฟ รวมถึงลานจอดรถใต้ดิน แต่ก็ไม่พบว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในสนามกอล์ฟแต่อย่างใด โดยทางผู้บริหารสนามกอล์ฟกล่าวว่า วันนี้ทางสนามกอล์ฟได้ปิดให้บริการ เพเพราะช่วงที่มีการชุมนุมของมวลชนที่ศุนย์ราชการเปิดให้บริการไปก็ไม่มีผู้มาใช้บริการ

เวลา 18.30 น.ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ได้เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดอีกครั้ง หลังทั้งผู้ชุมนุมและตำรวจเปิดเครื่องเสียงประชันกัน โดยฝ่ายตำรวจเปิดคลื่นเสียงหวีดตลอดเวลา พร้อมประกาศเตือนหากมีการนำรถแบ็คโฮเข้าใกล้แนว จำเป็นนต้องใช้กระสุนยาง โดยขณะนี้รถแบ็คโฮจอดอยู่ด้านหน้าโรงเรียนราชวินิต

เวลา 18.32 น.การ์ด คปท.ติดเครื่องรถแบ็คโฮ พร้อมเปิดไฟ รวมทั้งเคลียร์เส้นทางมุ่งหน้าแนวชมัยมรุเชฐ ให้มวลชนหลบ เตรียมพร้อมเหมือนจะเคลื่อน แต่ยังไม่ขยับ

เวลา 18.45 น.ที่สะพานชมัยมรุเชฐ กลุ่มผู้ชุมนุม ได้เดินหน้าประชิดแบริเออร์ ช่วยกันดันขยับแบริเออร์ พร้อมใช้รถแบ๊กโฮดัน ทำให้ตำรวจฉีดน้ำเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่แกนนำบนรถปราศรัยได้ประกาศเตือนให้ผู้ชุมนุมถอยออกมาเพื่อความปลอดภัย

เวลา 18.51 น. ที่เวทีราชดำเนิน นายชุมพล แกนนำที่นำมวลชนไปที่แยกพล.1 รอ.ได้ประกาศชัยชนะ หลังมารวมตัวกัน ก่อนขึ้นเวทีพร้อมปราศัยว่า วันนี้ถือว่าเราชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 100% แม้ว่าเราจะไม่สามารถเข้าไปในกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ แต่เราก็สามารถทำลายแบริเออร์ที่กั้นตำรวจและประชาชนออกได้ อีกทั้งตนก็ไม่อยากให้ชัยชนะครั้งนั้เป็นชัยชนะบนซากศพ และจะเห็นว่าตนอยู่แนวหน้าตลอดไม่ได้หนีไปไหน ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุข โดยตอนที่เราเคลื่อนขบวนกลับมาจะเห็นว่าตำรวจปรบมือให้ นี่จึงถือเป็นชัยชนะของพวกเรา

"ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่บช.น.วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ขอบคุณทุกคน วันนี้ระบอบทักษิณใช้ไม่ได้อีดแล้ว เหตุการณ์วันนี้ืถือเป็นประวัติศาตร์ที่เราได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขในการเอาแท่งแบริเออร์ออกได้ ขอบคุณพี่น้องมวลมหาประชาชนเราทำสำเร็จแล้ว และเราจะเดินหน้าต่อสู้ต่อไป ขอให้มวลมหาประชาชนคอยฟังคำแถลงของนายสุเทพ เอีกครั้ง" นายชุมพลกล่าว

เวลา 19.10 น.ที่สะพานชมัยมรุเชฐ นายพิสิฐ ภูตินันท์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์แนวหน้า ถูกวัตถุไม่ทราบชนิด เข้าที่ศีรษะจนแตก ขณะตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว

เหตุการณ์ที่หน้า บช.น.






ผู้ขุมนุมได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ - ภาพจากเฟซบุ๊ก M-Pad Loveking
ผู้ขุมนุมได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ - ภาพจากเฟซบุ๊ก M-Pad Loveking
ผู้ขุมนุมได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ - ภาพจากเฟซบุ๊ก M-Pad Loveking























ลูกหมี พักกินข้าว ตร.เรียกหาแกนนำตลอด

มวลชนนำรถดับเพลิง บุก แยก พล.1


ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ

ขณะที่ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ส.สรรหา ได้โพสต์ภาพกระสุน ที่ ตร.ใช้กระสุนจริงยิงประชาชน















ล่าสุด 15.30 น.จากนางเลิ้ง ชมัยมรุเชฐ หยุดพักชั่วคราวเนื่องจากมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีแทรกตัว ยั่วยุ และใช้อาวุธกับฝั่งตำรวจ ทางแกนนำจึงสั่งให้หยุดการตีแนวเพื่อแยกแยะกลุ่มผู้ชุมนุมจริงๆ กับผู้ไม่หวังดี





















ที่กระทรวงการคลัง ผูกลูกโป่งหลายร้อยใบ เตรียมลอยหากมีเฮลิคอปเตอร์บินเข้ามาสลายการชุมนุม
กำลังโหลดความคิดเห็น