xs
xsm
sm
md
lg

ศอ.รส.ปัดข่าว ผบ.ทบ.วอนหยุดใช้แก๊สน้ำตา อ้างตอบโต้ตามหลักสากล

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือ ศอ.รส.
ศอ.รส.แถลงยังไม่ถึงเวลาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โต้ข่าว ผบ.ทบ.วอนยุติใช้แก๊สน้ำตาทำร้าย ปชช.โยนบาปผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของทำร้าย ตร.ก่อน ถือเป็นการตอบโต้ตามหลักสากล ยอมรับมีคำสั่งยึดคืนพื้นที่ศูนย์ราชการ-กระทรวงการคลังจริง

วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส.แถลงข่าวรายงานสถานการณ์ชุมนุม ว่า ล่าสุดผู้ชุมนุมได้กระจายพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณรอบทำเนียบ รัฐสภา กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) อีกส่วนกดดันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย ขณะที่มวลชนอีกส่วนหนึ่งได้กระจายไปกดดันที่สถานีโทรทัศน์ทุกแห่ง เพื่อบังคับให้ออกอากาศการแถลงการณ์ของผู้ชุมนุม ทั้งนี้ ศอ.รส.ปรับคลี่คลายสถานการณ์ โดยขณะนี้ได้สั่งการชุดคุมฝูงชน และชุดเคลื่อนที่เร็วเดินทางไปปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ศูนย์ราชการ และกระทรวงการคลัง ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวดำเนินการอย่างเรียบร้อย ละมุนละม่อม และให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด เพราะผู้ชุมนุมเป็นคนไทยด้วยกัน จึงขอความร่วมมือให้ผู้ชุมนุมที่กระทรวงการคลัง และศูนย์ราชการ ให้ความร่วมมือกับตำรวจด้วย ซึ่งการปฏิบัติจะดำเนินการเป็นลำดับขั้นตอน โดยเริ่มจากการเจรจา ซึ่งแล้วแต่ ผบ.เหตุการณ์จะเห็นสมควร ทั้งนี้ การเข้าไปขอคืนพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อพิสูจน์ทราบว่ามีใครอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว มีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการให้ได้รับความเสียหายบ้างหรือไม่ ซึ่งหากมีคนอยู่ในพื้นที่ก็จะเจรจา หรือดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้ออกมาจากพื้นที่

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในส่วนการปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งปฏิบัติการดูแลความเรียบร้อยที่สะพานชมัยมรุเชฐ แยก พล.1 มีภาพปรากฏชัดเจนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ที่ทำการรักษาแนว จึงมีการใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่สมควร ตามหลักจำเป็น หลักสัดส่วน หลักความชอบธรรม และถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปกดดันสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง ศอ.รส.ได้ประสาน กสทช.เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาและจะดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุมที่ได้กระทำผิดกฎหมายดังกล่าว

พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันท์ รองโฆษก ศอ.รส.กล่าวว่า ในส่วนการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานได้แบ่งเป็น 2 ส่วน ในเรื่องการตรวจสอบ หัวกระสุน วิถีกระสุน การชันสูตร ได้มอบหมาย พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) ผบก.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รับผิดชอบดำเนินการ ส่วนการสืบสวนสอบในทางคดีเป็นความรับผิดชอบของ กองกำกับการสืบสวนนครบาล 4 สน.หัวหมาก เสริมด้วยกองคดีอาญา นอกจากนี้จะตรวจสอบกรณีที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 นำเสนอข่าวชายชุดดำก่อเหตุยิงนักศึกษา ม.รามคำแหง โดยตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยได้จัดตั้งที่ทำการส่วนหน้าที่ สน.ประเวศ โดยมี พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ รอง ผบก.น.4 เป็นผู้รับผิดชอบ

ด้าน พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษก ศอ.รส.กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหารและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ช่วยเข้าไปรับตัวนักศึกษา ม.รามคำแหง ออกนอกพื้นที่ นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ทำหนังสือเชิญคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม.ร่วมสังเกตการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของ ศอ.รส.

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจสามารถดูแลรักษาความเรียบร้อยการชุมนุมได้ ยังไม่จำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.มีโทรศัพท์สายตรงขอให้ ผบ.ตร.หยุดการใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น โฆษก ศอ.รส.กล่าวว่า ยืนยันว่าที่ผ่านมาทั้งสองท่านมีการพูดคุยประสานงานกันอย่างใกล้ชิด แต่ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ นอกจากนี้ที่ผ่านมากองทัพไม่เคยมีความเห็นกรณีการใช้แก๊สน้ำตาของตำรวจ เพราะเป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติ ส่วนกรณีที่ ศอ.รส.มีการขอกำลังทหารมาเสริมการทำงานของตำรวจนั้น ทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่ยังขึ้นการบังคับบัญชากับฝ่ายทหาร ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของ ศอ.รส.แต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น