ที่ประชุม ครม.ร้องประชาชนอย่าหลงเชื่อคำชักจูง “สุเทพ” ให้หยุดเสียภาษี ยันไม่กลั่นแกล้งเช็กบิลภาษีม็อบ อนุมัติ 100 ล.แผนงานบริหารจัดการน้ำและคมนาคม จ.พิจิตร อีกด้านรับทราบยกเครื่องปรับปรุงประสิทธิภาพ ขสมก.แต่งตั้ง “โสภณ เพชรสว่าง” ผู้ช่วย รมต.กระทรวงวิทย์
วันนี้ (12 พ.ย.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้แสดงความเป็นห่วงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยุยงให้ประชาชนประท้วงรัฐบาล ด้วยการหยุดการเสียภาษี เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และส่งผลเสียหายต่อประเทศ นายกิตติรัตน์ จึงมอบหมายให้ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ให้หลงเชื่อผู้ที่ยุยงให้ประชาชนทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะการไม่เสียภาษี จะทำให้ประชาชนมีภาระหน้าที่ต้องเสียค่าปรับ หรือค่าธรรมเนียมตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจทำให้ประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในภายหลัง โดยที่ไม่มีใครมารับผิดชอบแทนท่านได้ ไม่ว่าผู้ชักชวนให้กระทำผิดจะเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจมากขนาดไหนก็ตาม และกระทรวงการคลังก็มีหน้าที่ต้องรักษากฎหมายเพื่อรักษาวินัยทางการเงินการคลังของประเทศ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันว่า จะไม่มีการคุกคามหรือกลั่นแกล้งผู้ร่วมชุมนุม โดยใช้มาตรการเก็บภาษี หรือการตรวจสอบภาษีย้อนหลัง นักธุรกิจ นักร้อง นักแสดง หรือการกลั่นแกล้งข้าราชการที่มาร่วมชุมนุมคัดค้านรัฐบาล ตามที่มีการปล่อยข่าวตามเวทีปราศรัยต่างๆ อยู่ในขณะนี้แต่อย่างใด เพราะรัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ และถ้าหากท่านไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย ก็จะไม่มีใครสามารถกลั่นแกล้งท่านได้ โดยทุกท่านจะได้รับปฏิบัติอย่างเป็นธรรม
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแผนงานและโครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำและคมนาคม จ.พิจิตร รวม 6 โครงการ วงเงิน 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับอนุมัติหลักการไว้แล้ว ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือการประชุม ครม.สัญจร ณ จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 9-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมแนวทางในการเสนอแผนงานและโครงการของ จ.พิจิตร ซึ่งมีลักษณะไม่สะเปะสะปะ แต่รวบรวมเนื้องานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำเป็นกลุ่มโครงการเดียวกัน จึงควรใช้เป็นโมเดลสำหรับจังหวัดอื่นๆ ในการนำเสนอแผนงานและโครงการ ไม่ใช่เสนอของบประมาณแบบกระจัดกระจายอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เห็นด้วย และมอบหมายให้ กบอ.และ กระทรวงมหาดไทย ไปวางหลักการเพื่อจัดทำแผนที่ภาพรวมเส้นทางการไหลของน้ำทั่วประเทศ เพื่อเป็นโมเดลในการวางแผนบริหารจัดการน้ำ ทั้งการแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง รวมทั้งในการพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถมองปัญหาอย่างเป็นองค์รวม จะได้แก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ ทั้งยังง่ายต่อการวางแผนจัดสรรงบประมาณและการกำหนดเจ้าภาพผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหา ซึ่งนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย รับปากจะนำไปดำเนินการ โดยจะมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ จัดทำภาพถ่ายดาวเทียมทางอากาศ และมอบข้อมูลให้กับ กบอ.และ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมอบหมายให้สภาพัฒน์ปรับปรุงรูปแบบการจัดประชุม ครม.สัญจร ในปีหน้า โดยให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัด นำเสนอแผนงานและโครงการ ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ หรือเมกะโปรเจกต์ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณ โดยขอให้เสนอโครงการที่สามารถสร้างการพัฒนาขนานใหญ่ เช่น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด หรือแก้ปัญหาขนาดใหญ่ในพื้นที่ หรือโครงการที่จะสามารถสร้างรายได้ใหม่ๆ ในจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด เป็นต้น และขอให้วางยุทธศาสตร์การพัฒนาในระยะยาว โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน และภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาโครงการดังกล่าวด้วย
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำสักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 9 ก.ค.เกี่ยวกับการปรับปรุงการให้บริการรถโดยสารประจำทางรายสายขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ โดยการดำเนินการดังกล่าวประกอบด้วย 1.การนำระบบบริหารงานคุณภาพ ISO9001:2008 มาใช้ในทุกสายการเดินรถที่ปัจจุบัน ขสมก.ได้รับใบรับรองคุณภาพจากมาตราฐานไอเอสโอ ทุกสายการเดินรถ
2.ดำเนินการขันนอตของกระทรวงคมนาคม 7 โครงการ คือ โครงการซ้ายตลอดจอดทุกป้าย สร้างวินัยจราจร โครงการบริการดีมีน้ำใจ สร้างความพึงพอใจ โครงการสายตรวจลดอุบัติเหตุ เป็นมิตรกับประชาชน โครงการรักษ์ท่า รักษ์สะอาด รักษ์ความปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โครงการสร้างวินัยจราจร สร้างความปลอดภัย ที่ป้ายรถโดยสารประจำทาง โครงการบริการดี ขับขี่ปลอดภัยไปกับรถเมล์ฟรี และโครงการนายท่าไอทีประจำทาง
นอกจากนี้ ขสมก.ยังมีการปรับปรุงการปล่อยรถโดยสารประจำทางทุกช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจัดทำแผนการปล่อยรถรายสายจำแนกตามเขตการเดินรถที่ 1-8 อีกทั้ง ดำเนินการนำรถออกวื่งในช่วงเวลา 16.00-20.00 น.ให้ครบร้อยละ 100 ของทุกสายการเดินรถ รวมถึงกำกับดูแลบริษัทเหมาซ่อมรถ ให้ดำเนินการซ่อมบำรุงให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรง และสามารถวิ่งให้บริการได้มากที่สุด
ขณะเดียวกัน ครม.มีมติแต่งตั้ง นายอภิมุข สุขประสิทธิ กรรมการร่างกฎหมายประจำ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา นักบริหารสูง สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา จำนวน 6 คน ได้แก่ 1.นายภาณุ อุทัยรัตน์ ประธานกรรมการ 2.รองศาสตราจารย์ น.อ.ประสงค์ ปราณีตพลกรัง กรรมการ 3.นายนิพนธ์ ฮะกีมี กรรมการ 4.พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ กรรมการ 5.นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล กรรมการ 6.นายอัศม์เดช วานิชชินชัย กรรมการ ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ครม.มีมติเห็นชอบให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี ในวันที่ 11 พ.ย.ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ จำนวน 3 ราย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ 1. นายโสภณ เพชรสว่าง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.นายสิทธิชัย กิตติธเนศวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย 3.นายพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ