ที่ประชุม ครม.สัญจรราชภัฏแปดริ้ว ต่ออายุรถเมล์-รถไฟฟรีอีก 6 เดือน กรอบจำนำข้าวเปลือก 7 ล้านตัน 1.5 แสนล้าน ปรับปรุงเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย จนท.สธ.อนุมัติแผนพัฒนาภาคกลางตอนกลาง 9.2 หมื่นล้าน ต่ออายุผู้ว่าฯ อยุธยาอีก 1 ปี กำแพงเพชรอีก 6 เดือน ตั้งคนสนิท “ปลอดประสพ” รองปลัดกระทรวงวิทย์ อีกด้านไม่พบนำถ้อยแถลงสู้คดีปราสาทพระวิหารให้ ครม.ทราบ
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ อ.เมืองฯ จ.ฉะเชิงเทรา นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รอบแรกของการประชุม ครม.สัญจรนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ โดยเข้าสู่วาระการประชุมนายกรัฐมนตรีได้แจ้งที่ประชุม ครม.ถึงการลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง ซึ่งจะมีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ รองรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน โดยเน้นความเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว จ.ฉะเชิงเทรา จะเป็นศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้าด้านการเกษตร จ.นครนายก จะเป็นพื้นที่เกษตรและแหล่งผลิตอาหาร จ.สระแก้ว เป็นพื้นเศรษฐกิจชายแดนกัมพูชาและเวียดนาม โดยจะให้เมืองอรัญประเทศเป็นเมืองคู่แฝด อรัญ-พนมเปญ และ จ.ปราจีนบุรี จะให้เป็นการพัฒนาแพทย์แผนไทย และสมุนไพร ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ
ส่วนวาระการพิจารณา ที่ประชุม ครม.ได้ให้ความเห็นชอบขยายมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทาง โดยต่ออายุโครงการรถไฟ รถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถึง 30 ก.ย. 2556 วงเงินชดเชย รวม 2,060 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณ จัดสรรงบประมาณชดเชยต่อไป
ทั้งนี้ ครม.ยังเห็นชอบกรอบโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/2556 ครั้งที่ 2 โดยตั้งเป้าปริมาณรับจำนำที่ 7 ล้านตัน เนื่องจากประสบภาวะภัยแล้ง โดยใช้วงเงิน 105,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่อยู่ในกรอบวงเงินรับจำนำข้าว 410,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับจำนำตั้งแต่เดือน ก.พ. ถึง 15 ก.ย. 2556 ระยะเวลาการไถ่ถอน 4 เดือน โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกใบประทวน ทำสัญญา และจ่ายเงินให้เกษตรกรภายใน 3 วัน
นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการศึกษาทวิภาคีไทย-เยอรมนีสู่ความเป็นเลิศระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สาระสำคัญคือจะร่วมกันมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันในการพัฒนาการศึกษาทวิภาคีของไทย โดยใช้ระบบการศึกษาวิชาชีพของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีที่มีชื่อเสียงเข้ามาช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้แก่ระบบการอาชีวศึกษาที่มีอยู่ของไทย
โดยในระยะแรกบริษัทเอกชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทเยอรมนี เช่น บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) บริษัท บ๊อช (Bosch) และบริษัท บีกริม (B.Grimm) จะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดหลักสูตรการอาชีวศึกษาขึ้นภายในวิทยาลัยอาชีวศึกษาของไทยที่ได้รับคัดเลือก โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของกรอบหลักสูตรที่เกิดจากการประสานร่วมกันเป็นอย่างดีของทั้งสองฝ่าย โดยนักเรียนอาชีวศึกษาจะได้มีโอกาสในการศึกษาในวิทยาลัยและฝึกปฏิบัติในบริษัทอย่างสมดุล และมีการจัดทำรูปแบบของสัญญา (ค่าตอบแทนและทุนการศึกษา) ในระหว่างการฝึกปฏิบัติงานด้วย
อีกด้านหนึ่ง ครม.มีมติการขยายเวลาความตกลงโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านการศึกษา วิทยาลัยกำปงเชอเตียล และโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านสาธารณสุข การควบคุมโรคมาลาเรียและโรคอื่นๆ ที่มียุงเป็นพาหะ
ด้าน รท.หญิง สุณิสา เลิศภัควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเเห็นชอบให้ กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการทำบันทึกความร่วมมือระหว่างส่วนราชการที่มีอำนาจรับผิดชอบของรัฐบาลแห่งญี่ปุ่น กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข่าวสารสำหรับการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ ร่างบันทึกความร่วมมือฯ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่มีอำนาจรับผิดชอบของฝ่ายไทยและญี่ปุ่น โดยเน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ข้อมูลที่แลกเปลี่ยนระหว่างกันในการเข้าถึงและการใช้ข้อมูล การรักษาความปลอดภัยและความลับของข้อมูล รวมทั้งกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูล
นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบหลักการปรับปรุงอัตราเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตามหลักของสภาพพื้นที่ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 56 เป็นต้นไป พร้อมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ศึกษาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราค่าตอบแทนใหม่ก่อนนำเสนอ ครม.พิจารณาเพื่อปรับหลักเกณฑ์ขั้นที่ 2 ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนงบประมาณของแผ่นดิน จึงให้มีการจัดสรรการจ่ายเบี้ยเลี้ยง โดยใช้เงินจากการให้บริการสาธารณะของแต่ละพื้นที่ ในแต่ละจังหวัดไปก่อนที่ ครม.จะอนุมัติ
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณ เสนอแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง จำนวน 224 โครงการ งบประมาณกว่า 92,000 ล้านบาท โดยมีโครงการที่สามารถดำเนินการได้ทัน 17 โครงการ วงเงินงบประมาณ 622 ล้านบาท
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า ในที่ประชุม ครม.ไม่มีการนำถ้อยแถลงการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารต่อศาลโลกของกระทรวงต่างประเทศ ให้ ครม.รับทราบ
ส่วนนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติต่ออายุราชการผู้ว่าราชการจังหวัดตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยต่ออายุราชการนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีก 1 ปี ตั้งแต่ 7 เม.ย. ถึง 6 เม.ย. 2557 และต่ออายุราชการผู้ว่าราชการนายวันชัย สุทิน ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ที่เกษียณอายุราชการออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่ 7 เม.ย. ถึง 30 ก.ย. 56
ขณะที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่งตั้ง น.ส.อัจฉรา วงศ์แสงจันทร์ รองเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ซึ่งมีความสนิทสนมกับนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แทนนายสุทธิเวช ตอแสงจันทร์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ที่ถูกแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจราชการ
