xs
xsm
sm
md
lg

กบง.ถกพรุ่งนี้จ่อตรึงราคาแอลพีจีอีก 2 เดือน เล็งขึ้น มิ.ย. 56

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กบง.” ถกด่วนพรุ่งนี้ เคาะขยายมาตรการตรึงราคาแอลพีจีครัวเรือน-ขนส่งออกไปอีก 1-2 เดือน คาดจะไปขยับได้เร็วสุด มิ.ย. 56 หลังข้อมูลสรุปผลสำรวจกลุ่มที่จะได้รับการช่วยเหลือยังไม่เสร็จ และการจ่ายเงินผ่านบิลค่าไฟส่อปัญหาเรื่องจ่าย VAT คาดจะใช้โอนผ่านบัญชีตรง

นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือแอลพีจี ภาคครัวเรือน ว่าวันที่ 29 มี.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อพิจารณาแนวทางการขยายมาตรการตรึงราคาแอลพีจีครัวเรือนจากมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบตรึงไว้ถึง 31 มี.ค.นี้ แต่จะเลื่อนไปถึงเมื่อใดขึ้นอยู่กับ กบง.จะพิจารณารวมถึงแนวทางและมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่จะได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาด้วย

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ภาพรวมของแนวทางการศึกษาปรับขึ้นราคาแอลพีจีคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน ดังนั้น การปรับขึ้นราคาอาจจะเร็วสุดภายในเดือนมิถุนายน โดยหากจะปรับขึ้นราคาทุกเดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนธันวาคม ราคาแอลพีจีครัวเรือนที่ขณะนี้อยู่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม อาจจะปรับขึ้นกิโลกรัมละ 95 สตางค์ต่อเดือน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ กบง.ว่าจะปรับราคาขึ้นอย่างไร เช่น อาจจะปรับราคาทุกเดือน หรือทุกไตรมาส หรือปรับราคาครั้งเดียว สุดท้ายแล้วราคาในสิ้นปีจะอยู่ที่ 24.82 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี

“ตามแผนเดิมราคาแอลพีจีทั้งครัวเรือน และขนส่ง จะไปสู่เป้าหมายที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้นก็คงจะต้องขึ้นอยู่กับ กบง.ว่าจะเคาะแนวทางการปรับราคาออกมาอย่างไร” แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ กบง.มาหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือภาคครัวเรือนและการบรรเทาผลกระทบกลุ่มครัวเรือนรายได้น้อย ร้านค้าหาบเร่แผงลอยอาหาร ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากการขึ้นราคา โดยเบื้องต้นสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ศึกษาแนวทางช่วยเหลือโดยจะนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุนในรูปแบบการไม่ปรับราคาแก่ครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน อัตราเดือนละไม่เกิน 6 กิโลกรัม และอุดหนุนร้านค้าหาบเร่แผงลอยอาหารในอัตราการใช้ก๊าซตามจริงแต่ไม่เกิน 150 กิโลกรัมต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม สนพ.ได้ศึกษารูปแบบการชดเชยเงิน ซึ่งอาจจะใช้วิธีการโอนเงินเข้าบัญชีหรือผ่านบิลค่าไฟฟ้า ซึ่งกรณีผ่านบิลไฟฟ้าขณะนี้เกิดปัญหาว่าจะมีผลกระทบเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มีข้อกำหนดในการนำเงินไปช่วยเหลือภาคประชาชน ในขณะนี้กระทรวงพลังงานจึงได้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าสามารถนำเงินกองทุนน้ำมันไปอุดหนุนประชาชนได้หรือไม่ หากพบว่าทำไม่ได้ทาง กบง.ก็จะต้องพิจารณาว่าจะนำเงินส่วนใดไปอุดหนุน
กำลังโหลดความคิดเห็น