"ปึ้ง" รายงานถ้อยแถลงคดีเขาพระวิหารใน ครม.สัญจรที่ฉะเชิงเทรา ยันไม่ยกประเด็นอ่อนไหวขึ้นเวที สั่งช่อง11 ถายทอดสด "ปู" อ้างสู้เต็มที่ ก่อนเห็นชอบแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง 9.2 หมื่นล้าน แจกงบ 5 จังหวัดภาคกลางจังหวัดละ 100 ล้าน พร้อมเดินหน้าจำนำข้าวต่ออีก 7 ล้านตัน วงเงิน 1 แสนล้าน ขณะที่ประชาชนได้เลขเด็ดไว้แทงหวย ทั้งเลข ฮ. และทะเบียนรถที่นายกฯ นั่ง
เมื่อวานนี้ (31มี.ค.) มีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ครั้งที่ 13 ที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม โดยนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งที่ต่อประชุมถึงการลงพื้นที่ กลุ่มมจังหวัดภาคกลาง ตอนกลาง ซึ่งจะมีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน โดยเน้นความเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว โดยมี จ.ฉะเชิงเทรา เป็นศูนย์กลาง การขนส่ง และกระจายสินค้าด้านการเกษตร จ.นครนายก จะเป็นพื้นที่เกษตร และแหล่งผลิตอาหาร จ. สระแก้ว เป็นพื้นเศรษฐกิจ ชายแดนกัมพูชา และเวียดนาม โดยจะให้เมืองอรัญประเทศ เป็นเมืองคู่แฝด อรัญประเทศ-พนมเปญ และจ.ปราจีน จะให้เป็นการพัฒนาแพทย์แผนไทย และสมุนไพร ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ซึ่งที่ประชุมครม. ได้ชอบตามที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ เสนอแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลาง ตอนกลาง จำนวน 224 โครงการ งบประมาณกว่า 9 หมื่น 2 พันล้านบาท โดยมีโครงการที่สามารถดำเนินการได้ทัน 17 โครงการ วงเงินงบประมาณ 622 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ได้อนุมัติงบประมาณให้กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง 5 จังหวัด เฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ นอกจากนี้ยังมีงบที่จะพัฒนากลุ่มจังหวัดอีก 100 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมโครงการที่เสนอนอกกรอบประมาณ ที่จะต้องไปทำรายละเอียด และพิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.ได้ให้ความเห็นชอบ ขยายมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน โดยต่ออายุโครงการ รถไฟ รถเมล์ฟรี เพื่อประชาชน อีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถึง 30 ก.ย.56 วงเงินชดเชยรวม 2,060 ล้านบาทโดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณมาชดเชยในส่วนนี้
ที่ประชุม ครม.ยังได้เห็นชอบกรอบโครงรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/2556 ครั้งที่ 2 โดยตั้งเป้าปริมาณรับจำนำ ที่ 7 ล้านตัน เนื่องจากประสบภาวะภัยแล้ง โดยใช้วงเงิน 105,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่อยู่ในกรอบวงเงินรับจำนำข้าว 4 แสน 1 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มรับจำนำตั้งแต่เดือนก.พ. ถึง 15 ก.ย. 56 ระยะเวลาการไถ่ถอน 4 เดือน โดย ธกส.ออกใบประทวน ทำสัญญา และจ่ายเงินให้เกษตรกรภายใน 3 วัน
**"ปู"ลั่นสู้เต็มที่คดีปราสาทพระวิหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสุดท้ายของการประชุมครม.ครั้งนี้ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม. ได้ขอให้ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงเจ้าหน้าที่ ออกจากห้องประชุมทั้งหมด โดยจะมีเพียงรัฐมนตรี และ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) อยู่ในห้องประชุมเท่านั้น
จากนั้นนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ได้รายงาน เรื่องถ้อยแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกในคดีปราสาทพระวิหาร ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-19 เม.ย.นี้ ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยนำเสนอครม. เป็นวาระจร เพื่อขออนุมัติจากที่ประชุุม ซึ่งภายหลังจากการรายงานเสร็จ นายกฯได้ขอทีมกฎหมายต่อสู้คดีเขาพระวิหาร สู้คดีอย่างเต็มที่
ขณะที่ภายหลังการประชุมครม.ไม่มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ โดยบอกว่าให้เป็นหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจง
** หลีกเลี่ยงประเด็นที่อ่อนไหว
อย่างไรก็ตาม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ก่อนการเข้าประชุมครม. ว่า จะนำถ้อยแถลงด้วยวาจา ชี้แจงในที่ประชุมให้ครม.และคณะทีมงานที่จะร่วมเดินทางไปศาลโลกเพื่อพิจารณาคดี ให้รับทราบ หลังจากเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว โดยถ้อยแถลงดังกล่าว ได้เตรียมการต่อสู้ไว้ในทุกประเด็น ที่ทุกฝ่ายมีความห่วงใย ซึ่งตนมีความมั่นใจในการต่อสู้คดีครั้งนี้ ส่วนประเด็นที่มีความอ่อนไหวนั้น จะมีการเตรียมคำอธิบาย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน
"สำหรับรายละเอียดที่เตรียมการไว้นั้น จะเป็นหัวข้อในภาพกว้างๆเท่านั้น โดยรายละเอียดเราไม่สามารถระบุลงเน้นได้ เพราะถือว่ายังเป็นความลับอยู่ ส่วนประเด็นที่ทุกฝ่ายมีข้อห่วงใยนั้น เราจะไม่หยิบยกขึ้นมาต่อสู้"
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการแถลงต่อศาลโลกครั้งนี้ และอยากให้ประชาชนร่วมกันติดตามการถ่ายทอดสดการพิจารณาคดี ซึ่งจะมีการส่งสัญญาณถ่ายทอดสดจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ มายังประเทศไทย โดยสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 พร้อมทั้งมีการแปลภาษาแบบคำต่อคำ ตลอดการพิจารณาคดี โดยเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ด้วย อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ในการแปลสารผ่านสัญญาณดาวเทียมทั้ง 2 ประเทศ เพื่อให้มีความถูกต้อง และแม่นยำ รวมไปถึงมีทีมกฎหมายคอยสรุปประเด็นสำคัญๆ ทุกช่วงเย็นในแต่ละวันผ่านทางช่องทางที่มีการส่งสัญญาณ เพื่อป้องกันความผิดพลาดในถ้อยแถลงดังกล่าว เนื่องจากบางคำ เป็นคำพูดในข้อกฎหมาย
**นมัสการหลวงพ่อโสธรเอาฤกษ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. ก่อนการประชุมครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสานักนายกฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.คมนาคม น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้เข้ากราบนมัสการ หลวงพ่อพุทธโสธร ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร โดยมี นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้า แม่ค้า ประชาชน และคนเสื้อแดงจำนวนมาก มารอให้การต้อนรับ และมอบดอกกุหลาบเป็นกำลังใจ
จากนั้น นายกฯได้เข้ากราบนมัสการ และขอพรจากพระราชมงคลรังษี เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร และเจ้าคณะอำเภอบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยนายกฯ กล่าวว่า ดีใจที่มีโอกาสได้มากราบนมัสการท่าน ก่อนที่จะมีลูก และช่วงที่หาเสียง ก็ได้มากราบหลวงพ่อ ครั้งนี้มาประชุมครม. เลยถือโอกาสมากราบไหว้ขอพร
ขณะที่เจ้าอาวาสฯ ได้กล่าวให้พรว่า ขอให้ท่านโชคดี ก็ไม่มีอะไร เพราะเป็นคนโชคดีอยู่แล้ว ส่วนคนโน้น ยังไม่โชคดี (ชี้ไปยังนายจาตุรนต์ ซึ่งนั่งอยู่ข้างนายกฯ) แล้วบอกว่า นายจาตุรนต์เป็นหลาน เพราะเป็นลูกเพื่อน จากนั้นเจ้าอาวาสได้ชี้ไปยัง นายนายเริงศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมกล่าวว่า คนนี้ยิ่งเก่ง ขณะที่นายกฯ กล่าวถามท่านเจ้าอาวาสฯ ว่า "ส่งมาถูกคนใช่ไหมคะ" ตอนนี้รัฐบาลกำลังจะมีโครงการช่วยพัฒนาเรื่องถนนเข้ามายังวัด เพื่อเชื่อมสถานที่ท่องเที่ยว เพราะวัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และทุกคนอยากมากราบไหว้ จะไปดูในเรื่องของจราจร
ขณะที่เจ้าอาวาสฯ กล่าวว่า เวลานี้ถนนหนทาง แย่มาก หากเล็งเห็นความสำคัญตรงนี้คงดี เพราะถนนทุกจุดจะมาลงที่นี้ ทั้งที่มาจากอีสาน และที่ลงมาจากมอเตอร์เวย์ ก็มาลงที่นี้ เป็นเส้นทางลัดมากที่สุด แต่ละวันมีจำนวนรถหลายพันคัน ส่วนที่ดินบริเวณนี้ เป็นของวัด กำลังรอให้ผู้ว่าฯ ปรับปรุงให้ และกำลังดำเนินการทำเขื่อนบริเวณชายน้ำ ที่ติดกับโรงเรียนของวัด ซึ่งมีพื้นที่ยาวมาก กำลังทำการขยายพื้นที่รองรับการขยายโอกาสสู่เวทีอาเซียน
จากนั้นนายกฯได้หันไปสั่งผู้ว่าฯ ขอให้ไปดู เพื่อทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน ขณะที่ท่านเจ้าอาวาส กล่าวว่า ถ้าเราทำได้ก็เป็นเรื่องที่ดี วัดช่วยได้ แต่ไม่ได้มากเท่าไร ไม่เหมือนรัฐบาล ทำตามกำลังศรัทธาประชาชน ให้เท่าไร ก็ทำให้ดี เราก็ช่วยรัฐบาลไปบ้าง ตอนนี้หนักในเรื่องของท่าน้ำบางปะกง ที่จะมีการทำเขื่อน เทพื้นบนเกือบหมดแล้ว และวันที่ 24 เม.ย. เป็นวันอัญเชิญหลวงพ่อโสธรขึ้นจากแม่น้ำบางปะกง มาอยู่ที่วัด ซึ่งอยู่ที่วัดมา 243 ปีแล้ว จากนั้นพระราชมงคลรังษี ได้ให้พรนายกฯ โดยขอให้มีความสุขความเจริญ ทำอะไรก็ขอให้ก้าวหน้า เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป ขอให้โชคดี พร้อมได้มอบพระพุทธรูปหลวงพ่อพุทธโสธรจำลอง หน้าตักกว้าง 5 นิ้ว และเหรียญหลวงพ่อพุทธโสธร ให้กับนายกฯ และรัฐมนตรี
**เดินชิม-ช็อปตลาดหน้าวัด
จากนั้น นายกฯ และคณะ ได้เดินข้ามไปยังฝั่งตลาดโสธร ที่อยู่บริเวณหน้าวัด เพื่อสำรวจตลาด และจับจ่าย อาหารคาว หวาน หลายชนิด อาทิ ปลาเนื้ออ่อนกรอบ ปลาร้าคั่วกลิ้ง ขนมจาก และข้าวหลาม โดยระหว่างที่เดินซื้อของนั้น ก็ได้รับความสนใจจากพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่เดินภายในตลาดอย่างคึกคัก พร้อมกันนี้ยังได้เดินไปยังจุดขายของแก้บน ที่ทางวัดจัดไว้บริการประชาชน
ทั้งนี้ นายกฯ ได้เลี่ยงที่จะแวะทักทายพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนบริเวณจุดขายสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมยกมือป้องปาก และกล่าวกับ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ว่า "ไม่กล้าไปตรงที่ขายลอตเตอรี่ กลัวมาก" จากนั้นนายกฯ ได้เดินทางไปร่วมประชุมครม. ที่มหาวิทยาลัยนราชภัฏราชนครินทร์
**คอหวยได้เลขเด็ดทะเบียนรถ"ปู"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ นายกฯได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว และ จ.ฉะเชิงเทรา โดยแต่ละพื้นที่ ที่นายกฯเดินทางไปนั้น ประชาชนจะให้ความสนใจเกี่ยวกับ เลขทะเบียนรถยนต์ ที่ใช้เป็นพาหนะ ซึ่งในภารกิจครั้งนี้ เริ่มที่นายกฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ หมายเลข 2904 เพื่อเดินทางไปยัง จ.สระแก้ว และใช้รถยนต์ทะเบียน กข 555 ปราจีนบุรี 4934 จ.ฉะเชิงเทรา ฆภ 6594 และ ญน 4324 ทำให้ล็อตเตอรี่ที่มีเลขท้ายตรงกับเลขทะเบียนรถนายกฯ ราคาพุ่งพรวด.