รัฐมนตรีใหม่โชว์วิสัยทัศน์การทำงานผ่านรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ต่างยืนยันทำงานตามแนวนโยบายของรัฐบาล พร้อมป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ในช่วงที่ 2 วันนี้ (6 ก.ค.) ได้เชิญคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งมาแสดงวิสัยทัศน์ในการทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รวมทั้งแนวทางในการสานต่อการประกาศเจตนารมณ์ของรัฐบาล ในการเดินหน้าต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าตน มีความตั้งใจอย่างสูงในการที่จะเข้าไปพัฒนาระบบงานทั้งหลาย ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและโปร่งใส เพื่อปิดช่องโหว่ทั้งหลายที่อาจจะมีช่องทางในการทุจริตคอรัปชั่น นี่จะเป็นเป้าหมายหลักในการดำเนินการ นอกจากนั้นเราสามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการทำงาน เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ผมเป็นผู้ที่เริ่มโครงการมาตั้งแต่แรก 1 ปีที่ผ่านมา เชื่อมั่นว่าสามารถนำมาใช้กับกระทรวงพาณิชย์และทำให้ภารกิจของกระทรวงพาณิชย์เป็นไปด้วยความสำเร็จ
ส่วนโครงการรับจำนำข้าวที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้นั้น นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะมีทีมงานที่แข็งแรง มีนายยรรยง พ่วงราช นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรัฐมนตรีช่วยฯ และข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ที่เมื่อวันก่อนไปเยี่ยมกระทรวงฯ ซึ่งมีความคึกคักที่จะร่วมกันทำงานเป็นทีม เพื่อจะสานต่อภารกิจของกระทรวงฯ ให้ก้าวหน้าประสบความสำเร็จ
ด้านนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสิ่งที่อยากจะทำเป็นสิ่งแรกที่เข้ารับตำแหน่งคืออะไร ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของคณะรัฐมนตรี ต้องขอชื่นชมท่านนายกรัฐมนตรีที่ได้ประกาศเจตนารมณ์วันนี้เพิ่มเติม เรื่องการทุจริตคอรัปชั่นตนคิดว่าทุกกระทรวงน่าจะมีในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างด้วยการประมูล หรือการดำเนินงานที่ใช้งบประมาณของรัฐ ความตั้งใจ คือต้องการให้เป็นแนวทางเดียวกับท่านนายกรัฐมนตรีที่ได้บอกไว้ ในเรื่องการเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นผู้ที่จะมาสังเกตการณ์ในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง หน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาจจะมีแต่คงไม่มากนัก เชื่อมั่นว่าถึงแม้จะไม่มากเราก็จะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องหนี้สินนั้น นายวราเทพ กล่าวว่า มี 2 ส่วนที่เป็นกฎหมายรองรับและที่เป็นเรี่องที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ส่วนที่มีกฎหมายรองรับคงต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอน ที่ผ่านมาอาจจะช้าอยู่บ้างก็คงต้องเร่งรัดให้เกิดกระบวนการเป็นรูปธรรม
ส่วนที่ไม่มีกฎหมายรองรับไว้ยังไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจนก็จะมีการพัฒนา เพื่อให้เกิดความเข้มข้น เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมและจะทำให้เกิดความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น สิ่งที่นอกเหนือจากการช่วยเหลือเรื่องหนี้สิน คือการเพิ่มรายได้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คงเป็นกระทรวงที่เป็นต้นน้ำที่จะทำในเรื่องการผลิต เพื่อทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการเพาะปลูก จากการลดต้นทุน จากการทำอาชีพที่ส่งเสริมให้เหมาะสมกับพื้นที่ ที่นายกรัฐมนตรีได้พูดเสมอว่าอยากทำเรื่องเกษตรโซนนิ่ง
ด้านเกษตรโซนนิ่งนั้น นายวราเทพกล่าวว่า ต้องเรียนว่าการทำเกษตรโซนนิ่ง อาจจะเป็นเรื่องที่พูดกันมานานและเป็นเรื่องที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ความตั้งใจจริงของรัฐบาลนี้ต้องการที่จะทำให้เกิดผลอย่างชัดเจน เชื่อมั่นว่าถึงโอกาสแล้วรัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุน เกษตรกรอาจมีความรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยาก แต่เชื่อว่าถ้าได้มีการศึกษาพูดคุยอย่างชัดเจน ขณะนี้ข้อมูลทางด้านวิชาการ เพื่อให้เกษตรกรได้มีความเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนพืชในการเพาะปลูกจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ตรงนี้ทำให้เกิดเป็นรูปธรรมและจะเริ่มนำร่อง ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายนำร่อง ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือจะเริ่มที่กำแพงเพชรก่อน
ขณะที่นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นในการประกาศเรื่องการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงฯ ในฐานะที่มาดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเริ่มต้นที่กระทรวงฯ คิดว่าการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นจะเป็นส่วนที่ส่งเสริมให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองและมีคนดีขึ้นมาปกครองประเทศ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเริ่มต้นจากการป้องกัน รักษา และฟื้นฟู ป้องกันคือไม่ให้คนบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร ทะเลชายฝั่ง หลังจากนั้นต้องมีการรักษาสภาพแวดล้อม เพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ประโยชน์ ผู้ที่ช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมควรได้ใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมนั้น ส่วนผู้ที่ทำให้เกิดผลเสียต่อสภาพแวดล้อมจะต้องมีบทลงโทษ ซึ่งจะต้องดูเรื่องกฎหมายด้วย ต้องมีบทลงโทษที่เข้มงวดมากขึ้น และฟื้นฟูในส่วนที่ถูกทำลายไปต้องเริ่มฟื้นฟู
เมื่อถามว่า มีอะไรอยากจะพูดถึงข้าราชการในกระทรวงบ้าง นายวิเชษฐ์ กล่าวไปยังข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ว่า วันนี้คิดว่าระบบคุณธรรมในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมข้าราชการที่มุ่งมั่นทำงานด้วยความเสียสละ ตรงนี้จะทำให้เจริญก้าวหน้า ฉะนั้นระบบคุณธรรมจะทำให้มีความตั้งใจ ทุ่มเท เพื่อให้องค์กรเจริญก้าวหน้า สุดท้ายจะทำให้เกิดผลประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ
ขณะเดียวกัน นายพ้อง ชีวานันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในฐานะที่มาดูแลกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีบทบาทในโครงการต่างๆ มากมาย และมีการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะการที่มีโครงการ 2 ล้านล้าน เข้ามาอีก ทำให้เป็นที่จับตามองของสังคม ผมดีใจอย่างยิ่ง ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ประกาศเจตนารมณ์อีกครั้ง ในครั้งนี้ต้องการผลักดันให้เป็นรูปธรรมให้ได้ คิดว่าการที่กระทรวงคมนาคมจะต้องร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยกันทำเรื่องนี้ให้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากการสร้างสรรค์ผลงาน
สำหรับโครงการนำร่องในการต่อต้านทุจริตคอรัปชั่นก็อยู่ที่กระทรวงคมนาคม รถเมล์ NGV ก็อยู่ที่กระทรวงของท่านเหมือนกัน เรื่องของวิสัยทัศน์ในการทำงานท่านเองตั้งใจจะเข้ามาทำงานที่กระทรวงนี้มีเรื่องไหนที่อยากผลักดันมากที่สุด นายพ้องกล่าวว่า คงเป็นในทุกๆ เรื่อง ถ้าหากว่าเรามีความกล้าที่จะคิด กล้าในการที่จะทำ และทุกเรื่องน่าจะสามารถขับเคลื่อนไปโดยทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนหลักการและเหตุผลที่สามารถอธิบายต่อสาธารณะชนได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเล็กหรือโครงการใหญ่ ถ้ารัฐบาลทำตรงนี้ให้เป็นที่ประจักษ์กับพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าสังคมยอมรับได้ในทุกๆ เรื่อง ที่รัฐบาลดำเนินไป
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ในเชิงมูลค่าการค้า อย่างเช่น ส่งออก มีมูลค่าปีหนึ่งประมาณ 7 ล้านล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่าไล่เลี่ยกันประมาณ 6 ล้านล้านบาท ทั้งการค้าในประเทศประมาณ 3-4 ล้านล้านบาท ทุกๆ ปี เพราะฉะนั้นจะมีแรงจูงใจที่ก่อให้เกิดขบวนการทุจริตคอรัปชั่นได้มากทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ฉะนั้นเป็นนิมิตหมายที่ดีที่รัฐบาลได้เริ่มเอาจริงเอาจังกับการที่จะขจัดการทุจริตคอรัปชั่น ให้เกิดขึ้นกับรัฐบาลนี้อย่างจริงจัง ผมคิดว่าจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศที่แท้จริง เพราะว่าถ้าประเทศไทยสามารถลดหรือขจัดทุจริตคอรัปชั่นก็เท่ากับการลดไขมันของระบบการพัฒนาระบบเศรษฐกิจลง การค้าของประเทศก็จะมีแต่กล้ามเนื้อ ก็จะมีความเข้มแข็ง แข็งแรงขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ เพราะจะทำให้เราสามารถที่จะเรียกได้ว่าความร่ำรวยมาสู่ประเทศได้ ขณะเดียวกันประชาชนจะมีความอยู่ดีกินดี มีรายได้มากขึ้น เพราะประเทศสามารถลดส่วนที่เป็นไขมันออกไป ผมคิดว่าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศ โดยรัฐบาลที่ได้ประกาศเจตนาที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นแบบนี้ก็จะทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นางเบญจา หลุยเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในฐานะที่เคยผ่านงานมาไม่ว่ากรมจัดเก็บทั้ง 3 กรม และเคยได้ดูแลกรมธนารักษ์ รวมทั้งสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ ก็ทำให้มองเห็นภาพรวมของกระทรวง ซึ่งทำให้เป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะใช้โอกาสในการที่ได้ผ่านงานเหล่านั้นมาบูรณาการกระทรวงการคลัง ทำให้มองเห็นรูปแบบการทำงาน คิดว่าจะสามารถผลักดันงานของกระทรวงการคลังให้เป็นไปตามนโยบายได้
สำหรับเรื่องเร่งด่วนที่อยากดำเนินการนั้น นางเบญจากล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนซึ่งปรากฏอยู่เรื่อยๆ คงจะเป็นทาง 3 กรมจัดเก็บ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรถจดประกอบของกรมสรรพสามิต เรื่องของรถยนต์หรูที่เปิดเผยตัวเลขต่ำกว่าราคาศุลกากรและเรื่องคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร ซึ่งการบูรณาการงานของ 3 กรม จัดเก็บจะทำให้มองเห็นภาพว่าเกิดการทุจริตหรือช่องโหว่ตรงไหน แล้วดึงมาปรับปรุงและบริหารจัดเก็บต่อไป
นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า นับเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ในการรณรงค์และต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งและสิ่งที่ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนภายใต้การนำของท่านนายกฯ ซึ่งตรงนี้สิ่งที่เราเห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนก็คือ การรณรงค์การยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี และผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมทุกรูปแบบ
นางปวีณากล่าวต่อว่า นโยบายของรัฐบาลชัดเจน สิ่งที่สำคัญก็คือการรับเรื่องทุกเรื่อง เพราะเรื่องเหล่านี้ถ้ารัฐบาลไม่รับ รัฐบาลจะไม่รู้ว่าประชาชนทุกข์อะไร รุก คือ เชิงรุก หมายความว่า รัฐบาลต้องเดินหน้าและทำงานโดยที่จะต้องเข้าไปหาประชาชน ไม่ใช่นั่งอยู่แต่ที่กระทรวงหรือว่าหน่วยงาน ข้าราชการหรือราชการในรัฐบาลจะต้องเข้าไปหาประชาชน เพื่อจะได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และทันท่วงที คือสิ่งที่รัฐบาลทำจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็วอย่างฉับไว ณ ตอนนี้เชื่อมั่นว่าการทำงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราจะต้องช่วยเหลือเขาไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ OSCC One Stop Crisis Center (ศูนย์ช่วยเหลือสังคม เพื่อช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ) คือการช่วยเหลือทุกรูปแบบและการช่วยเหลือครบวงจร ซึ่งท่านนายกฯ ท่านได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้และได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือแล้วเป็นเครือข่ายทั่วประเทศด้วยกัน ระดับ 2 คือ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาสังคม
นโยบายตรงนี้ต้องจับมือกับทุกกระทรวงไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงต่าง ๆ ตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการทำงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราจะต้องประสานงานไม่ใช่เฉพาะกระทรวงตนเอง แต่ต้องประสานงานของทั้งภาครัฐกระทรวงทุกกระทรวง เอกชน ประชาชนต้องมีส่วนร่วมด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเดินหน้าอย่างรวดเร็วและฉับไว
ส่วนการเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนที่กระทรวง 24 ชม.นั้น นางปวีณากล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะไปเป็นประธานเปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 24 ชม. คือ OSCC ครบวงจร เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะทำเครือข่าย ซึ่งนโยบายของท่านนายกฯ ได้ทำ OSCC ทั่วประเทศอยู่แล้ว ก็ถือโอกาสเชิญชวนพี่น้องประชาชนได้ร่วมกันเข้าร่วมแจ้งเบาะแสให้กับรัฐบาลของเรา ให้กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐบาลจะได้เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เต็มที่ และแน่นอนที่สุดการพัฒนา รัฐบาลมีโครงการดี ๆ ที่จะให้การพัฒนา อย่างเช่น กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ก็เช่นเดียวกัน นั้นคือการพัฒนาประชาชนและพัฒนาประเทศต่อไป
นายพีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า อยากจะกราบเรียนพี่น้องประชาชน เท่าที่ผ่านมาทุกๆ อย่างจะเห็นว่าวิทยาศาสตร์จะเป็นหลักของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ผมเข้ามารับตำแหน่งในช่วงกลางปีของรัฐบาล เป็นปีที่ 2 แล้วของรัฐบาล เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐมนตรีท่านก่อนที่ได้เคยทำไว้ก็จะดำเนินการต่อไป และจะดำเนินการเพื่อตอบโจทย์ของประเทศให้มากขึ้น ผมขอยกตัวอย่างเช่นเมื่อวานนี้ ท่านนายกฯ ได้บอกผมว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์มีการวิจัยเรื่องข้าวไว้ สั่งให้ไปดูรายละเอียด น่าจะเอาเรื่องข้าวเหล่านี้ เอาผลวิจัยเหล่านี้มาพัฒนาเรื่องข้าวได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่อยากจะบอกพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงวิทยาศาสตร์
ทั้งหมดนี้รัฐบาลต้องการเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเรียกว่าเป็นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตของประเทศไทยของเรา ที่กระทรวงวิทย์ฯ ผมดีใจมากที่ไปดูแล้วรัฐบาลมีนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งๆ เรียกว่าคนเก่งของประเทศเป็นร้อย เป็นพัน อยู่ที่กระทรวงวิทย์ฯ จะขอให้ท่านเหล่านี้ช่วยตอบโจทย์ให้กับประเทศก็คือจะนำเอาปัญหาของรัฐบาล ปัญหาของพี่น้องประชาชนว่าท่านต้องการหาความรู้ในเรื่องใด เพื่อจะนำไปพัฒนาผลผลิตของท่าน กระทรวงวิทย์ฯ จะช่วยให้คำตอบ ขณะเดียวกันเนื่องจากการวิจัยไม่ได้อยู่ในกระทรวงวิทย์ฯ เท่านั้น ยังมีอยู่ในสถาบันมหาวิทยาลัยอีกมาก อยู่ข้างนอกมาก ก็จะให้มีการร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อจะให้มีการวิจัยที่ตรงกับโจทย์ของประเทศและนำความรู้เหล่านี้ไปพัฒนาประเทศต่อไป
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าตนได้รับมอบหมายงานในด้าน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งงานคุ้มครองผู้บริโภคก็สอดรับกับที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ ในการไม่มีการคอร์รัปชั่น และให้การกระทำทุกอย่างมีความโปร่งใส มีความเป็นธรรม ในด้านการคุ้มครองผู้บริโภคก็เช่นเดียวกัน ต้องลงไปดูในเรื่องของการคุ้มครองเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภค เช่น มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ปริมาณ ความสด ใหม่ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นการคุ้มครองเพื่อไม่ให้ผู้บริโภคถูกผู้ประกอบการเอาเปรียบ สิ่งเหล่านี้ก็ยังไปสอดรับกับการประกาศเจตนารมณ์ของการคอร์รัปชั่นในภาคเอกชน นักลงทุนที่จะมีต่อผู้บริโภคด้วย
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องของการประกาศสงครามกับทุจริตคอร์รัปชั่น ท่านนายกรัฐมนตรีได้ย้ำไว้ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับทราบว่าจะได้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี พร้อมที่จะปฏิบัติตามและมั่นใจอย่างยิ่งว่า วันนี้ที่พวกเราทุกคนรวมถึงท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศออกไปให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ ซึ่งเป็นสิ่งที่กล้าหาญ เพราะในการที่จะดึงบุคคลภายนอก นักวิชาการต่าง ๆ เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องการที่จะเห็น และรัฐบาลนี้ก็กล้าที่จะประกาศว่า ให้บุคคลภายนอกเข้ามาร่วมกันตรวจสอบในการทำงานของพวกเรา
ส่วนในเรื่องของกระทรวงสาธารณสุข เป็นกระทรวงที่จริงๆ แล้ว อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน รองลงมาจากกระทรวงมหาดไทย เพราะคุณหมอที่อยู่ตามชนบท ที่อยู่ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในต่างจังหวัดต้องรับมือกับพี่น้องประชาชนที่เข้ามารับการรักษา ตัวผมเองเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในชายแดน และเป็น ส.ส. ในต่างจังหวัด จะเห็นถึงความแตกต่างของการได้รับการรักษาของพี่น้องประชาชนในโรงพยาบาลในต่างจังหวัด กับโรงพยาบาลในเมือง ตรงนี้จะเป็นสิ่งหนึ่งที่อยากจะลงไปแก้ไข อาจจะไม่ได้ 100% แต่จะทำให้ดีขึ้น อีกสิ่งหนึ่งคือเรื่องของบุคลากร ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคุณหมอ คุณครู เป็นสิ่งที่คนต่างจังหวัดขาด และเป็นสิ่งที่พวกเราในนามของกระทรวงสาธารณสุขก็จะพยายามพัฒนาบุคลากร และอุปกรณ์ไปยังพี่น้องประชาชนในเขตต่างจังหวัดให้ได้ทั่วถึง
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายให้ กำกับดูแลงาน ส่วนใหญ่จะเป็นทางด้านความมั่นคง กำกับดูแลการบริหารราชการของ 3 กระทรวง คือ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ส่วนในเรื่องของการสั่งและการปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีนั้น ได้รับผิดชอบใน 4 องค์กรด้วยกัน คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ข่าวกรองแห่งชาติ และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันนี้คืองานที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าหลังจากที่ได้มีการปรับคณะรัฐมนตรี สื่อมวลชนจะเขียนถึงท่านว่าท่านคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะมารับผิดชอบงานทางด้านความมั่นคง ตัวท่านเองมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสดูแลงานนี้ ผมเองในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ได้ติดตามงานนี้อยู่ โดยเฉพาะงานแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โอกาสที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้ความไว้วางใจดูแลด้านความมั่นคงก็ดีใจ และจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด
นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ต้องเรียนว่าหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมที่เกี่ยวข้องโดยตรงนั้น คือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งการประกาศเจตนารมณ์ในวันนี้ ความจริง สำนักงานนี้ มีส่วนร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ในการที่จัดให้มีงานนี้เกิดขึ้น ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการที่จะให้บุคลากรภาครัฐได้ตระหนักถึงความจำเป็น ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ลดและเลิกการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะถ้าไม่ลดและเลิก ป.ป.ท. จะมีหน้าที่ไปดำเนินการอีกส่วนหนึ่ง คือต้องไปบังคับใช้กฎกติกาหรือกฎหมาย ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์ต่อข้าราชการที่ได้ฝ่าฝืนต่อการประพฤติมิชอบดังกล่าว
นายชัยเกษมกล่าวต่อว่า ต้องเรียนว่าในฐานะที่ผมมารับหน้าที่ต่อจาก พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก ซึ่งท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรี เรื่องที่เป็นภารกิจของกระทรวงยุติธรรมนั้น ผมจะประสานงานต่อจากท่าน แต่มีสิ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายและเน้นย้ำคือ ให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเร่งรัดปรับเปลี่ยนกฎหมาย เพื่อการเข้าสู่ AEC (ประชาคมอาเซียน) ในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ ท่านเน้นย้ำว่าขอให้เร็ว และเป็นอินเตอร์ ขอให้รับฟังความคิดเห็นของภาคธุรกิจ และภาคประชาชนด้วย
ส่วนมีการสั่งการเรื่องนี้กับทางปลัดกระทรวงฯ และทางทีมงานแล้วหรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ท่านปลัดกระทรวงฯ ได้รับมอบหมายมาแล้ว และได้ดำเนินการอยู่ เพียงแต่ว่าต้องปฏิบัติตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี ว่าต้องรับฟังความคิดเห็นจากทางภาคประชาชน และภาคธุรกิจด้วย ไม่ใช่เป็นกฎหมายที่ปรับเปลี่ยนไป ตามความต้องการของภาคราชการอย่างเดียว
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า โจทย์แรกที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี บอกว่าให้ดำเนินการโดยนโยบายเชิงรุก หมายถึง ต้องพยายามให้เข้าถึงพี่น้องประชาชน เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่านโยบายหลายเรื่องของเราดีอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้ทำให้ชาวบ้าน หรือประชาชนได้รู้สึกว่าจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไรบ้าง โชคดีที่กระทรวงมหาดไทยมีบุคลากรอยู่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมแล้วประมาณ 300,000 กว่าราย ซึ่งตรงนี้ก็จะสอดคล้องกับนโยบายการต่อสู้ประกาศสงครามกับคอร์รัปชั่นในวันนี้ของท่านนายกรัฐมนตรี
นายวิสารกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย จริงๆ แล้ว ผมมีโอกาสได้พบและขอนโยบายกับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านบอกสั้นๆ ว่า บำบัดทุกข์ บำรุงสุข เป็นที่ตั้ง และที่เหลือคงเป็นนโยบายที่เราเคยประกาศไว้ในสภาผู้แทนราษฎร หลังจากที่ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผมคิดว่าประเด็นที่เราจะต้องทำ หลังจากเสร็จจากการนี้ก็มีนัดประชุมกับท่านอธิบดีกับหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อที่จะเตรียมงานทันที หมายถึงว่าเรื่องหลักๆ คือจะต้องให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนนายอำเภอ ซึ่งถือว่าเป็นหัวหน้าส่วนราชการ กำชับให้นำนโยบายของรัฐบาลไปใช้อย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามยาเสพติด เรื่องปราบปรามคอร์รัปชัน เรื่องที่เป็นภัยร้ายแรงกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนที่ผ่านๆ มามี 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ 1. เรื่องหนี้นอกระบบ ตรงนี้ต้องเร่งรัดให้ทางอำเภอและทางกำนันผู้ใหญ่บ้านได้ช่วยเข้าไปกวดขัน
2. ได้รับการร้องเรียนมามาก คือขณะนี้เนื่องจากเราได้เปิดโอกาสให้มีการจดทะเบียนของแรงงานต่างด้าว ซึ่งถือว่าถูกต้อง แต่ขณะนี้ถ้าเราไม่บังคับใช้กฎหมายให้ชัดเจน จะมีกลุ่มซึ่งเป็นคนต่างด้าวด้วยกันเอง บางครั้งอาจจะมีการจัดเลี้ยง มีการทำร้ายกัน ซึ่งจะก่อความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนคนไทย ตรงนี้ผมจะรีบลงไปดูอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็น 3 จังหวัดชายแดนภายใต้ ซึ่งมีส่วนที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องรับผิดชอบ เรียนว่าจะพยายามทำให้เร็วที่สุด เพราะท่านนายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าพยายามทำให้รุก อย่าให้รับมาก และท่านรัฐมนตรีมหาดไทยได้ให้นโยบาย โชคดีที่ท่านได้มอบหมายให้ผมดูแลกรมการปกครองและป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ซึ่งสอดคล้องจากที่เราเคยได้รับรู้จากพี่น้องประชาชนมา
