xs
xsm
sm
md
lg

“ทีมทนาย” ยันศาลโลกตัดสินเป็นคุณกับไทย ใกล้เคียงมติ ครม.ปี 05

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทีมทนายฝ่ายไทยยันศาลโลกตัดสินคดีปราสาทพระวิหารเป็นคุณต่อไทย กัมพูชาไม่ได้พื้นที่ 4.6 ตร.กม.และภูมะเขือตามที่ร้องขอ ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงปราสาทที่ต้องไปเจรจากันตามแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน เป็นพื้นที่ที่เล็กมาก ใกล้เคียงกับมติ ครม.ในปี 2505

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายวีรชัย พลาศรัย แถลงข่าว  

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ภายหลังเสร็จสิ้นการอ่านคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก กรณีที่กัมพูชายื่นขอให้ศาลตีความคำพิพากษาเดิม เมื่อปี 2505 คดีปราสาทพระวิหาร โดยคณะทีมทนายความต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร ประกอบด้วย นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ พร้อมทีมทนายความชาวต่างชาติ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ร่วมกันแถลงข่าว ซึ่งถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์

นายวีรชัยกล่าวว่า ประเด็นแรกไม่จำเป็นพูดเรื่องแพ้เรื่องชนะ ข้อเท็จจริงปรากฏอยู่ว่ากัมพูชาไม่ได้สิ่งที่ตัวเองขออะไรบ้าง มี 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ในแง่พื้นที่กับหลักการทางกฎหมาย แง่พื้นที่ 4.6 ตร.กม.ที่เขาอ้าง ศาลไม่ได้ให้ ส่วนพื้นที่ที่ศาลให้เท่าไหร่เราไม่ทราบ เพราะจะต้องมาดูกันก่อน เรื่องพื้นที่อีกอัน คือ ภูมะเขือ ศาลพูดชัดเจนว่าภูมะเขือไม่รวมอยู่ในบริเวณใกล้เคียงตัวปราสาท

ในแง่หลักการของกฎหมายที่เขาไม่ได้ คือ แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ศาลไม่ได้ตัดสินว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำพิพากษาปี 2505 ก็คือไม่อาจผูกพันคู่กรณีได้โดยผลของคำพิพากษาปี 2505 จะผูกพันหรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไป ซึ่งต้องไปเจรจากันโดยเอาทุกอย่างเข้ามา โดยเฉพาะต้องเอาสนธิสัญญาเข้ามาด้วย ทั้งนี้ ยกเว้นที่เดียวคือ บริเวณใกล้เคียงปราสาท ซึ่งศาลระบุว่าเป็นพื้นที่เล็กนิดเดียว เล็กมาก นั่นไม่ใช่สิ่งที่กัมพูชาต้องการแน่ๆ ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในสิ่งนี้

ประเด็นสำคัญอีกอัน เส้นบนแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ให้เอามาใช้กำหนดบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่แคบมากๆ ตรงกับมติคณะรัฐมนตรีปี 2505 ส่วนการกำหนดพื้นที่ดังกล่าว คือ คู่กรณีเจรจา ที่จะมีการหารือในกรอบคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-กัมพูชา หรือเจซี ต่อไป

ส่วนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลนั้น ยืนยันว่าคำตัดสินครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทางทะเล เพราะศาลไม่มีอำนาจในการวินิจฉัย หากไปดูในอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และ ค.ศ. 1907 ไม่มีกระทบทางทะเล ดังนั้น ขอให้สบายใจได้ และสุดท้ายอยากฝากคนไทยอย่าไปคิดว่าตัวเองเป็นคนชนะ หรือเสียใจว่าตัวเองสูญเสียดินแดน ทั้งนี้ คำตัดสินคดีวันนี้ (11 พ.ย.) ถือว่าสิ้นสุดลงแล้ว แต่หากมีข้อขัดแย้งสามารถนำมาขอให้ศาลตีความคำพิพากษาวันนี้ได้ภายใน 10 ปี แต่ต้องมีหลักฐานข้อเท็จจริงใหม่

น.ส.อลินา มิรอง กล่าวว่า ศาลชี้ว่าคำตัดสินปี 2505 ตัดสินว่าอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา ซึ่งวันนี้ศาลได้เข้ามานิยามพื้นที่บริเวณใกล้เคียงปราสาทอันนี้ชัดๆ ว่า ย้ำแล้วย้ำอีกว่าเป็นพื้นที่ที่เล็กมาก เป็นเพียงยอดเขาพระวิหาร ซึ่งขอบเขตใกล้เคียงกับที่เราเสนอไว้เป็น 1 ใน 2 ทางเลือก ที่ประกาศกับ ครม.ของเราเองเมื่อปี 2505 คือ เป็นวิธีที่ 1 นอกจากนี้ การถ่ายทอดเส้นส่วนเล็กๆ 1 ต่อ 200,000 นี้ ศาลให้คู่กรณีไปเจรจากันโดยสุจริต

ศ.อแลน แปลเลต์ กล่าวว่า สิ่งที่ศาลกำหนดวันนี้ก็คือทางเลือกที่ 1 ของมติ ครม.ในปี 2505 เมื่อเป็นที่ยอมรับได้ในปี 2505 คำพิพากษานี้เป็นบวก เปิดทางให้มีการเจรจาในภาพรวม และปลดความความเชื่อที่ให้น้ำหนักมากเกินไปกับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน

ขณะที่นายสุรพงษ์กล่าวว่า ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศของกัมพูชา ซึ่งได้พูดกันถึงผลการตัดสิน โดยต่างฝ่ายก็พอใจเช่นกัน หลังจากนี้จะใช้กรอบเจซีที่มีอยู่แล้ว และจะมีการนัดกันในเร็วๆ นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับคำตัดสินว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร

ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมือง วันนี้ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ได้ฟังคำตัดสินแล้วคงเข้าใจถึงประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะคำชี้แจงของทีมทนาย และทูตวีรชัย ก็ชัดเจนว่าไทยไม่เสียหาย กลับได้ประโยชน์ด้วย เพราะมีความชัดเจนขึ้นมา สิ่งต่างๆ ก็ต้องไปพูดคุยกับกัมพูชา ส่วนเรื่องการบริหารจัดการเขาพระวิหาร จะต้องดูแลร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์

ด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาที่จะประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) แต่เมื่อเช้าวันนี้ได้มีการพบปะกับผู้นำทางทหารของกัมพูชา และมีการแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กันเพื่อนัดแนะที่จะกำหนดวันประชุมจีบีซีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น