“คำนูณ” ชี้ไม่มีใครชนะเด็ดขาดปมเขาพระวิหาร เหตุเขมรไม่ได้พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. แต่เชื่อศาลพิพากษาขยายพื้นที่เพิ่ม แนะ รบ.อย่าด่วนทำตามคำสั่งศาล ให้ ปชช.ร่วมประชามติ
วันนี้ (11 พ.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา กล่าวว่า เท่าที่ได้ติดตามฟังคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ต้องบอกว่าประเทศไทยและกัมพูชาไม่ได้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแพ้หรือชนะอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะศาลโลกไม่ได้พิพากษาในเรื่องเขตแดนบริเวณพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ตามที่กัมพูชาร้องขอ ยกเว้นกรณีบริเวณพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร โดยจากการฟังคำพิพากษาของศาลโลกส่วนตัวเข้าใจว่า ได้วินิจฉัยขยายพื้นที่ล้ำเข้ามาในเส้นที่คณะรัฐมนตรีไทยมีมติเอาไว้เมื่อเดือน ก.ค. 2505 ซึ่งไม่แน่ใจว่าบริเวณนั้นจะมีอาณาเขตเท่าไหร เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการต่อไป
นายคำนูณกล่าวว่า ส่วนตัวมีข้อเสนอให้กับรัฐบาล 4 ข้อ ได้แก่ 1. รัฐบาลอย่าเพิ่งรีบปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลก 2. ควรตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาคำพิพากษาที่เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างละเอียด โดยจะต้องมีตัวแทนของภาคประชาชนเข้าไปร่วมด้วย 3. ในอนาคตถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เป็นผลสำเร็จรัฐบาลจะต้องดำเนินการเอาข้อตกลงเกี่ยวกับกัมพูชาในประเด็นปราสาทพระวิหารเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา และ 4. หากมีกรณีใดที่รัฐบาลจะต้องตัดสินใจว่าจะดำเนินการตามศาลโลกหรือไม่ควรใช้กลไกของรัฐธรรมนูญเพื่อจัดทำประชามติให้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้โดยรัฐบาลจะต้องไม่ตัดสินใจเพียงลำพัง
เมื่อถามว่าผลการตัดสินที่ออกมารัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ นายคำนูณกล่าวว่า ถ้าจะให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาที่คาราคาซังมาหลายรัฐบาล