อีสานโพล ม.ขอนแก่น เผยผลสำรวจชาวอีสาน ผลงาน รบ.ยิ่งลักษณ์ ไตรมาส 3 ปี 56 ลดลงแทบทุกด้านเมื่อเทียบ 2 ไตรมาสที่ผ่านมา สิ่งแวดล้อม-อาชญากรรมคะแนนจมดิ่ง เศรษฐกิจก็ต่ำลง แต่ยังคงเลือก พท.อันดับ 1 แม้คะแนนลดลง ยังไม่ตัดสินใจรองมา ตามด้วยเลือก ปชป. และเสียงฝ่ายค้านทำงานไม่ผ่านเพิ่มขึ้น ฟันธงเลือกตั้ง พท.ชนะขาด แต่ภาพรวมก็ต่ำสุดตั้งแต่เป็นรัฐฯ คะแนนนิยมลดต่อเนื่อง เช่นเดียวกับฝ่ายค้าน
วันนี้ (4 ต.ค.) อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง “เสียงสะท้อนชาวอีสานกับผลงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์” ไตรมาส 3 ปี 2556 ผลสำรวจพบว่า คะแนนการทำงานของรัฐบาลลดลงเกือบทุกด้าน และภาพรวมการทำงานต่ำสุดในรอบ 2 ปี ความนิยมพรรคเพื่อไทยลดลง แต่ก็ยังเหนือกว่าคู่แข่ง ส่วนผลการทำงานของฝ่ายค้านก็ลดลงต่ำเช่นกัน
ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อการทำงานของรัฐบาลในด้านต่างๆ เพื่อเป็นเสียงสะท้อนให้รัฐบาลได้นำผลการประเมินและข้อเสนอแนะไปปรับปรุงมาตรการและนโยบายการทำงานได้อย่างเหมาะสม โดยการสำรวจจะมีขึ้นทุกไตรมาส โดยครั้งนี้เป็นการสำรวจไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 28 ก.ย. - 3 ต.ค. 2556 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,310 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ หนองคาย ชัยภูมิ เลย อุบลราชธานี อุดรธานี นครพนม หนองบัวลำภู สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สกลนคร มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และบึงกาฬ
ผลสำรวจการประเมินผลงานรัฐบาลใน 7 ด้าน พบว่า ด้านภาพรวมการทำงานของรัฐบาล ประเมินให้ผ่าน ร้อยละ 64.4 ไม่ผ่าน ร้อยละ 35.6 ด้านการเมืองและประชาธิปไตย ประเมินให้ผ่าน ร้อยละ 59.4 ไม่ผ่าน ร้อยละ 40.6 ด้านเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดี ประเมินให้ผ่าน ร้อยละ 51.7 ไม่ผ่านร้อยละ 48.3 ด้านสังคม อาชญากรรม และยาเสพติด ประเมินให้ผ่าน ร้อยละ 52.2 ไม่ผ่าน ร้อยละ 47.8 ด้านสิ่งแวดล้อม มลพิษ และภัยธรรมชาติ ประเมินให้ผ่าน ร้อยละ 52.5 ไม่ผ่าน ร้อยละ 47.5 ด้านการต่างประเทศ ประเมินให้ผ่าน ร้อยละ 73.3 ไม่ผ่าน ร้อยละ 26.7 ด้านการจัดการปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งได้คะแนนต่ำสุด ประเมินให้ผ่าน ร้อยละ 50.7 ไม่ผ่าน ร้อยละ 49.3 (ดังภาพที่ 1)
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเทียบกับการสำรวจ 2 ไตรมาสที่ผ่านมาจะพบว่า คะแนนการทำงานในแต่ละด้านลดลงเกือบทุกด้าน โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม มลภาวะ และภัยธรรมชาติ ที่ลดลงอย่างมาก เนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่ผ่านมาและน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้น ส่วนด้านสังคม อาชญากรรม และยาเสพติด ก็มีคะแนนลดลงมากเช่นกัน เนื่องจากข่าวอาชญากรรมต่างๆ ที่ปรากฏในสื่อเพิ่มขึ้น ขณะที่ด้านเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดียังเป็นด้านที่ได้คะแนนต่ำ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาค่าครองชีพที่สูงได้และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ (ดังภาพที่ 2)
เมื่อถามความคิดเห็นว่าหากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ แคนอีสานจะเลือกพรรคการเมืองใด พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 44.3 จะเลือกพรรคเพื่อไทย (ไตรมาส 1 ร้อยละ 55.0 และไตรมาส 2 ร้อยละ 48.0) และอีกร้อยละ 36.7 ยังไม่ตัดสินใจจะเลือกพรรคใดในขณะนี้ (ไตรมาส 2 ร้อยละ 31.1) ส่วนผู้ที่จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ มีเพียงร้อยละ 8.9 (ไตรมาส 2 ร้อยละ 8.9) อีกร้อยละ 8.9 ตอบว่าจะไม่เลือกพรรคใด และร้อยละ 1.2 จะเลือกพรรคอื่นๆ
ในส่วนของการประเมินการทำงานของฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล พบว่า กลุ่มตัวอย่างชาวอีสานกว่าร้อยละ 69.8 ให้คะแนนว่าไม่ผ่าน (การประเมินครั้งก่อน ไม่ผ่านร้อยละ 63.6) โดยให้เหตุผล เช่น ค้านมากเกินไปหรือจับผิดรัฐบาลมากเกินไป ไม่มีผลงานที่ชัดเจน เป็นต้น ส่วนอีกร้อยละ 30.2 ที่ประเมินให้ผ่าน ให้เหตุผล เช่น เป็นการทำงานตามหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลได้ดี เป็นการตรวจสอบไม่ให้รัฐบาลคอร์รัปชัน เป็นต้น
“ผลการประเมินในไตรมาส 3 ของปี 2556 พบว่า แม้เลือกตั้งวันนี้เพื่อไทยยังคงชนะขาดในภาคอีสาน อย่างไรก็ตาม คะแนนผลงานภาพรวมรัฐบาลก็ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปีตั้งแต่รัฐบาลเข้าทำงาน ขณะที่คะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยลดลงต่อเนื่องเกือบต่ำสุดในรอบ 2 ปี เช่นกันหากไม่นับคะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยที่ต่ำสุดซึ่งเกิดขึ้นในการสำรวจไตรมาสที่ 2 ของปี 2555 ซึ่งตอนนั้นมีข่าวว่าอดีตนายกฯ ทักษิณขอให้เสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหวและต้องการปรองดองกับฝ่ายอำมาตย์ ขณะที่ฝ่ายค้านก็ได้คะแนนต่ำสุดตั้งแต่ทำการสำรวจมาเช่นกัน ดังนั้น ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านคงต้องเร่งปรับปรุงการทำงานให้เข้าตาประชาชนมากกว่านี้ โดยเฉพาะรัฐบาลที่ต้องเร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ และปัญหาน้ำท่วม” ดร.สุทินกล่าวตอนท้าย