xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ชงศาล สอบเสียบบัตรแทนแก้ที่มา ส.ว. ชี้เป็นโมฆะ-ตร.แดง ยื่นยกคำร้อง 40 ส.ว.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
“พีระพันธุ์” นำทีมมาตามนัด ยื่นศาล รธน.สอบเหตุเสียบบัตรแทนกัน ช่วงลงมติแก้ที่มา ส.ว. ชี้ขัด ม.122-126 ปธ.รัฐสภาไม่เป็นกลาง ต้องหยุดการกระทำ และให้แก้ รธน.เป็นโมฆะ พร้อมคุ้มครองชั่วคราวระงับวาระ 3 ชี้หลักฐานชัด หวังตัดสินก่อนวาระ 3 ด้าน ปธ.ชมรมผู้พิทักษ์ กม.ร้องศาลยกคำร้อง “สมเจตน์-รสนา” ยื่นยุติแก้ที่มา ส.ว. อ้างไร้ กม.รองรับการกระทำ สมาชิกรัฐสภาทำตามอำนาจ คาดศาลถกคำร้องแก้ รธน.-คุณสมบัติ หน.ปชป.

วันนี้ (25 ก.ย.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมพวกรวม 10 คน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาวินิจฉัยการกระทำของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และพวกรวม 312 คน กรณีมีคลิปวิดีโอ ส.ส.พรรคการเมืองหนึ่งเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันในระหว่างการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับประเด็นที่มาของ ส.ว.มาตรา 9 ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 10 ก.ย. เวลา 17.33 น. มาตรา 10 วันที่ 11 ก.ย. เวลา 11.43 ซึ่งถือว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 122 ว่าด้วยสมาชิกรัฐสภาต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต และมาตรา 126 สมาชิก มีสิทธิลงมติหนึ่งคนต่อหนึ่งเสียงและจะต้องมีสมาชิกเกินกึ่งหนึ่งในการลงมติ จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประธานรัฐสภากระทำการไม่เป็นกลางทุจริตต่อหน้าที่ และการกระทำดังกล่าวเป็นการทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิถีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่ต้องสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดการกระทำดังกล่าว และสั่งให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญกรณีดังกล่าวเป็นโมฆะ รวมทั้งให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวฉุกเฉินสั่งระงับการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า คลิปดังกล่าวเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ชัดเจนว่ามีการเสียบบัตรเพื่อลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญแทนกันจริง จนให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถผ่านในวาระ 2 ได้ และหวังว่าการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจะทันก่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติในวาระ 3

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ ประธานชมรมผู้พิทักษ์กฎหมายและความยุติธรรม ก็เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้วินิจฉัยยกคำร้องที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหากับพวก และน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.กับพวก ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาส.ว. และยุบ 6 พรรคร่วมรัฐบาล โดย พ.ต.อ.บรรจบเห็นว่าการยื่นคำร้องของกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่มีบทกฎหมายใดรองรับให้กระทำได้ อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. เป็นการกระทำโดยสมาชิกรัฐสภา ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรงตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติอยู่แล้ว และเป็นการแก้ไขเพียงให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งไม่ได้เป็นการแก้ไขรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขให้กลายเป็นรูปแบบอื่น ที่จะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 รวมถึงร่างกฎหมายที่ ส.ส.และส.ว.จะสามารถเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้เฉพาะร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหกเท่านั้น ดังนั้นเมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็ย่อมไม่มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัย หรือกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวสั่งระงับการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 แต่อย่างใด เพราะจะเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา ที่ก็ไม่มีกฎหมายใดรองรับให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญกระทำได้ จึงควรยกคำร้องเสีย

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (24 ก.ย.) คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมตามปกติ โดยมีรายงานว่าจะมีการพิจารณาคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีการยื่นให้ศาลพิจารณาในก่อนหน้านี้ รวมทั้งเรื่องคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์


กำลังโหลดความคิดเห็น