“ประพันธ์” ชำแหละผลงานรัฐบาลล้มเหลวทุกเรื่อง ชี้ ปชป.ผุดโครงการไทยเข้มแข็ง 2020 แค่ชิงดีชิงเด่นทางการเมือง หวังเกาะกระแสเพื่อเตรียมเลือกตั้งครั้งหน้าเท่านั้น ด้าน “พิภพ” ยกผลงานด้านการศึกษา รัฐบาลทำได้แย่สุด ไม่เป็นไปตามที่หาเสียงไว้แม้แต่น้อย
วันที่ 24 ก.ย. นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
โดยนายประพันธ์กล่าวถึงการแถลงผลงานของรัฐบาลว่า ถ้าประชาชนฟังจะได้ประโยชน์มากกว่าฟังการประชุมสภาเสียอีก เพราะประชุมสภามีแต่การตอบโต้ชิงดีชิงเด่น ประท้วงไร้สาระ แต่การแถลงผลงานหามุมประท้วงยาก เป็นการพูดที่มีลายลักษณ์อักษร ตรวจสอบผลงานรัฐบาลได้ว่าทำสำเร็จตามที่พูดหรือเปล่า จะเห็นได้ชัดถึงความล้มเหลวของรัฐบาล เห็นธาตุแท้ระบอบทักษิณและตัวแทนระบอบทักษิณ เห็นการโกหกตระบัดสัตย์หน้าด้านๆ
สิ่งที่ตนเห็นว่าเป็นโอกาสของฝ่ายค้านในการยกมาโจมตีรัฐบาล คือ เรื่องน้ำท่วมปี 2554 ที่รัฐบาลอ้างว่าปัญหาเกิดจากภัยธรรมชาติ ทั้งที่จริงๆ แล้วเกิดจากการบริหารจัดการที่ล้มเหลว ถ้าเอาตรงนี้มาพูด เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท หรือเรื่องเขื่อนแม่วงก์ ก็จะมีน้ำหนักหักล้างเพิ่มขึ้น
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ในความเห็นของตน สิ่งที่รัฐบาลล้มเหลวมากที่สุดมีดังนี้ 1. เรื่องสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ตอนหาเสียงก็บอกแก้ไขไม่แก้แค้น แต่เอาเข้าจริงกลับส่งเสริมอันธพาลให้ไปคุกคามสิทธิเสรีภาพของคนอื่น ใช้ตำรวจคุกคามการแสดงออกของประชาชนที่เห็นต่าง แต่พอฝ่ายตัวเองชุมนุมกลับชื่นชมยกย่อง ทำตัวเหมือนเป็นรัฐบาลของเสื้อแดง ไม่ได้เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ บวกรวมกับการเร่งออกกฎหมายนิรโทษกรรม และแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากประชาชน รวมทั้งพฤติกรรมของพรรคที่ถ่อยเถื่อนในสภา ไม่มีอะไรบ่งบอกเลยว่าจะสร้างความปรองดองให้ประเทศชาติ มิหนำซ้ำรัฐบาลดันเป็นต้นตอของปัญหาเสียเอง
2. การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง นอกจากไม่สามารถป้องกันการทุจริตได้เท่านั้น ยังพยายามทำลายกลไกการควบคุมตรวจสอบด้วย
3. การแก้ปัญหาภาคใต้ ไม่เพียงแต่ล้มเหลว แต่ยังยกระดับขบวนการก่อการร้าย จนจะนำไปสู่การเสียดินแดน
4. เรื่องเศรษฐกิจ อันนี้เห็นได้ชัดเจนอยู่แล้ว
5. เรื่องการต่างประเทศ ใช้เงินภาษีประชาชนเอาไปเที่ยว แล้วไปเพื่อเปิดทางให้พี่ชายตัวเองต่อยอดทำมาหากินมากกว่าทำเพื่อประเทศชาติ และเรื่องกัมพูชา รัฐบาลก็ไม่สนใจเลย จนสุ่มเสี่ยงที่จะเสียดินแดน
นายประพันธ์ยังได้กล่าวถึงโครงการสร้างอนาคตไทยเข้มแข็ง 2020 ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าประชาธิปัตย์เคยเกาะกระแสการปฏิรูปของภาคประชาชนด้วยการตั้งคณะกรรมการปฏิรูป 3 ชุด ซึ่ง นพ.ประเวศ นายอานันท์ ดร.คณิต ณ นคร ก็เปนบุคคลที่สังคมยอมรับ แต่ทำไมประชาธิปัตย์ไม่เอาผลการศึกษานั้นมาเป็นตัวเดินหน้าในการปฏิรูประเทศ แต่กลับไปสร้างอันใหม่ขึ้นมาอีก ตนคิดว่าเป็นแค่การเถียงกันแบบศรีธนญชัย ชิงดีชิงเด่นทางการเมืองเท่านั้น ไม่ได้เอาปัญหาประเทศเป็นตัวตั้ง คิดแค่ว่าพยายามหาอะไรใหม่มาขายประชาชนโดยเกาะกระแส แต่ไปไม่ถึงที่สุด ถ้าร่วมมือกับประชาชนเพื่อการเปลี่ยนระบอบการเมืองก็กลัวกระทบตัวเอง เลยอยู่ในระบบเก่า แล้วพยายามบอกว่าตัวเองเลวน้อยกว่าคนอื่น สิ่งที่เกิดขึ้นมาเหมือนเป็นแค่อีเว้นต์เพื่อหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้าเท่านั้น
ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่กลัวการเปลี่ยนแปลง ทำให้เพื่อไทยทำมาหากินทางการเมืองได้อย่างสบาย เมื่อเป็นเช่นนี้ประชาธิปัตย์คงไปไม่ถึงไหน ประชาชนคงต้องเหนื่อยเองถ้าจะปฏิรูปประเทศ
ด้านนายพิภพกล่าวว่า ความล้มเหลวที่สุดของรัฐบาล คือ หาเสียงไว้อย่างไร ทำตามที่หาเสียงไม่ได้ คือเรื่องการศึกษา มีความเข้าใจผิดของรัฐบาลว่าให้แท็บเล็ตเด็กจะเพิ่มประสิทธิภาพการเรียน ซึ่งไม่ใช่เลย แล้วโกหกชัดเจนว่าจะส่งเสริมการกระจายอำนาจให้ชุมนุมท้องถิ่นมีส่วนร่วมจัดการการศึกษา ซึ่งโกหกชัดเจน เพราะรัฐบาลได้ไปมองโรงเรียนขนาดเล็กในเชิงพาณิชย์ คิดจะยุบโรงเรียนขนาดเล็ก การศึกษาทางเลือกซึ่งเป็นทางออกของการปฏิรูปการศึกษา รัฐบาลก็ไม่สนใจ การเตรียมทรัพยากรมนุษย์เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ก็บอกแต่ว่าจะเตรียมเรื่องภาษา แต่คุณภาพของคนไม่พูดถึง เรื่องการศึกษารัฐบาลไม่จำเป็นต้องอาย เพราะเป็นปัญหาต่อเนื่องมานานหลายรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องครูซึ่งเป็นจุดอ่อนมากสำหรับตน แต่รัฐก็ไม่สนใจ
เรื่องนโยบายประชานิยม ความเหลื่อมล้ำในสังคม ตนหวังว่าประชาธิปัตย์จะอภิปรายเรื่องนี้ได้ดี แต่ต้องพูดเป็นระบบ ไม่ใช่แตะแค่นโยบายเป็นอย่างๆ พูดให้เห็นว่าประชานิยมทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมอย่างไร
นายพิภพกล่าวถึงโครงการสร้างอนาคตไทยเข้มแข็ง 2020 ด้วยว่า ประชาธิปัตย์ติดกับดักตัวเอง เพราะได้เดินตรงข้ามกับสิ่งที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ พอพูดว่าจะใช้เงินทำโน่นทำนี่ ก็ถูกย้อนศรว่าทีตอนเป็นรัฐบาลก็ทำไม่ได้ ตนเสนอว่าประชาธิปัตย์ต้องหลุดจากกับดักตัวเอง ถ้าทำไม่ได้ พรรคก็ไปไม่ได้