“ปานเทพ” ชี้ “บรรหาร” ตอบคำถาม “สนธิ-จำลอง” สอบตกทุกข้อ สะท้อนการเมืองที่ล้มเหลว ซัดคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไร้ราคาเพราะแค่หลักนิติรัฐยังเสียสละไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับการปฏิรูปที่ใหญ่กว่านี้
วันนี้ (11 ก.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางเอเอสทีวีว่า การที่นายบรรหารเดินทางเข้าพบนายสนธิ และ พล.ต.จำลอง สะท้อนให้เห็นว่านายบรรหารยังคิดในบริบทของนักการเมืองที่ไม่ยอมสูญเสียอำนาจ เวลาพูดถึงการเมืองที่ล้มเหลวจะพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถาม เช่น เมื่อนายสนธิถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณควรต้องกลับมาติดคุกหรือไม่ นายบรรหารตอบว่า ทักษิณบอกว่าตัวเองไม่ผิด ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ไม่ยอมบอกว่านายบรรหารเองคิดอย่างไร เอาคนอื่นมากลบเกลื่อนความคิดของตัวเอง ทำให้เห็นว่ายังเกรงนักโทษชายทักษิณทักษิณอยู่ แล้วแก้ตัวให้ด้วยว่าเขาอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม การทดสอบจิตใจว่านายบรรหารเป็นเครื่องมือให้ทักษิณหรือไม่ คำถามแรกก็สอบไม่ผ่านแล้ว
คำถามที่ 2 นายสนธิถามว่า ถ้าวันหนึ่งมีกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทักษิณเฉพาะ จะว่าอย่างไร นายบรรหารบอกว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอไม่ตอบ ก็สะท้อนแล้วว่าคณะกรรมการปฏิรูปฯ ไม่มีจุดยืนด้านหลักนิติรัฐ ข้อสองก็สอบไม่ผ่านเช่นกัน คำถามที่ 3 ถามถึงเรื่องที่แม่ทัพนายกองตำรวจทั้งหลายบินไปหาทักษิณขอตำแหน่ง นายบรรหารก็ทำเป็นไร้เดียงสาไม่รู้เรื่อง ข้อนี้ก็สอบตกอีกในเรื่องหลักนิติรัฐ ฉะนั้นข้อทดสอบวัดใจ 3 ข้อ นายบรรหารแสดงจุดยืนไม่ได้เลย พล.ต.จำลอง และนายสนธิ พูดดีว่าการปฏิรูปประเทศนั้น ฝ่ายการเมืองต้องรู้จักเสียสละ ไม่ใช่เดินสายสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายการเมือง
นายปานเทพกล่าวต่อว่า คำถามสำคัญที่นายสนธิถามว่านายบรรหารคิดหรือไม่ว่าตัวเองเป็นปัญหาของประเทศ นายบรรหารบอกเขาพยายามไม่มีปัญหากับใคร มันเหมือนคุยกันคนละภาษาเลย ฉะนั้นการมาเยือนครั้งนี้ เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นว่าคณะกรรมการปฏิรูปประเทศที่กำลังเดินสาย ขณะที่ในสภาเดินหน้าล้างความผิด แก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้องค์กรอิสระตรวจสอบตัวเองได้น้อยลง ล้วนแต่เพื่อผลประโยน์ส่วนตัวและพวกพ้องทั้งสิ้น ท่าทีของนายบรรหาร บอกได้ว่าคณะกรรมการปฏิรูปฯ ไม่สามารถยืนหลักนิติรัฐ ไม่สามารถมองว่านักการเมืองคือปัญหาของประเทศอย่างไรบ้าง ด้วยเหตุผลนี้ไม่มีเหตุผลที่ นายสนธิ และ พล.ต.จำลองจะเข้าร่วม
“การพูดคุย 1 ชั่วโมง เป็นบทสรุปได้เลย การเมืองล้มเหลวจริงๆ การเมืองล้มเหลวโดยนักการเมืองที่ล้มเหลว คนเหล่านี้ไม่มีทางปฏิรูปประเทศโดยเสียสละส่วนตนได้เลย แค่เรื่องเล็กๆอย่างหลักนิติรัฐยังเสียสละไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องปฏิรูปที่ใหญ่กว่านี้” นายปานเทพกล่าว
นายปานเทพยังกล่าวด้วยว่า วาทะที่นายบรรหารเคยพูดว่าเป็นฝ่ายค้านแล้วอดอยากปากแห้ง มาวันนี้บอกไม่ได้พูด มันเป็นเรื่องที่น่าอาย และนายบรรหารอาจลืมไปแล้วว่าเคยพูด แต่อย่างน้อยครั้งนี้นายบรรหารอดทนมาก เพราะการตัดสินใจมาครั้งนี้ ทั้งที่นายสนธิเตือนล่วงหน้าแล้วว่าอย่ามาเลย มาแล้วจะเสียมากกว่าได้ เมื่อยืนยันจะมาก็มา
การถ่ายทอดสดไม่ได้หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องการให้ประชาชนเข้าใจจุดยืนของนายสนธิ และ พล.ต.จำลอง ต่อกรณีคณะกรรมปฏิรูปฯ ให้ชัดเจน ฉะนั้นไม่มีภาพลักษณ์เคลือบแคลงใจหรือเกิดความสงสัยว่าไปแอบคุยกัน ทุกอย่างเปิดเผย ทุกอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา และเชื่อว่าคำถามที่นายสนธิถามว่านายบรรหารก็เป็นตัวปัญหา ฝ่ายค้านยังไม่กล้าถามเลย เพราะเป็นนักการเมืองเหมือนกัน และยังต้องอาศัยพรรคนายบรรหารที่มีโอกาสสลับขั้วมาในวันข้างหน้าด้วย ดังนั้นยากที่จะเห็นคนเหล่านี้เปลี่ยนแปลงประเทศอย่างที่ภาคประชาชนคิดได้
