xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ไม่เชื่อน้ำยาสภาปฏิรูปฯ แนะ ปชป.สานต่องาน “ประเวศ-อานันท์” ร่วมสู้กับ ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปานเทพ” ไม่เชื่อน้ำยาสภาปฏิรูปฯ ย้ำประชาธิปัตย์ต้องลาออกมาสู้นอกสภา โดยชูธงวาระประชาชน มั่นใจเสื้อแดงไม่ค้านเพราะทุกคนได้ประโยชน์ แนะใช้ผลศึกษา “หมอประเวศ-อานันท์” มาสานต่อ หวั่นหากปล่อยให้ประชาชนค่อยๆ เปลี่ยนความคิดเอง จะเกิดความสูญเสียมาก ด้าน “ณรงค์” ชี้ตอนนี้ภาวะวิสัยเอื้ออำนวย เหมาะต่อการเปลี่ยนความคิดคนไทย





เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่น 2 และโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วย รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางเอเอสทีวี

โดยนายปานเทพกล่าวถึงการตั้งสภาปฏิรูปการเมืองว่า คนที่ถูกเชิญมาเป็นเจ้าภาพตอนนี้ ล้วนแต่เป็นนักการเมืองภายใต้บริบทเดิมที่มีปัญหามานานแสนนาน การปฏิรูปนับหนึ่งใหม่ทำไมเอาคนแบบนี้มา ไม่มีทางที่คนพวกนี้จะมาเปลี่ยนแปลงประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำของของประชาชน แต่หันไปทางประชาธิปัตย์ สมัยเป็นรัฐบาลเคยตั้งคณะกรรมการศึกษาเพื่อการปฏิรูป แต่ก็ไม่ทำ เราไม่สามารถไว้วางใจนักการเมืองได้เลย เว้นเสียแต่ว่าผู้ชนะคือพรรคเพื่อไทยอยากจะเสียสละแต่ก็คงยากเพราะมีแนวโน้มชนะอีกยาว ดังนั้น ถ้าหวังให้การปฏิรูปเกิดขึ้นได้เร็ว ต้องหวังคนแพ้ในระบบว่าหากไม่ยอมรับระบบนี้แล้ว ถอนตัวออกมาเพื่อต่อสู้กับประชาชน แล้วเอาวาระประชาชนเป็นตัวตั้ง ทำแบบนี้บริบทการเปลี่ยนแปลงจะทำได้จริง แล้วทำโดยฝ่ายการเมืองจะมีพลังสูง หากฝ่ายค้านลาออกมาสู้กับประชาชนจะเพิ่มอำนาจต่อรองที่เกิดจากประชาชนได้ แต่ถ้าไม่มีใครเสียสละเลย ก็จะเกิดบริบทใหม่ คือประชาชนลุกขึ้นมาปฏิรูป ถ้าอยากเห็นเร็วต้องให้ประชาชนตื่นรู้ให้เร็วที่สุด หรือเกิดการล่มสลายของประเทศ แล้วประชาชนเจ็บปวดจนต้องลุกขึ้นมาพร้อมๆ กัน

นายปานเทพกล่าวต่อว่า การปฏิรูปด้วยการให้ข้อมูลประชาชนไปเรื่อยๆ มันไม่ง่าย เพราะคนเสื้อแดงก็ไม่ได้มาดูเอเอสทีวี การเอาชนะไม่มีอะไรดีเท่ากับการให้ความจริง แต่การค่อยๆ ปฏิรูปในสถานการณ์ปัจจุบันนั้นความสูญเสียก็จะมากเหมือนกัน เพราะโฆษณาชวนเชื่อมันมีมาก ทำให้ต้นทุนแพงขึ้นที่จะเปลี่ยนและยากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเป็นสงครามชิงเมือง เพื่อผลประโยชน์นักการเมืองกันเอง บางคนถูกปล้นยังไม่รู้ตัวเลย เพราะยังรู้สึกสบาย ตนคิดว่าต้องทำให้เร็วขึ้น โดยมีจุดเปลี่ยนบางประการให้คนต้องหันมาฟัง เช่น ประชาธิปัตย์เลิกสู้เพื่อขั้วอำนาจ ลาออกจาก ส.ส. ประกาศว่าไม่เอาระบอบนี้ ประชาธิปัตย์มีฐานเสียงสูงถึง 12 ล้านคน ตนไม่ได้ให้มาล้มเสียง 15 ล้านคน แต่ชูธงเลยว่าปฏิรูปเพื่อประชาชน ไม่ใช่เป็นวาระโค่นระบอบทักษิณ แทนที่จะให้ปฏิรูปโดยนักการเมือง เราเอามาปฏิรูปนอกสภาโดยประชาชน โดยเอาข้อเสนอของหมอประเวศ นายอานันท์ ที่เคยศึกษาไว้มาเดินหน้าต่อ

“ผมเชื่อว่าทำได้แน่ แล้วไม่ต้องกลัวจะทะเลาะกับเสื้อแดง เพราะหากชูธงเพื่อประชาชน เช่น คนไทยทุกคนจะได้ใช้น้ำมัน 19 บาทต่อลิตร คดีนักการเมืองทุจริตไม่มีอายุความ แบบนี้ใครจะต้าน ส่วนความคิดที่ว่าลาออกมาเป็นการปล่อยให้เพื่อไทยยึดสภาฝ่ายเดียว แล้วทุกวันนี้เขาไม่ยึดไปแล้วหรือ แล้วที่บอกว่าแล้วใครจะลงชื่อ 1 ใน 10 ยื่นต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตนจะบอกว่าถ้าคนล้านคนคิดเปลี่ยนประเทศจริง จะเป็นจังหวะที่คนทั้งประเทศหันมามอง จะประชุมสภาได้ไหม ช่วงนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นหมากบังคับที่ประชาธิปัตย์ต้องเดิน หากยังสู้เพื่อขั้วอำนาจ สงครามนี้ไม่มีทางจบ”

นายณรงค์กล่าวว่า การปฏิรูปคือการเปลี่ยนทั้งระบบ การปฏิรูปที่ดีต้นทุนต่ำแต่ระยะเวลานานคือการนับหนึ่งจากการเปลี่ยนแปลงความคิดคน การปฏิรูปที่เกิดจากการต่อสู้ทางความคิดของผู้คน มันยั่งยืน เสียเลือดเสียเนื้อน้อย ตนเชื่อว่าการปฏิรูปนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ จะมาในรูปแบบไหนก็ตาม ต้องช่วยกันคิด และตนว่าตอนนี้ภววิสัยเอื้ออำนวยให้เอาข้อมูลความจริงไปบอกชาวบ้าน อย่าใช้วาทกรรม แต่เอาข้อเท็จจริงไปสู้กับรัฐบาล และต้องทำอย่างต่อเนื่อง

การปฏิรูปที่สำเร็จในประเทศทุนนิยมใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 40 ปี แต่สำหรับประเทศไทยถ้าทำต่อเนื่อง 10 ปีเห็นผล แต่ที่ไม่เห็นเพราะทำแล้วทิ้ง ตอนนี้โอกาสเอื้ออำนวย ถ้าเอาความจริงมาพูด ไม่เอาสีเสื้อมาเกี่ยว สามารถเปลี่ยนความคิดคนได้ ช่วงนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ ทุกฝ่ายเป็นสงครามชิงเมือง ที่เพื่อไทยรุกคืบกระชับอำนาจในอนาคต ลบความผิดในอดีต ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ ไม่ปกติแบบนี้ ประชาชนหรือนักการเมืองที่อยู่ในระบบ แสดงว่าอยู่ในระบบที่เขาไม่ชอบธรรม ระบบนี้ไม่มีทางอื่น ต้องถึงเวลาและวาระที่ต้องเลือก

กำลังโหลดความคิดเห็น