xs
xsm
sm
md
lg

"ประพันธ์" เชื่อภายในส.ค. "แม้ว" สำแดงฤทธิ์ จ่อปะทะปชช.ครั้งสำคัญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ประพันธ์" ซัด "แม้ว" สไกป์โกหกหน้าด้านๆกลับดำเป็นขาวทุกเรื่อง ชี้ถ้ายังปล่อยระบอบทักษิณดำเนินต่อไป ต้องสิ้นชาติ ทุกคนกลายเป็นขี้ข้าตระกูลชินวัตรหมด แนะจับตาภายใน ส.ค. เกิดการปะทะกับประชาชนครั้งสำคัญ และจะมีการเปลี่ยนแปลง

วันที่ 20 พ.ค. 56 นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ ผศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี

โดยนายประพันธ์ กล่าวถึงการสไกป์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันครบรอบ 3 ปี สลายการชุมนุมราชประสงค์ ว่า โป้ปดมดเท็จแบบหน้าด้านๆ กลับขาวเป็นดำ แม้กระทั่งเอาคำพิพากษาศาลกรณีเผาเซ็นทรัลเวิลด์มาอ้างให้หยุดวาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง ทั้งที่มันเป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่วาทกรรม เพียงแต่ศาลบอกว่าไม่ใช่การก่อการร้ายแต่คือจลาจล ไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยชอบด้วยกฎหมาย

พ.ต.ท.ทักษิณยังหาว่ามีผู้กล้าเสียชีวิต 90 ศพ แต่ไม่บอกว่าที่ตายก็เพราะไปก่อจลาจล แบบนี้เป็นทรชนอนาธิปไตยไม่ใช่วีรชน ส่วนที่พูดปกป้องปาฐกถาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็บิดเบือน เพราะแท้จริงแล้วทักษิณไม่ใช่ประชาธิปไตยแต่เป็นเผด็จการ เป็นคนสร้างระบอบทักษิณขึ้นมา

ที่บอกไม่เคยฆ่าใคร ตอนเป็นนายกฯมีคนเสนอให้ฆ่านายสนธิ ในฐานะนายกฯมีคนเสนอฆ่าใครต้องให้มีการสอบสวนแล้ว ส่วนคดีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ฝีมือพ.ต.ท.ทักษิณแน่ๆ เพราะมีการประกาศว่าพ่อค้ายาเสพติดไม่ไปคุกก็ไปวัด แล้วส่งสัญญาณให้ใช้ความรุนแรงโดยที่ไม่เคยสั่งให้หยุดและให้สอบสวนตำรวจที่ฆ่าประชาชนเลย นี่ยังไม่รวมกรือเซะและตากใบที่เกิดขึ้นในสมัยทักษิณเช่นกัน

ส่วนที่อ้างว่ารัฐสภามีอำนาจสูงสุด ก็ไม่เป็นความจริง เพราะรัฐสภาเป็นเพียงองค์กรหนึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญเท่านั้น จะมาอยู่เหนือไม่ได้ บอกศาลรัฐธรรมนูญระงับการออกกฎหมายของสภาไม่ได้ ไม่เป็นประชาธิปไตย ความจริงแล้วเป็นการถ่วงดุลตามหลักสากลทั่วโลก

รวมทั้งต่อว่าป.ป.ช.ว่ามีคนวิ่งเต้นเอาเงินตัวเอง 600 ล้านบาท ความจริงแล้วสะท้อนว่าตัวเองต้องการวิ่งเต้นซื้อป.ป.ช. แต่ซื้อไม่ได้เพราะป.ป.ช.ชุดนั้นเต็มไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ แต่มาประสบความสำเร็จในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ หลักฐานปรากฎชัดแล้วในศาลว่าได้ให้น้องชาย น้องสาว ไปพูดกับนายอุระ หวังอ้อมกลาง (อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ) ว่าอย่างไร ไม่ใช่แบบที่พูดโม้ว่าไม่ยอมใช้เงินซื้อตำแหน่งมาเป็นนายกฯ

กรณีต่อว่าไทยสปริง ก็เป็นอาการให้เห็นว่าขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณรู้ดีว่าประชาชนเริ่มตื่น ไม่ใช่แค่ไทยสปริงแต่ยังมีอีกหลายๆกลุ่ม เพราะประชาชนเห็นพ้องต้องกันว่าเราจะปล่อยให้ระบอบทักษิณฟื้นฟูขึ้นมาและเติบโตต่อไปไม่ได้ ฉะนั้นถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านงบประมาณรายจ่ายปีนี้ไป ผ่านเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท แผนจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท พ.ต.ท.ทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะมีเงินจากการใช้อำนาจทางการเมือง ทุจริตคอร์รัปชันมานับล้านๆบาท จะทำให้มีกำลังเงินมหาศาลซื้อประเทศนี้ก็ได้ สืบทอดอำนาจรัฐต่อเนื่องยาวนานได้เลย

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า การพูดถึงกลุ่มที่ต่อต้าน แสดงว่าพ.ต.ท.ทักษิณหวาดกลัวพลังของประชาชน เพราะคนชั้นกลางรุ่นใหม่กำลังตื่นตัว รวมถึงกระแสในสังคมออนไลน์ ที่กำลังก่อตัวรวมตัวเป็นคลื่นลูกใหญ่ต่อต้านระบอบทักษิณ เพราะถ้าปล่อยให้อยู่ในอำนาจต่อไปเราต้องสิ้นชาติสิ้นประเทศ ทุกคนต้องกลายเป็นขี้ข้าตระกูลชินวัตรทั้งหมด

นายประพันธ์ ยังกล่าวถึงการประชุมเครือข่ายภาคสังคมที่ไปเข้าร่วมมา ว่า พ.ต.ท.ทักษิณรู้ตัวดีว่าเสถียรภาพรัฐบาลมีความไม่แน่นอนสูงยิ่ง ภาพลักษณ์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ต่ำลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังปาฐกถาที่มองโกเลีย เกิดคลื่นกระแสสังคมโดยเฉพาะชนชั้นกลางไม่ยอมรับนายกฯมากขึ้นๆ บวกกับการแสดงออกของเสื้อแดงที่หยาบคายก้าวร้าว เมื่อเป็นอย่างนี้ทำให้ประชาชนกลางๆที่ไม่อยากยุ่งการเมือง เห็นว่านับวันยิ่งหนักข้อ ลุแก่อำนาจ คอร์รัปชันหนักขึ้นทุกวัน ทุกฝ่ายเริ่มไม่ยอมรับ

วันนี้ถ้าหากมีการสู้กับระบอบทักษิณอีก จะสู้อย่างไร ขณะนี้เราอาจยังไม่ทราบว่าโครงสร้างทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง เปลี่ยนไปอย่างไร ทำไมเกิดพลเมืองไทยเฉยมากขึ้น ทั้งที่รัฐบาลเลวทราม ฉ้อฉลหนักกว่าในอดีต เลยมีการหารือในเครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มต่างๆที่มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าจะทำอย่างไรกับปัญหาการฟื้นระบอบทักษิณอีกครั้ง

ซึ่งในที่ประชุมวันนี้ก็ประเมินระบอบทักษิณ ระบอบทุนนิยมในประเทศไทยว่าพัฒนาไปถึงไหน ตัวเลขจากอ.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ สรุปว่าเศรษฐกิจไทย 40-50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นกับกระแสโลก ทุนระบอบทักษิณเชื่อมกับทุนกระแสโลก ซึ่งเป็นทุนขนาดใหญ่และครอบงำการเมืองไทยอยู่ในขณะนี้ รัฐกับทุนกลายเป็นพวกเดียวกันไปแล้ว รัฐกลายเป็นอำนาจทุน ระบอบการเมืองไทยจึงเป็นแบบทุนครอบงำ

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ทุนนิยมมีแบบสามานย์กับที่มีคุณค่า แบบที่มีคุณค่านั้นจะถูกควบคุมตรวจสอบได้ ทำให้พลเมืองพึ่งตัวเองได้ มีเสรีภาพ แต่ถ้าสามานย์มันจะครอบงำรัฐ รัฐเป็นเจ้าของทุน รัฐเป็นระบบวงศาคณาญาติ เต็มไปด้วยการคอร์รัปชัน สร้างการผูกขาดหลายๆด้าน ซึ่งทุนจะสามานย์ไม่ได้ถ้าประชาชนเข้มแข็ง

เลยต้องมามองดูว่าทำไมประชาชนไม่ลุกขึ้นมาสู้ ก็อยู่ที่โครงสร้างการเปลี่ยนแปลงประชากร ฉะนั้นใครก็ตามที่ลุกขึ้นสู้ระบอบทักษิณต้องเข้าใจปัญหานี้เสียก่อน

นายประพันธ์ กล่าวว่า แต่อย่างไรก็ตามทุกคนมองว่าขณะนี้ระบอบทักษิณมาถึงจุดที่ต้องปะทะกับประชาชนครั้งสำคัญ เพราะทักษิณก็ต้องการเร่งรัดโครงการต่างๆ เพื่อนำเงินมาใช้ผูกขาดอำนาจให้ยาวนานที่สุด

ด้วยพลังการเงินที่เขาครอบครองอยู่ บวกกับซื้อตำรวจ ซื้อสื่อ หากปล่อยให้ระบอบทักษิณไปต่อสัก 10 - 20 ปี ไม่แน่จะเอาลงได้หรือไม่ เพราะระบอบนี้ทำให้อำนาจรัฐแข็งแกร่ง แต่ทำลายพลังประชาชนหมดสิ้น

ทุกคนประเมินว่าภายในสิงหาคมนี้ คดีที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ก็หวังว่าตุลาการจะกล้าพอ เพราะแถลงการณ์ของ ส.ส.เพื่อไทย ก็คือใบเสร็จที่แสดงว่าไม่เคารพรัฐธรรมนูญ การสร้างระบบงบประมาณขึ้นมาใหม่จากพ.ร.บ.เงินกู้ที่ผิดกฎหมายก็ต้องปล่อยให้ผ่านไม่ได้ เมื่อนิรโทษก็ไม่ได้ แก้รัฐธรรมนูญก็ไม่สำเร็จ บวกกับกระแสประชาชนที่ก่อตัวขึ้นมา ถึงตอนนั้นทักษิณต้องแสดงฤทธิเดชออกมาจะเกิดการปะทะทางสังคมและเกิดการเปลี่ยนแปลง

แต่อย่างไรก็ตามประชาชนได้รวมตัวกันหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นไทยสปริง สยามประชาภิวัฒน์ พี่น้องที่สู้เรื่องน้ำ เรื่องทรัพยากร แม้คนละประเด็นแต่จุดศูนย์รวมทุกคนก็จะมารวมกัน เพราะต้นตอมาจากอำนาจรัฐซึ่งเป็นทุนสามานย์ด้วยระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นต้อนตอของปัญหาทุกปัญหาที่ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม เราต้องทำสงครามความคิดบอกประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างเป็นระบบ อย่างมีข้อมูล เพื่อให้คนชั้นกลางและล่างเกิดการรวมตัวกัน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศ

การประชุมวันนี้เป็นการเริ่มต้นความคิด แล้วจะนำไปสู่การสร้างองค์กรภาคประชาชนเพื่อทำงาน ไปสู่ภารกิจการเปลี่ยนแปลง และหาจุดจบระบอบทักษิณ

ด้าน นายพิชาย กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้กลัวพวกเรา เพราะพวกเรามีปริมาณคงที่ แต่กลัวคนที่สนับสนุน หลังเจอกระแสต่างๆ จะเปลี่ยนใจไปเป็นคัดค้าน เพราะประเด็นต่างๆมีการขยายตัวมากขึ้นๆ สิ่งที่ทักษิณพูดคนเชื่อน้อยลง เลยต้องออกมาโพสต์บ่อยๆ พูดบ่อยๆ เพื่อดึงคนไว้ เพราะคงประเมินได้ว่าเริ่มเสื่อมแล้ว หน้ากากประชาธิปไตยที่สวมไว้ มันเริ่มปริให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงทุกวันๆ คำพูดรัฐบาล คนในรัฐบาลเอง สะท้อนว่าทัศนคติของนักการเมืองก๊วนนี้ดูถูกประชาชน ไม่เพียงแต่นายปลอดประสพ แต่ส.ส.คนอื่นก็ได้พูดในแวดวงเขาเอง โดยดูถูกมวลชนเสื้อแดง เพราะซื้อได้ก็เอามาใช้งานได้

นายพิชาย กล่าวอีกว่า อำนาจที่ทักษิณสร้างขึ้นมาด้วยการใช้เงิน ความรุนแรง ความเท็จ การปกปิดความจริง ความประพฤติมิชอบ โฆษณาชวนเชื่อ อำนาจแบบนี้มีโครงสร้างเหมือนปราสาททราย เมื่อถูกคลื่นซัดซึ่งก็คือกระแสประชาชน ก็สามารถล้มลง พังพินาศได้ไม่ยาก

บวกกับอีก 2 เรื่อง ที่ช่วยให้โค่นล้มลง คือ จำนำข้าว กับมาตรา 68 จะเป็นกระแสคลื่นอีกลูกที่ประสานกับคลื่นประชาชน กวาดปราสาททรายร่วนๆนี้ แม้ภายนอกเหมือนแข็งแกร่งแต่ภายในเป็นโครงสร้างที่อ่อนยุ่ย นี่เป็นที่มาของคำว่าเกมนี้ใกล้จบเต็มที

กำลังโหลดความคิดเห็น