xs
xsm
sm
md
lg

“คำนูณ” เชื่อจี้ลดดอกเบี้ย แผน รบ.ยึดแบงก์ชาติ-ดูดทุนสำรองระหว่างประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“คำนูณ” เชื่อคลังจี้ลดดอกเบี้ยเป็นแผนรัฐบาลจ่อยึดแบงก์ชาติ หวังใช้เป็นข้ออ้างปลดผู้ว่าฯ ธปท. - แก้กฎหมายเปิดทางดูดทุนสำรองระหว่างประเทศมาใช้ ตรงกับยุทธศาสตร์ตั้งกองทุนมั่งคั่งที่เคยพูดไว้ ด้าน “อ.ณรงค์” ชี้ดอกเบี้ยสูงไม่ใช่สาเหตุหลักทำเงินไหลเข้า แต่เป็นการเก็งกำไรตลาดหุ้น-คอนโดฯ ชี้ลดดอกเบี้ยเสี่ยงเกิดเงินเฟ้อ มนุษย์เงินเดือนแบกหนี้อ่วม 

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนเคาะข่าว”  

วันที่ 12 ก.พ. 56 นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

นายคำนูณกล่าวถึงแนวคิดของกระทรวงการคลังที่ต้องการลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินไหลเข้า ว่า ตนมองว่าการประชุมของบอร์ด กนง. (คณะกรรมการนโยบายการเงิน) วันที่ 20 ก.พ.นี้ ไม่ใช่แค่จะลดหรือไม่ลดดอกเบี้ย แต่ตนว่ามันปูทางไปสู่เรื่องใหญ่กว่านั้น คือรัฐบาลต้องการยึดแบงก์ชาติให้ได้ อาจจะด้วยวิธีเปลี่ยนผู้บริหารแบงก์ชาติ เพื่อให้ทางการเมืองกระชับอำนาจแบงก์ชาติได้มากขึ้น ที่สำคัญคือการแก้กฎหมายแบงก์ชาติปี 51 ก็จะพ่วงวิธีการบริหารสินทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทยให้ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ผลตอบแทนมากแต่มีความเสี่ยงสูงได้ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลตั้งไว้แต่ตอนต้นแล้วแต่ยังทำไม่สำเร็จ นั่นคือนำทุนสำรองระหว่างประเทศไปตั้งกองทุนความมั่งคั่งฯ แล้วปีนี้สำคัญเพราะรัฐบาลต้องลงทุนในสาธารณูปโภคพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งตนเชื่อว่ามันเกี่ยวพันกับทุนสำรองระหว่างประเทศแน่นอน

ส.ว.สรรหากล่าวอีกว่า ยุทธศาสตร์รัฐบาลที่เคยพูดเมื่อปีกว่าที่ผ่านมาว่าจะเอาทุนสำรองระหว่างประเทศมาตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ทีนี้การจะเอามาถ้าแบงก์ชาติค้านก็เป็นไปไม่ได้ ซึ่งแบงก์ชาติก็ไม่ได้ค้านไม่ให้เลยซะทีเดียว แต่บอกเอาไปได้แต่ต้องเอาหนี้ไปด้วย คือเอาดอลลาร์ไปก็ต้องเอาเงินบาทมาแลก ด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาลมาแลก ซึ่งรัฐบาลไม่เห็นด้วยจะออกเป็นพันธบัตรดอลฯมาแลก ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ทีนี้รัฐบาลคงคิดวิธีเอาทุนสำรองมาโดยไม่ต้องเอาเงินบาทไปแลก เท่ากับว่าได้เงินมาใช้ฟรีๆ เราจะมีโครงการ พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้าน ซึ่งยังไม่ได้ใช้เท่าไหร่เลย แล้วยังจะออก พ.ร.บ.กู้ 2.2 ล้านล้านบาท จะเป็นไปได้อย่างไร ตนเลยเชื่อลึกๆ ว่าทุนสำรองระหว่างประเทศจะมาตอบโจทย์ข้อนี้ของรัฐบาล เพื่อจะได้ไม่ต้องกู้ถึง 2.2 ล้านล้านบาท แล้วจะทำแบบนี้ได้ต้องมีผู้ว่าฯ แบงก์ชาติที่พูดจาประสาเดียวกัน และต้องมีกฎหมายแบงก์ชาติฉบับใหม่เพื่อเปิดทาง เพราะกฎหมายแบงก์ชาติปัจจุบันบอกว่าเอาสินทรัพย์ไปลงทุนที่ผลตอบแทนไม่มากแต่ปลอดภัยสูง แก้จะได้กลายเป็นเอาไปลงทุนที่ได้ผลตอบแทนเยอะแต่เสี่ยงสูง

การให้ลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นเพียงหนึ่งในเหตุผลที่เอามาอ้าง เพราะ กนง. มีคนของแบงก์ชาติ 3 คน คนนอก 4 คน มติออกมาให้ลดดอกเบี้ยเป็นไปได้สูงอยู่แล้ว แต่ทำไมรัฐบาลต้องปูพรมถล่มขนาดนี้ คงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากรัฐบาลต้องการยึดแบงก์ชาติ

นายคำนูณกล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดจากการลดดอกเบี้ยว่า คนฝากกินดอกเดือดร้อนแน่ เงินออมในประเทศก็จะไหลไปสู่การลงทุน เช่น ซื้อคอนโดฯ เล่นหุ้น และนี่คือสิ่งที่แบงก์ชาติกังวล เศรษฐกิจระยะยาวจะขาดความมั่นคง ในทางกลับกันจะเกิดการใช้จ่ายมากขึ้น ตัวเลขดัชนีต่างๆ จะดูดีเพื่อรัฐบาลจะได้เอามาโฆษณาว่าเศรษฐกิจดีภายในระยะสั้นก่อนการเลือกตั้งจะครบวาระใน 2 ปีข้างหน้า แต่ผลเสียมันจะออกมาในระยะยาว

ด้านนายณรงค์กล่าวว่า การกดดันแบงก์ชาติให้ลดดอกเบี้ย กระทรวงการคลังหวังผลอะไร ที่บอกว่าสกัดเงินทุนไหลเข้า ปัญหาเงินทุนไหลเข้าที่แท้จริงเกิดจากอะไร ถ้าวิเคราะห์เหตุไม่ออกทำไมฟันธงให้ลดดอกเบี้ย สามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าดอกเบี้ยเป็นตัวการให้เงินไหลเข้า

จริงอยู่ที่ดอกเบี้ยเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เงินไหลเข้า แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด กลุ่มที่เข้ามาเพื่อกินส่วนต่างของดอกเบี้ยมีปริมาณไม่มาก ถ้าเทียบกับพวกเข้ามาเก็งกำไรตลาดหุ้น และอสังหาริมทรัพย์ ทำไมถึงไม่มองตัวนี้ ถ้าจะสกัดเงินไหลเข้าตนเสนอให้จับดอลลาร์มาขัง ปล่อยให้เข้ามาได้แต่ 50 เปอร์เซ็นต์ ต้องบังคับให้ฝากไว้ 1 ปี เพราะการลงทุนที่มีประโยชน์สูงสุดต่อประเทศคือการลงทุนในภาคการผลิตที่แท้จริง แล้วเราก็เอาก็เงินฝากนี้มาช่วยเอสเอ็มอี ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด แต่ถ้าเป็นพวกที่เข้ามาเก็งกำไรแบบเข้ามาวันนี้พรุ่งนี้ออก แบบนี้ไม่เกิดประโยชน์ วิธีนี้พวกเก็งกำไรจะไม่เข้ามา ส่วนพวกที่เข้ามาเพื่อฝากกินดอกเบี้ยเขาก็พอใจ เราก็ได้ประโยชน์จากเงินฝากประจำ

นายณรงค์ยังกล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าลดดอกเบี้ยแก้ปัญหาไม่ได้ แล้วผลกระทบต่อประชาชนมันค่อนข้างมาก เนื่องจาก ปี 56 เงินเฟ้อเกิน 3 เปอร์เซ็นต์แน่นอน ดอกเบี้ยเงินฝากประจำจะตามเงินเฟ้อทันหรือเปล่า คนฝากเงินเพื่อกินดอกเบี้ยส่วนใหญ่ก็คือข้าราชการ พนักงานบริษัท มนุษย์เงินเดือน แต่ดอกลดทุกวัน ไม่คิดถึงเขาบ้างหรือ

อีกทั้งยังเสี่ยงต่อเรื่องเงินเฟ้อ ปัจจุบันหนี้ต่อครัวเรือนโดยรวม 50 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีแล้ว ส่วนชนชั้นล่างหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ หนี้บ้านหลังแรกไม่เท่าไหร่ แต่หนี้รถคันแรกมีเยอะ มีหลายล้านบัญชีส่อว่าจะไม่ใช้หนี้ ฟองสบู่เริ่มตั้งแล้ว ถ้าลดดอกเบี้ย เงินฝากก็จะน้อยลง นักลงทุนก็กู้เงินดอกเบี้ยต่ำไปเล่นหุ้น ซื้อคอนโด ทำแบบนี้ตัวราคาสินค้าก็จะเพิ่ม คนทำงานกินเงินเดือนจะเป็นหนี้มากขึ้นเพราะดอกถูก ของขึ้นราคา แต่เงินเดือนเท่าเดิม ทำให้ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน หนี้ครัวเรือนก็สูงขึ้นไปอีก อีกทั้งยังเป็นการผลักคนไปกู้นอกระบบมากขึ้น สังคมปัจจุบันเป็นสังคมคนงาน คนงานมีมากกว่าเกษตรกรแล้ว ฉะนั้นถ้าผลักภาระทั้งหมดไปให้คนงานจะเกิดอะไรขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น