“รศ.ดร.ณรงค์” ซัดรัฐหลอกล่อ ตอแหล อ้างประชานิยมทำเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ แฉจำนำข้าวได้ประโยชน์เพียง 6 แสนกว่าราย แถมส่วนใหญ่เป็นชาวนาที่รวย ชี้คนชั้นกลางที่จ่ายภาษีต้องแบกรับภาระอ่วม ด้าน “ณรงค์ โชควัฒนา” หวังประเทศเกิดปัญหาเร็วๆ ประชาชนจะได้ตื่นรู้ทัน หวั่นนานไปเสียหายหนัก
วันที่ 25 ต.ค. รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายณรงค์ โชควัฒนา นักธุรกิจอิสระ ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
โดย รศ.ดร.ณรงค์กล่าวถึงนโยบายประชานิยมว่า คนชั้นกลางคือคนเสียภาษี แต่รัฐชอบโฆษณาว่าทำเพื่อคนส่วนใหญ่ อย่างจำนำข้าว ตัวเลขคนทำนาในไทยมี 3.9 ล้านราย อยู่ในส่วนของนาปี 3.3 ล้านราย ซึ่งนาปีนี้ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคอีสาน ยากจนจริง ทำนาได้เพียงปีละครั้ง ส่วนนาปรัง 6 แสนกว่าราย นาปีคืออยู่ในพื้นที่ชลประทาน ทำนาได้ปีละสองครั้ง ส่วนใหญ่ฐานะดี แล้วพอไปดูเลขจำนำข้าวช่วง ต.ค. จากนาปี 6.9 ล้านตัน แล้วมาจากคนแค่ 1.1 ล้านราย แล้ว 2 ล้านกว่ารายไปไหน เท่ากับว่านาปีเข้าร่วมโครงการแค่ 1 ใน 3 ส่วนข้าวจากนาปรัง 2 รอบมีถึง 14 ล้านตัน ทั้งๆที่มีคนแค่ 6 แสนกว่าราย รัฐจ่ายเงินในการจำนำให้นาปีแสนกว่าล้าน นาปรังสามแสนกว่าล้าน ลองคำนวณเล่นๆชาวนานาปีได้ไปคนละ 3 หมื่นบาท ส่วนนาปรังได้คนละ 4 แสน แล้วคน 6 แสนกว่ารายนี้เรียกว่าเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศหรือ ที่หนักกว่าบางคนมีนา 40-100 ไร่ เป็นชาวนารวย รายได้ตกเดือนละแสน แล้วไม่ต้องจ่ายภาษี มันเป็นการสร้างวาทกรรมให้เหมือนว่าชาวนาคือคนส่วนใหญ่ของประเทศ เป็นการหลอกล่อและตอแหล
รศ.ดร.ณรงค์กล่าวอีกว่า ถ้ารัฐยังจะดันทุรังทำประชานิยม ตนแนะนำให้เก็บค่าภาคหลวงน้ำมันและแร่ทุกชนิดแพงๆ มาทำ นอกจากนี้ประชานิยมต้องมีเงื่อนไขให้คนหารายได้ สร้างงานให้เขาทำ ไม่ใช่แจกแบบไม่มีเหตุผล
นายณรงค์กล่าวว่า ในต่างประเทศใช้รัฐสวัสดิการ เช่น สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก เขาทำได้ เพราะทรัพยากรเยอะแล้วคนน้อย เขาอาศัยทรัพยากร แต่วันนี้ไทยมีน้ำมันเยอะแต่กลับถูกฉ้อฉลไป ไม่เช่นนั้นสามารถเอาเงินตรงนี้มาทำรัฐสวัสดิการได้
นายณรงค์กล่าวต่อว่า ตนเป็นห่วงการกู้เงินตราต่างประเทศ อย่างสหรัฐฯ กู้เงิน แต่ก็กู้ดอลลาร์ซึ่งเขาผลิตเอง ก็ไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหนมาทวง แต่ไทยไปกู้เงินตราที่ตัวเองพิมพ์ไม่ได้ แล้วนึกว่าเท่ห์ ถ้าเจ้าหนี้มาทวงพร้อมๆ กัน ตายแน่ ตอนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจคราวที่แล้ว หนี้สาธารณะของเราก็ไม่เยอะ แต่เพราะเป็นหนี้เงินตราต่างประเทศ ทั้งๆที่สามารถกู้เงินในประเทศได้ แล้วใช้เงินซื้อของในประเทศให้เกิดการจ้างงาน แต่กู้เงินต่างประเทศก็ต้องซื้อของต่างประเทศ กลายเป็นการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจต่างประเทศ ไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจไทย
และที่น่ากังวลที่สุด คือ การเสพติดประชานิยม ประชาชนชนมีค่านิยมว่าไม่ต้องทำอะไร เลือกนักการเมืองชั่วๆ เข้าไปเดี๋ยวก็มีคนเอาเงินมาแจก การคิดแบบนี้จะทำความเสียหายให้ประเทศอย่างมาก กว่าจะตื่นรู้คงต้องใช้เวลาอีกนาน โดยส่วนตัวแล้วตนอยากให้เกิดปัญหาเร็วๆ ยิ่งดี ประชาชนจะได้ตื่นรู้เร็ว แต่ถ้าช้าจะเสียหายหนัก
