โฆษก ปชป.เผยพรรคเตรียมขุนพลถล่ม ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน เตือนหากขัดขวางไม่ให้อภิปรายเต็มที่ เจอยื่นศาล รธน.เล่นงานแน่ เชื่อรัฐบาลอดกู้ เหตุขัด รธน. ซ้ำรอยเงินกู้ 3.5 แสนล้าน ปูดรอยเตอร์แฉจีนไม่ได้ซื้อข้าวไทยตามที่ รมว.พาณิชย์อ้าง ห่วงทุจริตซ้ำรอยให้เอกชนไทยสวมรอยเป็นจีน เย้ยรัฐบาลถังแตก หมุนเงินไม่ทันรับจำนำรอบหน้า จี้เร่งแก้ค่าครองชีพ เชื่อของแพงเพราะนโยบายรัฐบาลผิดพลาด ฉะ “พร้อมพงศ์” มั่วอ้าง ปชป.จะเปลี่ยนตัวหน้าพรรค ยันสมาชิกยังหนุน “มาร์ค”
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่จะมีการพิจารณาในวันที่ 19-20 กันยายนนี้ว่า หากรัฐบาลใช้วิธีการตัดบทรวบรัดปิดอภิปรายเหมือนที่เกิดขึ้นกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. ตนเกรงว่าจะกลายเป็นการขุดหลุมฝัง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทด้วยมือของรัฐบาลเอง ทั้งนี้ ยืนยันว่าฝ่ายค้านและทุกคนในประเทศไทยสามารถยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ เพราะถ้ารัฐบาลทำตามรัฐธรรมนูญก็ไม่มีความเสี่ยงหรือผิดพลาด ดังนั้นต้องไปทบทวนตัวเองว่าทำไมจึงฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญอยู่เป็นระยะ พยายามตะแบงหาช่องว่างรัฐธรรมนูญออกกฎหมายที่สุ่มเสี่ยงจะขัดรัฐธรรมนูญ พอมีคนไปร้องต่อศาลก็จะโทษศาลรัฐธรรมนูญ กรณีเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทที่ช้าก็เพราะรัฐบาล โดยตนเชื่อว่าเป็นโมฆะซึ่งจะซ้ำรอยกับกรณีเงินกู้ 2 ล้านล้าน บาทที่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 169 แต่มีความพยายามใช้เสียงข้างมากเปลี่ยนผิดเป็นถูก
ส่วนที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ อ้างว่ามีการขายข้าวแบบจีทูจีให้กับจีนประมาณ 1-1.2 ล้านตัน แต่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของรัฐบาลไทย จึงไปสอบถามหน่วยงานที่นำเข้าสินค้าด้านการเกษตรของรัฐบาลจีน และได้รับการยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่จีนจะนำเข้าข้าวจำนวนมหาศาลขนาดนั้น เพราะภายในประเทศไม่ได้มีความต้องการจึงไม่จำเป็นต้องซื้อข้าวจำนวนมาก มีแต่การพูดคุยไม่ได้มีสัญญาอย่างเป็นทางการ เท่ากับเป็นการตบหน้ารัฐบาลอย่างแรง ดังนั้น นายนิวัฒน์ธำรงต้องชี้แจงว่าที่อ้างขายข้าวให้จีนคือการขายข้าวให้พรรคพวกภายในประเทศไทย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นโดยให้เอกชนไทยสวมรอยเป็นรัฐบาลจีน ซื้อข้าวราคาถูกไปขายในราคาแพง ใช่หรือไม่
นายชวนนท์กล่าวว่า ถ้ายังทุจริตเช่นนี้ตนเชื่อว่ารัฐบาลจะไม่มีเงินเพียงพอสำหรับฤดูกาล 56/57 ซึ่ง ครม.ตั้งงบไว้ 2.7 แสนล้านบาท แต่กระทรวงการคลังยังไม่ทราบว่าจะนำเงินมาจากไหน เพราะวงเงิน 5 แสนล้านใช้เต็มวงเงินแล้วตามกรอบที่มติ ครม.กำหนด โดยใช้ไปแล้ว 6.7 แสนล้านบาท แล้วจะหาที่ไหนอีก 2.7 แสนล้านมาจำนำข้าวรอบใหม่ หากยังปล่อยให้มีการลักลอบไปขายโดยอ้างรัฐบาลจีน ก็จะยิ่งทำให้เกิดการทุจริตมากกว่าเดิม นายนิวัฒนธำรงต้องตอบว่าประเทศจีนที่อ้างถึงคือ “จีนไหน” และฝากถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วยว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร
นายชวนนท์ยังกล่าวตำหนิการบริหารงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนในภาวะค่าครองชีพพุ่งสูงจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลว่า จากการตรวจสอบครึ่งเดือนแรกของการขึ้นราคาแก๊สหุงต้มพบว่า สินค้าหมวดอาหารมีการปรับราคาขึ้น แต่รัฐบาลกลับบอกว่าสินค้าไม่แพง อ้างว่าคิดไปเอง สื่อชี้นำ และล่าสุดนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ บอกว่า พ่อค้าแม่ค้าขึ้นราคาตามกัน ทั้งๆ ที่ความจริงอาหารตามสั่งขึ้นราคาทุกอย่าง เช่น บางพื้นที่ไข่ดาวราคา 15 บาท ในบางแห่งไข่ต้มเบอร์ 3 ราคา 8 บาท เพราะไข่แพงและแก๊สแพง รัฐบาลต้องตระหนักและเลิกใช้วิธีพูดว่าประชาชนคิดไปเอง เพราะของแพงจริงเนื่องจากแก๊สหุงต้ม ราคาวัตถุดิบปรับขึ้นทั้งหมด แต่ยังไม่เห็นแนวทางในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ซึ่งในวันที่ 16 ก.ย.นี้มีร้านอาหารหลายแห่งจะปรับราคาขึ้น รวมทั้งร้านค้าที่กระทรวงพาณิชย์ด้วย ดังนั้นรัฐบาลต้องดูแลประชาชนด้วยความจริงใจ เพราะเป็นผู้กำหนดนโยบายกระชากค่าครองชีพให้ขึ้นสูงไม่ใช่กลไกตลาด จึงต้องดูแลปัญหาให้ประชาชนไม่ใช่มุ่งคิดแต่เรื่องการเมือง ออกกฎหมายล้างผิด กู้เงินสร้างหนี้ให้กับลูกหลาน
ส่วนที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างว่ามีข่าวจะเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นการผิดมารยาททางการเมืองอย่างยิ่งที่ก้าวล่วงเรื่องภายในของพรรคการเมืองอื่น และตนยืนยันว่าสมาชิกพรรคให้การสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะยืนหยัดต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และกล้าพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม ไม่เคยโอดโอยเมื่อถูกกระทำหรือใส่ร้าย ยืนรับทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างลูกผู้ชาย พรรคยืนยันอยู่หลังนายอภิสิทธิ์ตลอดไป พรรคเพื่อไทยอย่ามาสอดรู้สอดเห็นพรรคการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม ทางที่ดีไปบอกให้ ส.ส.เพื่อไทยจำชื่อหัวหน้าพรรคตัวเองได้หรือไม่ ตนไม่ต้องการมีหัวหน้าพรรคแบบนั้น แต่ต้องการหัวหน้าพรรคที่เป็นเสาหลักในการต่อสู้เพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ