เกาะกระแส
00 กลับมาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว หลังจากผ่าน "ทริปหรู" ท่องแดนยุโรปแบบโรแมนติกนานนับสัปดาห์ แน่นอนว่านี่คือรายการผลาญงบชาวบ้าน และผลงานที่ได้ก็ไม่คุ้มค่า ทุกอย่างเป็น "นามธรรม" เป็นฝุ่นผงล่องลอยในอากาศ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อย่างที่มี "ขี้ปาก" ชาวบ้านเขาก่นด่าจริงๆ แถมยังไป "โชว์โง่" สถาปนา "นครรัฐอิตาลี" ขึ้นมาแบบหน้าตาเฉย ดังนั้นงานนี้ถ้าสรุปว่าเธอ"ไปถ่ายรูป"เป็นที่ระลึกนั่นแหละถือว่าคุ้ม และอาจเป็นไปได้ว่า นี่แหละคือความปราถนาส่วนตัว ขณะเดียวกันสำหรับกำหนดการที่ว่ากันว่า "เป็นวาระหลัก" ก็น่าจะเป็นการเดินทางไปประเทศมอนเตเนโกร อันแสนลำบาก เพราะต้องเปลี่ยนเครื่องบินลำเล็ก เพราะที่นั่นรันเวย์ไม่พร้อมรองรับเครื่องบินลำใหญ่ แต่เมื่อกำหนดการบังคับให้ต้องใช้ตำแหน่งนายกฯไป"แสตมป์" ก็ต้องไปจนได้
00 ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ทำให้คนไม่น้อยคิดไปแบบนั้น เพราะเมื่อพิจารณาจากแบ็กกราวด์ตัวบุคคล รวมไปถึงจำนวนประชากร ขนาดทางเศรษฐกิจของมอนเตฯไม่ว่ามองมุมไหนมันก็ไม่มีความจำเป็นที่คนระดีบนายกฯ ต้องเดินทางนำคณะใหญ่ไปอำนวยความสะดวกหรือ "แถ" ไปลงนามถึงที่นั่น เพราะจำนวนพลเมืองไม่ถึงล้านคน ขนาดเศรษฐกิจเล็กนิดเดียว มีมูลค่าค้าขายกับไทยปีที่แล้วไม่ถึง 10 ล้านเหรียญ และมีคนเดินทางมาไทยแต่ละปีไม่ถึงสองร้อยคน แต่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับยกคณะใหญ่ไปลงนามยกเว้นวีซ่าสำหรับนักการทูต และวีซ่าสำหรับคนที่ถือหนังสือเดินทางข้าราชการ ดังนั้นถ้าอ้างเรื่องมูลค่าทางเศรษฐกิจ ก็สมควรหุบปากไปเลย แต่ถ้าบอกว่า "ประเทศนี้กูและครอบครัวชินวัตรครอบครองได้เบ็ดเสร็จแล้ว กูจะไปเสียอย่างจะทำไม " เออถ้าอย่างนั้นว่าไปอย่าง ไม่ต้องมาพิจารณาเรื่องเหตุผลให้เปลืองน้ำลาย
00 งานนี้ถ้ามองกันอย่างรู้ทัน ก็ต้องฟันธงว่าเป็นแค่ต้องการ"โชว์พาว"ให้กับ"พี่ชายตัวแสบ" คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เวลานี้ถือสัญชาติมอนเตฯ เป็นพลเมืองของประเทศนั้นไปแล้ว และที่ผ่านมาก็ไปลงทุนซื้อคฤหาสน์หรู ตามที่มีการเปิดเผยภาพทางโซเชียลมีเดียโดยลูกๆของตัวเองเมื่อคราวที่เดินทางไปเยี่ยมเยียนกันที่นั่นมาแล้ว ทำเหมือนประกาศให้ทางโน้นรู้ว่า "ข้านี่แหละของจริงสั่งนายกฯไทยได้" ต่อไปมันก็ย่อมมีผลประโยชน์ทางธุรกิจได้อย่างราบรื่น อีกทั้งต่อไปบรรดา "ขี้ข้า"ที่เป็นข้าราชการทั้งหลายจะไปคุกเข่ากราบกรานขอตำแหน่งก็คงไม่มีหลักฐานจากตม.ปรากฏให้เห็น "ทางสะดวก"แล้วเฟ้ย !!
00 เดือนกันยาฯถึงตุลาฯทุกปีนี่มันต้องมีเรื่องให้ระทึกใจอยู่เรื่อยปีนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่อาจแตกต่างออกไป เพราะเรื่องปัญหาโยกย้ายวิ่งเต้นของข้าราชการในหน่วยงานสำคัญเคลียร์กันในระดับขี้ข้าเรียบร้อย ไม่เว้นแม้แต่ในวงการ "มีสี"ก็ไม่หือไม่อือ จะมีก็แต่จากปัญหาภายนอก จากปัญหาสังคม ข้าวของแพง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำนี่ต่างหากที่จะ "กระชากปู" ลงมาให้ยับเยิน เพราะทุกโพลที่ออกมาล้วนบ่นเป็นเสียงเดียวเรื่อง "ของแพง" ไม่ใช่ความรู้สึกอย่างที่บรรดาข้าราชการบางคนที่ "เลีย"กันจนไม่ลืมหูลืมตาพ่นน้ำลายออกมา
00 พูดถึงเรื่องราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เรื่องราคายางยังจบไม่ลง เพราะรัฐบาลตอบสนองในสิ่งที่ชาวสวนไม่ได้ร้องขอ และจุดประสงค์ที่เห็นได้ชัดก็คือเจตนายุแยงให้เกิดความแตกแยกในท้องถิ่น ใช้"วิชามาร" ที่อำมหิตที่สุด ไม่ต่างจากการทำลาย "พวกหัวแข็ง" เวลาเจรจารับปากอย่าง แต่เวลาปฏิบัตกลับออกมาอีกอย่าง ปากกล่าวหาว่าคนอื่น "เล่นการเมือง"แต่เท่าที่เห็นรัฐบาลนั่นแหละตัวดี ที่เล่น"การเมืองไร้มาตรฐาน" วันนี้เมื่อมีชาวสวนยางประท้วงให้ประกันราคา 120-100-90 บาทต่อกก. ก็ต้องมาจับตาดูว่าในวันที่ 16 กย.ที่ชาวนาในภาคกลางที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยนัดออกมาชุมนุมกดดันให้รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ขยายเวลารับจำนำข้าวออกไปอีกประมาณหนึ่งเดือน เพราะอ้างว่าหากกำหนดเวลารับจำนำข้าวในฤดูกาลปี 55/56 ที่ให้เวลาแค่ 15 กย.นั้นมีชาวนาหลายรายเก็บเกี่ยวไม่ทัน ทำให้เสียโอกาส ก็ลองทายกันดูเล่นๆว่า รัฐบาล โดยเฉพาะ รอนายกฯและรมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล จะยอมตามข้อเสนอหรือเปล่า หรือจะชี้หน้าว่าเป็น "ม็อบการเมือง"หรือเปล่า !!
00 แม้ว่าอีกใจหนึ่งอยากให้รัฐบาลในระบอบทักษิณ ได่ล้มหายตายจากไปกับความพินาศฉิบหายของตัวเอง และพังเพราะความห่วยแตกของตัวเอง ที่ได้ประจานตัวเองออกมาอย่างเต็มที่แล้ว มากกว่าจะต้องพังไปด้วความผิดทางกม. หรือโดยคำสั่งศาล หรือ จากป.ป.ช. แต่ในเมื่อมันมีการเปิดช่องให้ร้องเรียนมันก็คงต้องเดินไปทางนั้น อย่างที่เห็นตอนนี้ก็มีเรื่องการแก้ไข รธน. ผ่านประเด็นที่มาของส.ว.ที่บรรดา "ไข่ข้างซ้ายและขวา" ใช้อำนาจประธานสภารวบรัดตัดสิทธิ์ ปิดปากฝ่ายค้านไม่ได้อภิปรายตามที่สงวนคำแปรญัตติเอาไว้ อีกทั้งยังมีเรื่องการ "การขัดกันแห่งประโยชน์" งานนี้ทั้ง สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนฯ และ นิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ส่อโดนแน่
00 เรื่องทุจริตจำนำข้าว เรื่องเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่กำลังจ่อเข้ามาต่อเนื่อง งานนี้มีการจองกฐินไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ถ้าผ่านวาระสองไปได้เมื่อไหร่ ก็ต้องไปเจอที่ศาลรธน.แน่ และไม่ต้องมาบิดเบือนกล่าวหาว่าที่คัดค้านว่าเป็นพวก"ถ่วงความเจริญ" เพราะเขาไม่ได้ค้านการพัฒนา แต่เขาค้านวิธีการใช้งบประมาณที่ผิดที่ผิดทาง ตั้งงบเป็นก้อนใหญ่มาถลุงโดยไม่มีรายละเอียดโครงการ ไม่มีรายละเอียดการใช้งบประมาณ แต่ใช้วิธีกู้เงินมาถือเอาไว้ในมือแล้วค่อยคิดโครงการ อย่างนี้สิยอมไม่ได้ เพราะชาวบ้านเขาต้องตามใช้หนี้กันหัวโตถึง 50 ปี รวมทั้งต้นทั้งดอกพอกขึ้นมาเป็นกว่า 5 ล้านล้านบาท ถึงตอนนั้นครอบครัวชินวัตรไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ และดีไม่ดีภายในเดือนสองเดือนนี้ อาจต้องยกโขยงกันไปอยู่ในคฤหาสน์ที่มอนเตเนโกรกันพร้อมหน้าแล้วก็ไม่รู้ เพราะหลายเรื่องมันรุมเร้าประชิดเข้ามาเหลือเกิน !!