xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.จี้ “ปู” เลิกเที่ยว ชี้นายกฯ คนแรกในโลกไร้เงาถกงบฯ บี้ ปธ.สภาเคลียร์งบฉาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษก ปชป.อัด “ปู” นายกฯ คนแรกในโลกที่ไร้ความรับผิดชอบ ชิ่งประชุมงบฯ ตอกเงิน 2.5 ล้านล้านของ ปชช.ไม่ใช่ รบ. ชี้มีปัญหาใต้ ปากท้อง เศรษฐกิจ กลับเมินฟัง “องอาจ” ซัด รบ.เลิกประชุมงบฯ ข้ามคืน หวังเร่งให้จบ อย่าปิดกั้นฝ่ายค้านทำหน้าที่ เล็งอภิปราย งบสภาฯฉาว จี้ “ค้อนปลอม” สอบ ลบข้อครหามีเอี่ยว “วรงค์” ฉะ รบ.ดื้อจำนำข้าวต่อ หวังประโยชน์แฝงเดิมๆ จี้ “ปู” ดูแล เลิกเที่ยว ตปท.



วันนี้ (18 ส.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เข้าร่วมประชุมในสภาแม้แต่วินาทีเดียวในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2557 ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในโลกที่ไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรระหว่างการพิจารณางบประมาณ ทั้งที่เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีโดยตรง เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้โดยเด็ดขาด ที่ผู้นำไม่รับผิดชอบไม่ฟังผู้แทนประชาชน เพราะทุกบาททุกสตางค์ไม่ใช่เงินนายกฯ และพรรคเพื่อไทย แต่เงิน 2.5 ล้านล้านบาทเป็นของประชาชน จึงเป็นบันทึกในประวัติศาสตร์ที่เรามีนายกฯ ไม่ทำหน้าที่และปฏิเสธความรับผิดชอบอย่างชัดเจน ทั้งที่มีปัญหาหลายอย่างที่นายกควรรับฟังนำไปแก้ไข เช่น ปัญหาภาคใต้มีการใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า ไม่มีประสิทธิภาพ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ นายกฯ ก็ไม่ฟัง ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ 80 ต่อจีดีพี น่าเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวเพราะประชาชนจะไม่มีกำลังซื้อ ขณะที่ภาวะการส่งออกหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง การใช้งบประมาณ 370 ล้านไป 45 ประเทศของนายกรัฐมนตรีที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศ นายกฯ ก็ไม่กล้าเข้ามาฟัง แต่เชื่อประชาชนเห็นว่านายกฯ มีความรับผิดชอบต่ำขนาดไหน

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ว่า สาเหตุที่ทำให้การพิจารณาต้องประชุมข้ามคืนต่อเนื่องถึงวันเสาร์เพราะรัฐบาลต้องการเร่งรัดให้เสร็จภายในคืนวันศุกร์ ทั้งที่ความจริงไม่สามารถยุติได้ เพราะในวันศุกร์เพิ่งพิจารณาได้เพียงแค่ 15 มาตรา ยังเหลืออีกกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งเป็นกระทรวงสำคัญทั้งสิ้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเสร็จในคืนวันศุกร์ที่ 16 ส.ค. แต่รัฐบาลพยายามจะให้ยุติให้ได้ แต่เป็นสิทธิของ ส.ส.ที่แปรญัตติสามารถอภิปรายแสดงเหตุผลได้ไม่เหมือนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ใช้เสียงข้างมากปิดการประชุมสภา จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่าไม่จำเป็นต้องประชุมข้ามคืนเพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อการพิจารณางบประมาณ และสังคมที่จะตรวจสอบการใช้เงินแผ่นดิน จึงหวังว่าการประชุมในสัปดาห์หน้าจะเป็นไปตามปกติคือหากไม่จบก็พักการประชุมแล้วประชุมต่อในวันรุ่งขึ้นจะเกิดประโยชน์มากกว่า และขอยืนยันว่าพรรคไม่ได้ยื้อให้ต้องประชุมข้ามคืน แต่เกิดจากรัฐบาลต้องการให้จบภายในวันศุกร์ จึงอยากให้เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ของตัวเองในการตรวจสอบรัฐบาล โดยเฉพาะเงินภาษีอากรของประชาชนที่จะตรวจสอบได้ในวาระที่ 1 และ 2 เท่านั้น อย่าปิดกั้นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน เพราะจะทำให้รัฐบาลมีภาพลบในสายตาประชาชนมากขึ้น

ส่วนกรณีส่อทุจริตงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรที่มีการเปิดโปงนาฬิกาติดฝาผนังเรือนละ 75,000 บาท และตู้น้ำร้อนน้ำเย็นจากเกาหลีเครื่องละ 70,000 บาท นายองอาจกล่าวว่า จะมีการอภิปรายในสภาและขอเรียกร้องให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา แสดงภาวะผู้นำของฝ่ายนิติบัญญัติเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งเรื่องนาฬิกาติดฝาผนังที่ส่อทุจริต รวมทั้งเรื่องตู้น้ำร้อนน้ำเย็นจากเกาหลีที่ส่อทุจริตด้วย เพราะฝ่ายค้านไม่สามารถขอข้อมูลได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโครงการที่ส่อทุจริตของสภาด้วย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างของสภา เพราะมีข่าวร่ำลือว่านายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จึงต้องทำความจริงให้ประจักษ์ คำสาบานในสภาไม่เกิดประโยชน์ ไม่ช่วยให้เกิดความโปร่งใสหรือเปิดเผยข้อเท็จจริงได้ แต่การกระทำต่างหากที่จะทำให้เกิดข้อเท็จจริงได้

ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ปัญหาโครงการรับจำนำข้าวว่า ตนขอย้ำว่าการที่รัฐบาลยังคงดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวต่อ เพราะเจตนาลึกๆ มีผลประโยชน์แอบแฝงในขั้นตอนการระบายข้าว ทั้งการขายแบบจีทูจีที่มีการทุจริต ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีการบวนการนี้อยู่ เพียงแต่เปลี่ยนตัวละครจากไอ้ปาล์ม เป็นมาดามกง นอกจากนั้นก็ยังมีการทุจริตในการขายข้าวให้ส่วนราชการ โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์ โดยทุจริตในขั้นตอนการขนส่งที่คิดค่าระวางการขนส่งสูงถึง 2,000 บาทต่อตัน ทั้งที่ราคาขนส่งปกติอัตราเฉลี่ย 100 กิโลกรัมข้าวสารไม่เกิน 50 บาท ซึ่งระวางราคาขนส่งขององค์การคลังสินค้าก็มีการกำหนดให้การขนส่งข้าว 50 กิโลเมตรแรกคิด 15 บาทต่อ 1 กระสอบ หาก 1 ตันมี 10 กระสอบก็คิดเป็น 150 บาท ซึ่งการระบายข้าวให้กับกรมราชทัณฑ์ที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) มอบหมายให้องค์การคลังสินค้าดำเนินการมีประมาณ 34,300 ตัน ซึ่งจะมีเงินเข้ากระเป๋าผู้ดำเนินการ 50-60 ล้านบาท

“อยากเรียกร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ควรลดการเที่ยวลงบ้าง แม้ว่าคนในรัฐบาลจะแก้ตัวว่าไปทำงาน แต่ก็ไม่เคยเห็นผลงานเลยว่า ไปต่างประเทศแล้วมีการเจรจาขายข้าวได้ ดั้งนั้นการที่ไปแล้วไม่มีผลงานก็เท่ากับไปเที่ยว และในการอภิปรายพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ หากนายกฯ เข้าร่วมประชุม ก็จะได้ข้อมูลในการทุจริตในการระบายข้าว ซึ่งก่อนหน้านี้การที่นายกฯ บอกว่าจะปราบปรามการทุจริตก็ขอให้รีบแก้ปัญหาที่ฝ่ายค้านได้อภิปรายในสภา ไม่อย่างนั้นก็จะทำให้รัฐบาลไม่มีเงินดำเนินโครงการต่อ และต้องไปลดราคารับจำนำจากชาวนาอีก” นพ.วรงค์กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น