xs
xsm
sm
md
lg

“คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 9 ส.ค. 2556 (ต่อ).....

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เติมศักดิ์ - ตอนที่ลงมติไม่เลื่อน

สนธิ - เขาต้องเดินออกจากสภาฯ หมด วอล์กเอาต์เลย วอล์กเอาต์ให้หมดเลย แล้วมาเจอมวลชนข้างนอก ถูกมั้ย

เติมศักดิ์ - ที่มาส่งคุณเมื่อเช้า

สนธิ - ที่มาส่งคุณเมื่อเช้า โดยการตั้งเวทีไว้และมาเจอ เพราะฉะนั้นในสภาฯ จะเกิดเฉพาะพรรครัฐบาลหมด ไม่มีฝ่ายค้านเลยแม้แต่คนเดียว ตรงนี้รัฐบาลก็เดินไม่เป็นนะ รัฐบาลไปไม่เป็นนะตรงนี้

เติมศักดิ์ - คือต้องไม่ไปสังฆกรรมด้วย

สนธิ - ไม่ไปสังฆกรรมด้วยเลย ทีนี้การที่จะทำเช่นนี้คนต้องคิดทะลุกรอบ และคนต้องพร้อมที่จะเสียสละ เพื่อที่จะเข้ามาเดินการเมืองทางมวลชน ทางประชาชน ต้องพร้อม เพราะว่าเติมจู่ๆ แล้ว ไอ้ค้อนปลอม ประธานสภาฯ หรือว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย มันไม่มีพรรคฝ่ายค้านอยู่เลย ไอ้พวกที่เก๋าอยู่ในสภาฯ บอกเฮ้ยๆ อย่าเพิ่ง เพราะมันเสียทางสากล

เติมศักดิ์ - ขาดความชอบธรรม

สนธิ - ไม่มีความชอบธรรมเลย ประชาธิปัตย์นอกจากไม่ทำอันนี้แล้ว ยังเสือกไปร่วมในกรรมาธิการเขาอีก ทั้งๆ ที่รู้ว่า ในกรรมาธิการก็แพ้

เติมศักดิ์ - คุณอภิสิทธิ์ลง

สนธิ - ไปให้ความชอบธรรมเขาในกรรมาธิการอีก ประชาธิปัตย์ไม่ควรให้ เพราะว่ากรรมาธิการมันตั้งมาก็พวกมันทั้งนั้น ยกมือให้ พ.ร.บ.ผ่านก็พวกมันทั้งนั้น ไม่มีฝ่ายค้านแม้แต่คนเดียว อธิบายโลกไม่ได้ แล้วไม่ใช่ประชาธิปัตย์ไม่เคยทำนะ ประชาธิปัตย์เคยทำช่วงที่ทักษิณยุบสภาฯ และสั่งให้เลือกตั้งใหม่ภายใน 30 วัน

เติมศักดิ์ - บอยคอต

สนธิ - และบอยคอตไม่เลือกตั้ง ถ้าตัวเองเคยทำอย่างนี้ ทำไมตรงนี้มึงไม่ทำ เข้าใจหรือยัง เขาพลาดตรงนี้ เขาพลาดมาก เห็นยังเติมศักดิ์ คิดดูให้ดีๆ ถ้าวันนั้นวันที่ 7 ตอนบ่าย 2 บ่าย 3 ยกมือปั๊บเขาแพ้ปั๊บ เขาวอล์กเอาต์เลย และเขามีเหตุผลในการอธิบายในการวอล์กเอาต์บอกว่า รัฐสภาทุกวันนี้เป็นรัฐสภาของการนับคะแนนเสียง ไม่ได้ฟังเหตุผล เมื่อไม่ได้ฟังเหตุผลแล้ว นี่คือเผด็จการรัฐสภา ถือว่าเสียงข้างมากจะทำอะไรก็ได้ ออกกฎหมายอะไรก็ได้เราไม่เห็นด้วย

เติมศักดิ์ - และตอนนั้นองค์กรทางสากล ก็ออกมาคัดค้านต่อต้านกัน

สนธิ - เขาไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนิรโทษฯ อยู่แล้ว มันสอดคล้องกันเลย แต่เผอิญเนื่องจากประชาธิปัตย์ติดกับดักไง เอามวลชนไปดีไหม เอาไป แต่ตายห่ายังไงก็ต้องเข้าสภาฯ และมวลชนก็บุกเข้าสภาฯ เดี๋ยวโดนดำเนินคดี กลัวไงไม่เหมือนพันธมิตรฯ ไง คือประชาธิปัตย์ถนัดที่จะให้คนอื่นติดคุกแทน แต่ตัวเองไม่ยอม

จินดารัตน์ - ไม่มีความกล้าหาญ

เติมศักดิ์ - แต่ผมสังเกตว่าเขาพยายามมาอธิบายที่หลังนะว่าใช้วาทกรรมว่านี่ไงเราแสดงให้เห็นว่าเราเป็นม็อบอารยะ เป็นม็อบผู้ดี

จินดารัตน์ - เราไม่ทำผิดกฎหมาย

สนธิ - พันธมิตรฯ เป็นม็อบอารยะมานานแล้วนะ แต่ที่มันไม่อารยะก็เพราะว่ามันมีพวกมันมาทำร้ายเรา ถามว่าพันธมิตรฯ ตั้งแต่เดินขบวนมาตั้งแต่ชุมนุมมาเคยทำกระจกใครแตกบ้างไหม เคยเผารถใครบ้างไม เคยเผายางอะไรบ้างไหม เคยยกพวกตีใครบ้างไม เราเป็นฝ่ายถูกกระทำตลอดเวลา เพราะฉะนั้นม็อบอารยะไม่ได้เริ่มจากตรงนี้ เริ่มจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตั้งแต่ปี 49 แล้ว และทุกครั้ง แม้กระทั่งการบุกเข้าไปในทำเนียบฯ เราเคยไหมที่จะไปเผาทำเนียบฯ เคยไหมที่จะไปทุบกระจกไม่มี แล้วเวลาเราไปล้อมหน้ารัฐสภาเราเคยไหมที่ทำร้ายทำลายอะไรหน้ารัฐสภาเผาอะไร ไม่เคย มีแต่เราโดนยิง

เติมศักดิ์ - แขนขาด ขาขาด

สนธิ - เราเป็นม็อบอารยะที่ถูกกระทำตลอดเวลา ที่ถูกกระทำตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้วที่เขาใช้ม็อบอารยะเขาใช้ผิด ประเด็นคือเขาพลาดไปแล้ว เขาพลาดอย่างน่าเสียดายไม่ควรจะพลาด ที่นี้การพลาดเขาครั้งนั้นเนี่ยมันเป็นการพลาดที่เขาเองอธิบายยาก เพราะเขาต้องพยายามหาความชอบธรรมอย่างน้อยได้เข้าไปได้แสดงออกได้คัดค้านอย่างเต็มที่ แล้วคุณคัดค้านเต็มที่ไหม ยังไม่ถึงคิวนายสุเทพพูดเลย มันยกมือขอปิดสภาฯ

จินดารัตน์ - ได้ 4 คนค่ะ

สนธิ - ได้ 4 คน เห็นหรือยัง

เติมศักดิ์ - ประชาธิปัตย์ 3 เองด้วย อีกอันหนึ่งภูมิใจไทย

สนธิ - เข้าใจไหม เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัดว่า ตรรกะเขาก็ไม่เวิร์กอีกแล้ว อย่างน้อยที่สุดการเข้าไปพูดในสภา ประชาชนที่เห็นการถ่ายทอดสดก็จะเข้าใจเหตุการณ์ เข้าใจเหตุผล แล้วถ่ายทอดสดมีมั้ย ก็ไม่มี เห็นหรือยัง เพราะฉะนั้นตรรกะถูกหักล้างหมด มาถึงสุดท้าย ถ้าถึงแม้นจะมีการถ่ายทอดสด คำถามก็มีอย่างนี้ ว่าทุกครั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ถ่ายทอดสดอยู่ใช่มั้ย แล้วเกิดผลอะไรมั้ย ก็ไม่เกิดเช่นกัน ถูกมั้ย ไม่ใช่ว่าการถ่ายทอดสดไม่เคยมี มีมาก่อน ทีนี้ประชาธิปัตย์นอกจากตกหลุมพราง กับดักในเรื่องความคิดแล้ว ยังตกหลุมพราง กับดักในเรื่องการหลงตัวเอง ว่าตัวเองพูดเก่ง พูดแล้วคนจะฟัง เขาตกหลุมพราง 2 หลุมพราง เห็นหรือยัง เพราะฉะนั้นตรรกะที่เขาใช้อ้างว่า 1. เขาต้องเข้าไปสู้ในสภา เพื่ออย่างน้อยที่สุด คัดค้านเต็มที่ แล้วยังไง เพราะว่าในสภามันใช้หลักคณิตศาสตร์คิดกัน มันไม่ได้ใช้หลักรัฐศาสตร์ มันไม่รู้จักใช้หลักนิติศาสตร์ ไม่ได้ใช้หลักสังคมศาสตร์ ไม่ได้ใช้หลักตรรกศาสตร์ มันใช้คณิตศาสตร์ กี่เสี่ยง ... ชนะ ... จบ เข้าใจหรือยัง

จินดารัตน์ - ใช่ว่าประชาธิปัตย์ไม่รู้นะคะคุณสนธิ จริงๆ เขาก็รู้อยู่แล้ว

สนธิ - ก็เพราะว่ามันประกอบ 2 อย่าง ประกอบอย่างแรก คือเขาหลงตัวเองว่าเขาต้องขอพูด ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ชอบพูด ข้อแรก ข้อที่ 2 ขี้กลัว ไม่กล้าทำอะไรที่นอกกรอบ เพราะสิ่งที่ผมจะแนะนำทางออกของประเทศ ผมก็เลยจะแนะนำให้เขาคิดนอกกรอบ จากนี้ไป ซึ่งไม่รู้จะได้หรือเปล่า แต่ถ้าเขาฉลาดและถ้าเขาคิดเป็น เอาอย่างนี้เติมศักดิ์ มนุษย์เรานี่ คุณเดินกับผมไป ไปถึงแล้วไปเจอทางตัน คำถามมีอยู่คำถามเดียว คุณจะทำยังไงต่อไป ให้คุณเลือก 2 ทาง ทางแรกคือ คุณก็โง่เอาหัวชนกำแพงไปเรื่อยๆ ชนไปอย่างนั้น มันตันก็ปึ้ง กลับมา ปึ้ง กลับมา นั่นคือทางแรก

เติมศักดิ์ - อย่างน้อยก็ได้ชน

สนธิ - ทางที่ 2 คุณต้องมองซ้าย มองขวา มีทางอื่นจะไปได้มั้ย ประชาธิปัตย์เลือกชนอย่างเดียว รู้ว่าไปไม่ได้ก็เลือกชน เพราะอะไร เพราะประชาธิปัตย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบเดรัจฉานในสภา ถูกมั้ย คิดให้ดีๆ ประชาธิปัตย์ไม่กล้าแหกกรอบตรงนี้ เพราะกลัว เพราะตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของระบบ ระบบนี้คือระบบอะไร ระบบคณิตศาสตร์ไง แล้วที่ประชาธิปัตย์ด่าเขาน่ะ สมัยประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ประชาธิปัตย์ทำหรือเปล่า ทำเหมือนกัน ประชาธิปัตย์ก็ทำเหมือนกัน ไอ้พรรคเพื่อไทย รัฐบาลชุดนี้มันประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ถามว่า 158 วัน มันประกาศที่เราชุมนุมอยู่ตรงนั้น เรื่องเขาพระวิหาร มันประกาศความมั่นคงกับเรามั้ย ก็ประกาศความมั่นคง ถูกมั้ย เพราะฉะนั้นอะไรที่เพื่อไทยทำ ประชาธิปัตย์ก็เคยทำ เพราะฉะนั้นแล้ว ซ.ต.พ. ทั้งประชาธิปัตย์ ทั้งเพื่อไทย คือเดรัจฉานในสภา ที่คิดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน เป็นเพียงแต่งวดนี้ คณิตศาสตร์ของเพื่อไทย ตัวเลขมันมากกว่าคณิตศาสตร์ของประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์ก็เลยไม่รู้จะทำยังไง เลยต้องพึ่งมวลชน ต้องอ้างมวลชน แล้วให้พันธมิตรฯ เป็นทัพหน้า แล้วตัวเองต่อข้างหลัง แล้วคอยฉกฉวยโอกาสทีหลัง ทีนี้พอเราไม่ออก ประชาธิปัตย์ก็เลยจำเป็นต้องสร้างมวลชนของตัวเองขึ้นมา บางคนเรียกคนใต้ขึ้นมา บางคนขับปิกอัพมา นั่งรถไฟมา แค่เนี้ย! คือไปให้ความหวังเขามาก มากจนกระทั่งเขามีความรู้สึกว่าเขาผิดหวัง แค่นี้เหรอ...?? ไป .. บางคน คนใต้บางคนขับรถปิกอัพกลับแบบไม่สนใจเลยนะ เรียกมาไม่ได้อีกแล้ว เพราะประชาธิปัตย์ไปติดหลุมพรางกับดักตรงนี้

ทีนี้ ประชาธิปัตย์วันนี้ ผมพูดเนี่ยผมอยากจะพูดให้สาวกพรรคประชาธิปัตย์ฟัง ให้ตั้งใจฟังกันให้ดีๆ คุณอยากจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองมั้ย คำว่าเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองต้องหมายความว่า ต้องไม่ยอมรับระบบเดรัจฉานในสภานี้ หมายความว่ายังไง หมายความว่าต้องพิจารณา หาทางที่จะให้ทุกฝ่ายมานั่งคุยกัน วิธีเดียวที่จะหาทางให้ทุกฝ่ายมานั่งคุยกันได้คือ พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนต้องลาออกหมดเลย ลาออกมาเดินเกมการเมืองนอกสภา แล้วการเดินเกมการเมืองนอกสภา ถ้าลาออกมา มีจิตใจบริสุทธิ์ เข้าใจ แล้วประกาศ เห็นชัดเจนเลยว่าระบบนี้ไม่เวิร์ก ก็มันไม่เวิร์กจริงๆ วันนี้ถ้าประชาธิปัตย์บอกระบบการเมืองปัจจุบันเวิร์กนี่นะ เขาต้องถอดรองเท้าตัวเองแล้วตบปากตัวเขาเอง เพราะเขาเป็นคนพูดเองนี่ ยกทั้งมือทั้งตีนก็ไม่ชนะ ก็เขาพูดเอง แสดงว่าเขาเชื่อแล้วว่าระบบนี้ไม่เวิร์ก ระบบคณิตศาสตร์แบบนี้ไม่เวิร์กแน่นอน ถ้าเขารู้ว่ามันไม่เวิร์ก เขาต้องออกมา ก็คือเดินไปทางตันแล้ว ต้องหาทางออกทางอื่นแล้ว ก็มาหามวลชน ถ้าอย่างนั้น ข้อแรก ผมพร้อมจะร่วม พันธมิตรฯ พร้อมจะร่วม แต่คุณต้องลาออกนะ พันธมิตรฯ พร้อมจะร่วม ให้คุณนำ ผมไม่ต้องการนำ ผมเป็นผู้ตามคุณ ผมยินดีตามพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคุณกล้าทำอย่างนี้ อาการเจ็บหลังของผมที่ผมโดนแทงทั้งหลัง และเจ็บหัวที่โดนยิงหัว ผมลืมได้ ผมทิ้งไว้ข้างตัวเลย เอาชาติมาก่อน ถ้าอย่างนั้นแล้ว ระดมคนทั่วประเทศไทย 7 วันต้องมีคนเป็นล้านมา วันนั้นเพื่อไทยต้องเคาะประตูแล้วขอคุยด้วย เพราะเขาต้องขอคุยด้วยทันทีเลย ขอคุยด้วยตอนนั้นล่ะ คือการที่จะมากำหนดกติกาทางการเมืองที่มีภาคประชาชนเป็นส่วนร่วม ที่ไม่ใช่พึ่งพาหลักคณิตศาสตร์ วันนั้นเป็นวันที่เจรจาได้หมดทุกอย่าง และวันนั้นอาจจะเป็นวันที่บอกว่าให้ทหารมาตั้ง หรือให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งรัฐบาลรักษาการชั่วคราว 2 ปี เพื่อมาตกลงกติกา วิธีการกันใหม่ นี่คือทางออกของประเทศไทย แต่ถ้าประชาธิปัตย์ยังจมอยู่กับความคิดโง่ๆ หวังไปเชื่อทหารบางคนที่แทงกั๊กอยู่ว่าทหารจะออกมาสลับขั้วให้ ไม่ลงมาเล่นการเมืองกับประชาชน ประชาธิปัตย์ต้องถึงเวลาต้องมาเล่นการเมืองกับภาคประชาชน ต้องลาออกเลย สละระบบการเมืองนี้ไป ผมพร้อมจะเข้ามาร่วมและผมพร้อมจะเดินตามแกนนำประชาธิปัตย์ ให้ประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ และผมไม่จำเป็นต้องมีแกนนำ ผมพร้อม จะให้ผมขึ้นเวทีพูดปราศรัยผมจะขึ้น ไม่ให้ขึ้น ผมก็ไม่ขึ้น แต่ผมจะไปแสดงความบริสุทธิ์ใจของผม ถ้าเราจะทำอย่างนี้เพื่อความบริสุทธิ์ เพื่อชาติ แต่ต้องไม่มีพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าประชาธิปัตย์อยากจะปฏิรูปการเมือง อยากทำการเมืองให้ดี ประชาธิปัตย์ลาออกมาแล้วนำไปเลย จะให้ แม้กระทั่งอภิสิทธิ์อยากนำ นำไป สุเทพอยากนำ นำไปไม่เป็นไร ผมไม่ว่า แต่คุณลาออกมาได้ไหม พิสูจน์ตรงนี้ให้ผมดูหน่อย เสียสละให้ผมดูก่อน อย่าใช้นโยบายตีกินเหมือนเดิม ถ้าอย่างนั้นแล้วผมเชื่อ อย่างน้อยที่สุด ส่วนตัวผม และผมเชื่อว่าผมพูดกับพี่ลอง ผมพูดกับพี่พิภพ หรือ อ.สมเเกียรติ ทุกคนเอาด้วย เพราะทุกคนพวกผม และพันธมิตรฯ เป็นคนที่ไม่มีผลประโยชน์กับใคร แต่เอาชาติเป็นหลัก เติมศักดิ์ เริ่มเห็นแล้วหรือยัง วิธีนี้เท่านั้นเองที่จะทำให้ทุกอย่างกลับไปสู่ที่ศูนย์แล้วเริ่มกันใหม่ด้วยความแฟร์

เติมศักดิ์ - คือไม่ต้องไปรอ ไว้แพ้วาระ 3 ก่อนค่อยคิดอีกที

สนธิ - ไม่ต้องเลย จริงๆ ควรจะวอล์กเอาต์ตั้งแต่วันที่ 7 แล้ว ที่แพ้คะแนนเสียงในการเลื่อน พ.ร.บ.วันนั้นต้องวอล์กเอาต์หมดเลย เติมศักดิ์ ถ้าคุณลาออกหมด มันไม่ใช่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ง่ายนะ ใครจะลงล่ะ แล้วประชาชน ประชาธิปัตย์มีตั้ง 12 ล้านคน พวกเราพันธมิตรฯ มีไม่ถึง 2 ล้านคน แล้ววันนั้นไม่ต้องมากินแหนงแคลงใจ ผมเป็นลูกน้องคุณได้ ผมยินดีเป็นลูกน้องคุณ ขอให้คุณมีจิตใจที่บริสุทธิ์ ที่ทำเพื่อหลักการ ทำเพื่อชาติ ไม่ใช่เพื่อระบบพรรคการเมืองห่วยๆ แบบนี้ ผมยินดี ให้คุณเป็นแกนนำเลย แต่คุณต้องนำนะ ประชาธิปัตย์ไม่มีทางเลือก ประชาธิปัตย์ต้องนำแล้ว ถ้าไม่งั้นอย่ามาหวังให้ผมออก คนสนธินั่งอยู่แล้ว ประชาธิปัตย์บอกงั้นยกประเทศไปให้มันแล้วกัน งวดนี้ถ้าแพ้ ถ้าเราจะยกประเทศให้มัน คนที่มีส่วนในการยกประเทศอย่างมากคือคุณ ไม่ใช่ผม เพราะคุณยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในการเมืองน้ำเน่า คุณไม่ยอมออกมาเสียที คุณไม่ได้ต่างจากพรรคเพื่อไทย วันนี้คุณต้องพิสูจน์จิตใต้สำนึกคุณว่า คุณไม่ใช่นักการเมืองแบบพรรคเพื่อไทย คุณไม่ใช่เดรัจฉานทางการเมือง คุณไม่ใช่เดรัจฉานในสภาฯ ออกมาชำระตัว ชะล้างเสียใหม่ ไม่ใช่คุณเป็นคนบริสุทธิ์ คุณก็ทำอะไรผิดพลาดเยอะในอดีต แต่ไม่เป็นไรพวกเราพร้อมให้อภัย ถ้าคุณพร้อมที่จะออกมา แล้วบอกว่าขอเกิดใหม่ ขอทำการเมืองให้มันสะอาด ขอทำการเมืองให้มันโปร่งใส ขอทำการเมืองให้ภาคประชาชนร่วมด้วยได้หมด คุณออกมาสิ และคุณนำเลย ผมไม่ต้องการแย่ง ไม่ใช่ควาญใหญ่โต ผมพร้อมจะเดินตามก้นคุณ ผมพร้อมจะเป็นลูกน้องคุณ และผมพร้อมจะลืมเรื่องมีดที่แทงหลังผม และปืนที่ยิงหัวผมไม่เป็นไร ช่างมัน ทิ้งไปเลย ผมไม่สนใจเอาชาติไว้ก่อน เอาประชาชนคนไทยไว้ก่อน

คุณก็รู้ คุณเป็นรัฐบาลคุณก็ไม่ได้จัดการ ปตท.เห็นไหม เพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้จัดการ ปตท.ใช่ไหม หลายเรื่อง ตำรวจ เพื่อไทยยึดตำรวจไป สมัยก่อนคุณโยกย้ายตำรวจ คุณก็ตั้งตำรวจของคุณขึ้นมา แล้วมันต่างอะไรระหว่างคุณกับเพื่อไทย เพราะระบบการเมืองแบบนี้มันทำให้พวกคุณกลายเป็นเดรัจฉานกันทุกคน ทีนี้ประชาธิปัตย์ไปหลงตัวเองว่า พูดเก่ง ทุกวันนี้คุณด่ายัยปูว่า เป็นอีโง่ คุณภูมิใจมากที่คุณได้เยาะเย้ยมัน แล้วยังไง พอมันยกพรึ่บในสภาฯ คุณก็แพ้ อ้าวคุณแพ้คนโง่ เห็นไหมเข้าใจหรือยัง เพราะฉะนั้นคำถามเติมที่สำคัญที่สุดก็คือ ประชาธิปัตย์ก้าวข้ามตรงนี้ได้หรือเปล่า

จินดารัตน์ - อะไรที่จะทำให้ประชาธิปัตย์ก้าวข้ามได้ล่ะคะ

สนธิ - ต้องเป็นคนที่มีสติ ตัวเขาต้องคิดเป็นถ้าเขาคิดไม่เป็นอย่ามาพูดว่าพวกเรายก คุณยกให้เพื่อไทยไปเลย แล้วในอนาคตถ้าเพื่อไทยปู้ยี่ปู้ยําประเทศเมื่อไรความผิดไม่ได้อยู่ที่ผมนะ อยู่ที่คุณ เพราะคุณมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนประเทศได้ คุณมีศักยภาพสูงสุดในการเปลี่ยนประเทศ คุณมี 12 ล้านเสียง เติมศักดิ์ พันธมิตรฯ มีแค่ล้านสองล้านเสียงเองจากโหวตโน แต่ถ้ามารวมกันคุณลาออกมา 10 เปอร์เซ็นต์ของ 12 ล้านเสียง ก็ล้านกว่าคนแล้ว เติมศักดิ์ ล้านกว่าคนบนถนนราชดำเนินเปลี่ยนแปลงชาติบ้านเมืองได้เลย จริงๆ ชาติบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตัวพวกคุณแต่คุณไม่ทำ คุณต้องการอย่างที่ให้ไอ้เต้นมันพูด กินแรงเพื่อน เห็นไหม ทุกอย่างต้องเกิดที่ตัวคุณ

เติมศักดิ์ - คือวันนี้ต้องไม่ไปเป็นองค์ประกอบของไอ้ความไม่ชอบธรรมในสภาฯ

สนธิ - ต้องไม่เป็น

จินดารัตน์ - ไปเป็นตรายางให้เขา

สนธิ - ไม่เป็นเลยแม้แต่นิดเดียว

จินดารัตน์ - ค่ะ

สนธิ - ใช่ไหม ผมไม่ขัดข้อง ผมพร้อมจะให้ผมดูแลเรื่องครัวก็ได้ผมยินดี นี้เรื่องจริง ให้ดูแลเรื่อง Security ผมดูแลได้ ไม่ต้องให้ผมเป็นแกนนำคุณนำไปเลย แต่ขอให้คุณมีความบริสุทธิ์ใจด้วยการลาออกมาก่อนว่าคุณไม่สนใจการเมืองแบบเก่า

เติมศักดิ์ - คือจะอ้างว่าต้องสู้กับการเมืองในสภาฯ ให้เต็มที่ให้สุดๆ ก่อน แต่ว่าการเมืองในสภาฯ หมดความชอบธรรม

สนธิ - มันหมดความชอบธรรมไปแล้ว เพราะว่ามันใช้หลักคณิตศาสตร์คิดและคุณสู้ไปทำไม คุณสู้เพื่อหาโอกาสได้พูดเหรอ และคุณพูด 3 คน เขาก็ไม่ให้คุณพูดแล้ว แล้วคุณไปสู้ในกรรมาธิการก็ไม่มีถ่ายทอดสดและในที่สุดประธานกรรมาธิการก็ยกมือ มันก็เอาตามที่มันต้องการ แล้วเกิดอะไรขึ้้น คุณกำลังซื้อเวลาเท่านั้นเอง ซื้อเวลาตาย แต่ในที่สุดคุณก็ต้องตาย สู้ดิ้นออกมาก่อนดีกว่า ออกจากมุมอับและหาทางเกิดใหม่

เติมศักดิ์ - ถ้าไปถึงวาระ 3 เขาก็อ้างได้ว่า

สนธิ - พวกคุณก็ร่วมด้วย

จินดารัตน์ - คุณร่วมสังฆกรรมด้วย

สนธิ - คุณร่วมสังฆกรรมด้วย เพราะฉะนั้นแล้วกฎหมายนิรโทษกรรมชุดนี้ถ้าผ่าน ถ้าประชาธิปัตย์ไม่ระวังตัว ประชาธิปัตย์มีส่วนทำมันสำเร็จ มีส่วนในการสร้างความชอบธรรมให้พรรคเพื่อไทย

เติมศักดิ์ - อันนี้น่าสนใจ

จินดารัตน์ - อย่างนี้ถ้าลาออกมาคุณต้องประกาศว่าคุณพร้อมที่จะปฏิรูปประเทศ

สนธิ - ถูกต้อง พร้อมจะปฏิรูปการเมืองเพื่อเอาการเมืองที่ดีนำหน้าประเทศ บริหารประเทศชาติบ้านเมือง และคุณต้องเลิกคิดพึ่งไอ้ทหารทรยศต่อชาติบ้านเมืองได้แล้ว เพราะไอ้ทหารคนที่คุณคุยด้วย มันเป็นคนของทักษิณ มันรับเงินทักษิณมา จนวันนี้คุณยังมองไม่เห็นอีกเหรอ ผมเห็นมานานแล้ว

จินดารัตน์ - ดูเหมือนเสียงในประชาธิปัตย์เองก็มีข้อเสนอแนะแบบนี้เหมือนกันนะคะ คุณสนธิ

สนธิ - ผมไม่รู้

จินดารัตน์ - ส่วนน้อยหรือเปล่า

สนธิ - ผมไม่รู้ แต่ว่าคนที่ต้องก้าวข้ามมากที่สุดก็คือ พี่ชวน พี่บัญญัติ และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

จินดารัตน์ - สุเทพด้วย

สนธิ - สุเทพด้วย ต้องก้าวข้ามให้ได้

เติมศักดิ์ - คุณอภิสิทธิ์ ผู้นำฝ่ายค้านนี่ลงมาเป็นกรรมาธิการวิสามัญด้วยตัวเองครั้งแรกในรอบ 10 ปี ซึ่งเขาอาจจะพูดด้วยความภูมิใจว่า โอ้โหเขาลงมาสู้

สนธิ - แล้วยังไงอ่ะ เติมแล้วยังไงเหมือนคำว่า กูว่าแล้ว 3 ตัว แล้วยังไง 3 ตัวเหมือนกัน

จินดารัตน์ - สุดท้ายก็รู้ว่า แพ้อยู่ดี

สนธิ - และพอผ่านวาระ 3 ปั๊บ เขาชนะ แล้วคุณจะหามวลชนที่ไหนล่ะ คุณจะมาชวนอะไรเขา บอกพี่น้องเอ้ยผ่านวาระ 3 แล้ว ผมจะมาเดินพี่น้อง คุณจะมาเดินในฐานะอะไร ก็ยังเป็น ส.ส.อยู่ใช่ไหม แล้วเข้าใจหรือยัง

เติมศักดิ์ - จริงๆ มันยิ่งไม่ชอบธรรมด้วย เพราะมันเหมือนตอนบอยคอต เขาบอยคอตยุบสภาฯ และเขาบอยคอตไม่ลงเลือกตั้ง ไม่ใช่ว่าไปเลือกตั้งแล้วแพ้ และไปบอยคอต ไม่ใช่

จินดารัตน์ - มันขี้แพ้ชวนตีไง

เติมศักดิ์ - มันต้องตั้งแต่ตอนนี้

สนธิ - ถูกต้อง

เติมศักดิ์ - เขารู้อยู่แล้วว่า คณิตศาสตร์ในกรรมาธิการ

สนธิ - เขาต้องวอล์กเอาต์ตั้งแต่วันที่ 7 แล้ว แต่ตอนนี้ยังทัน ตอนนี้เขาสามารถแจ้งได้เลยว่า เขาไม่ขอร่วมด้วย เขาขอถอนตัวจากกรรมาธิการหมดทุกอย่าง ให้กรรมาธิการเป็นของพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว ถึงแม้มันจะไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์คือ วันแรกกับวันที่ 7สมบูรณ์ที่สุด

จินดารัตน์ - เสียดายโอกาส

สนธิ - เสียดายโอกาส เพราะทำไมรู้ไหม เพราะเขาไม่ได้คิดที่จะเล่นการเมืองแบบเอาประชาชนเข้ามาร่วม เขาคิดว่าเขาจะว่าในสภาฯ และให้ประชาชนชนแทนเขา

จินดารัตน์ - หรือเลี้ยงฐานเสียง

สนธิ - เลี้ยงฐานเสียงแล้วเขาไปสู้ในสภา

เติมศักดิ์ - คือแปลว่า วันที่ 7 มันครึ่งๆ กลางๆ มันเลยออกมาเป็นอย่างนี้

สนธิ - คือจนวันนี้เขาต้องยอมรับว่า ระบบการเมืองแบบคณิตศาสตร์แบบนี้มันไปไม่ได้แล้วในประเทศไทย เขาเห็นมาตั้งกี่ยุคกี่สมัยแล้วล่ะ เขาเห็นมาตั้งแต่สมัยยุคทักษิณ ปี 2544 ครั้งแรก ทักษิณ 2 ใช่ไหม สมัคร สมชาย หรือแม้กระทั่งยุคที่อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ มันก็การเมืองแบบเดียวกันเป๊ะเลย ใครมีอำนาจก็ทำแบบนี้ แต่เผอิญเพื่อไทยมันบริหารงานถึงลูกถึงคนมากกว่า ผมไม่ต้องไปพูดถึงความผิดพลาดเขา ที่เขามีอำนาจและเขาไม่ปราบเสื้อแดง เอาล่ะ ช่างมัน เขามีโอกาสล้างความผิดในชีวิตเขาได้ด้วยการลาออก เชื่อผมสิถ้าเขาลาออกปั๊บ รัฐบาลเดินไม่ถูกเลย เดินไม่เป็นจริงๆ นะ

จินดารัตน์ - และมวลชนจะมาร่วมกับเขาเยอะ

สนธิ - มวลชนจะเยอะมากเป็นล้าน อย่างน้อยที่สุดผมเชื่อว่า พันธมิตรฯ ไปแน่ ล้านนึงไม่ใช่ว่าขั้นต่ำนะ เผลอ 2-3 ล้านคนเลยนะ ปักหลักกันเลย และคุณจะเห็นยิ่งกว่าอียิปต์ คุณจะเห็นถนนราชดำเนินนี่นะ คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ตั้งเต็นท์กันวางกันเต็มไปหมดเลย ยาวไปจนถึงโน่น สนามหลวง

จินดารัตน์ - โอกาสเหลือน้อยลงทุกทีๆ

สนธิ - ผมไม่รู้นะ แต่นี่ข้อเสนอทางออกของประเทศไง และผมพร้อมนะ เติม ผมพร้อมถึงแม้จะเจ็บหลังอยู่ ผมพร้อมจะลืมที่ใครก็ตามในยุคประชาธิปัตย์มายิงหัวผม ผมลืมความแค้นเก่าได้ และผมพร้อมจะเป็นลูกน้องคุณให้คุณนำ แต่ขอให้คุณนำ

เติมศักดิ์ - ถือว่าประกาศตรงนี้เลยนะ ถ้า ส.ส.ประชาธิปัตย์ทั้งหมดลาออก ไม่ไปร่วมสังฆกรรมกับ...

สนธิ - ถูกต้อง ผมพร้อมจะเข้าร่วมในการต่อสู้ทางการเมือง ให้การเมืองมันดีขึ้น โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ต้องการเป็นแกนนำ ให้คุณเป็นแกนนำเลย

เติมศักดิ์ - ตอนนั้นการเมืองนอกสภาฯ มันจะมีพลังมาก

สนธิ - มันจะมีพลัง และจะทำให้ทุกคนเข้ามานั่งคุยกันแล้ว ทุกคนจะนั่งคุย คือหน้าที่ของเราต้องทำการเมืองไม่ให้มีคนอย่างเช่น บรรหาร ศิลปอาชา เข้ามา สุวัจน์ ลิปตพัลลภเข้ามา เสนาะ เทียนทอง เข้ามา มันหมดยุคแล้ว พวกนี้เป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ เป็นขยะทางการเมืองที่ไม่ควรจะเอ่ยถึง ควรจะเป็นคนหนุ่ม คนมีอุดมการณ์ คนมีความโปร่งใส คนที่มีความจริงใจต่อชาติบ้านเมือง และสิ่งที่ผมพูดทุกอย่างต้องกลับไปสู่ความยุติธรรมในสังคมหมด ความยุติธรรมที่เราเรียกไม่ได้จาก ปตท. ความยุติธรรมที่เราเรียกไม่ได้กับชนชั้นอภิสิทธิ์ ความยุติธรรมที่เราเรียกไม่ได้กับกลุ่มทุน พวกนี้จะต้องถูกจัดการหมด และสิ่งที่ผมพูดมันเป็นสิ่งที่พวกเสื้อแดงที่มีปัญญาก็ต้องการไม่ใช่หรอ ถูกมั้ย เหมือนกันเลย และการสู้ครั้งนี้เราไม่ได้สู้เพื่ออภิสิทธิ์ ไม่ได้สู้เพื่อผม ไม่ได้สู้เพื่อทักษิณ ชินวัตร แต่เรารู้เพื่อประเทศไทยทั้งประเทศ เรารู้เพื่อสถาบันกษัตริย์ให้ยั่งยืน

จินดารัตน์ - เหมือนวันนี้เรากำลังจะถามคน 100 กว่าคนว่า คุณพร้อมจะเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองบ้างหรือยัง

สนธิ - ถูกต้อง และผมคิดว่าการปฏิรูปการเมืองครั้งนี้ เราต้องปฏิรูปเพื่อประเทศทั้งประเทศ ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่งเลย

เติมศักดิ์ - บางคนเขาบอกว่า ก็อาจจะต้องมีผู้นำที่มีบารมีจริงๆที่นำการเปลี่ยนแปลงนี้ได้

สนธิ - ประชาธิปัตย์มี ผมเชื่อว่าเขามี

จินดารัตน์ - แค่กล้าเท่านั้นนะคะ

สนธิ - ขอแค่ใส่ความกล้าเข้าไป ให้ไปรักษาโรคปอดก่อน

จินดารัตน์ - ปอดแหกเหรอคะ

สนธิ - ไปรักษาโรคปอดแล้วก็โอเคเลย

เติมศักดิ์ - พูดถึงปฏิรูปการเมืองที่เขาจะตั้งสภาไปเชิญบรรหารมา

จินดารัตน์ - เดี๋ยวเราจะพูดเรื่องนี้

สนธิ - ก็ต่อไปเลย

จินดารัตน์ - เราพักกันก่อนนะคะ เรื่องนี้จะยาวไปอีกเรื่องหนึ่ง เพราะแต่ละคนที่เขาไปเชิญเป็นอย่างไรบ้าง เดี๋ยวไปพักกันสักครู่ค่ะ

ช่วงที่ 3

จินดารัตน์ - กลับมาช่วงสุดท้ายค่ะ วันนี้เราได้ ... เขาเรียกว่าอะไรนะ พันธสัญญา ที่คุณเติมเรียก

เติมศักดิ์ - คำประกาศตรงนี้เลย ครั้งนี้ครั้งแรกเลยใช่มั้ยครับ ประกาศว่า ถ้า ส.ส. ...

สนธิ - ผมยังไม่ได้ปรึกษาแกนนำพันธมิตรฯ แต่ผมเชื่อ นี่ความเห็นส่วนตัวผม เชื่อว่า ผมยืนหลักนี้ ผมคุย ผมเชื่อว่าพี่ลองเอาด้วย แกนนำทุกคนเอาด้วยหมด

จินดารัตน์ - เพราะนี่คือการเอาชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง

สนธิ - เพราะว่าแต่ไหนแต่ไรแล้ว เราเอาชาติบ้านเมืองเป็นตัวตั้งตลอดเวลา เราไม่เคยได้อะไรจากการชุมนุม ไม่เคย

จินดารัตน์ - แล้วถ้าในทางกลับกัน

เติมศักดิ์ - สมมุติประชาธิปัตย์ หรือว่าแฟนๆ ประชาธิปัตย์จะเสนอกลับบ้าง ถ้างั้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สนธิ ลิ้มทองกุล จำลอง ศรีเมือง ประกาศเลย ประกาศชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันนี้ ประกาศเมื่อไรผมลาออกมาสมทบกับพันธมิตรฯ

สนธิ - ขึ้นอยู่กับว่าคนที่ให้พันธสัญญาคนนี้คือใคร ถ้าเป็นแค่สาวกประชาธิปัตย์ พวกโง่ๆ เหมือนเดิม บางคน ผมไม่ฟังหรอก แต่ถ้ามาจากคุณชวน หลีกภัย หรือมาจากคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเป็นมติกรรมการพรรค ผมเอา ผมจะทำให้ อย่าท้าผม ผมทำจริง

จินดารัตน์ - แอนว่าถ้ามันเกิดปรากฏการณ์นี้ได้จริงๆ นะ คนจะมีความสุขในการออกมา

สนธิ - อันนี้เป็นการเปลี่ยนประเทศจริงๆ

จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ

สนธิ - จะเป็นการเปลี่ยนประเทศจริงๆ และผมเชื่อว่าด้วยปริมาณคนแบบนี้ ด้วยความรู้คนแบบนี้ ด้วยชนชั้นกลาง ด้วยปัญญา ด้วยอะไรต่ออะไรที่พร้อมอยู่ มันจะทำให้ฝ่ายตรงข้าม อย่างน้อยที่สุด ฝ่ายพรรคเพื่อไทย หรือฝ่ายเสื้อแดง หรือฝ่าย นปช. ต้องมานั่งโต๊ะเจรจา แล้ววันนั้นทุกคนจะก้าวข้ามพรรคการเมืองหมดเลย และจะก้าวข้ามทักษิณ ชินวัตร ด้วย ทักษิณจะไม่มีความหมาย

เติมศักดิ์ - ตกลงย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าในทางกลับกัน ถ้ามีพันธสัญญาจากประชาธิปัตย์ ระดับชวน หลีกภัย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ระดับผู้ใหญ่

สนธิ - และกรรมการบริหารพรรค

เติมศักดิ์ - ว่าพร้อมจะลาออกก็ต่อเมื่อพันธมิตรฯ ประกาศ

สนธิ - นอกจากประกาศ เราจะเคลื่อนพลออกเลย วันที่เราเคลื่อนพลออก คุณออกเลย แล้วมาร่วมกับเรา แต่ผมไม่อยากทำแบบนี้ ผมอยากให้คุณทำ เพราะว่าผมอยากให้คุณเป็นแกนนำ เพราะผมจะตามคุณ แต่ก็ได้ ผมออกก็ได้ เมื่อคุณลาออกมาแล้ว แล้วผมจะลาออก แล้วให้คุณเป็นแกนนำ

จินดารัตน์ - เป็นฝ่ายสนับสนุน

สนธิ - ผมเป็นฝ่ายสนับสนุน นี่วัดใจกันแล้วนะ

จินดารัตน์ - งั้นมาดูทางออกของคุณนายกฯ บ้างนะคะ

สนธิ - คุณหมายถึงลิเกโรงใหญ่ใช่มั้ย

เติมศักดิ์ - สภาปฏิรูปการเมือง

จินดารัตน์ - 2 เทพเขาเดินสาย เดินสายไปเจรจา ไปเชื้อเชิญ ที่เขาอ้างว่าเป็นบุคคล เป็นผู้ใหญ่ในวงการการเมือง หรือเป็นบุคคลสำคัญ อย่างเช่น บรรหาร ศิลปอาชา คุณพิชัย รัตตกุล แล้วยังมีอีกหลายคน และข่าวล่าสุดมา บอกว่านายกฯ เตรียมสั่งกระทรวงการต่างประเทศเชิญบุคคลสำคัญระดับโลก อย่างเช่น โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โคฟี อันนัน อดีตเลขาฯ ยูเอ็น มาร่วมถกปัญหา สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติ

เติมศักดิ์ - อินเตอร์

จินดารัตน์ - โกอินเตอร์นะคะ

สนธิ - ผมจะหัวเราะ หรือผมจะร้องไห้ดี คือผมเห็นชื่อแต่ละคนแล้ว ยังไม่นับถึงโทนี แบลร์ โคฟี อันนัน คือผมคิดว่าเป็นความคิดที่โง่มาก คือถ้ามันมีอะไรที่มันยิ่งกว่าโง่ ก็อยากจะใช้คำนั้นนะ คือประการแรก แค่เขาเอ่ยชื่อเขาไปเชิญคน ผู้อาวุโสทางการเมืองเข้ามาเป็นที่ปรึกษา หรือมาเป็นคณะกรรมการแล้ว มันก็คือความพินาศฉิบหายของการปฏิรูปการเมือง เพราะคนที่เขาเอ่ยชื่อแต่ละคน คือตัวปัญหาที่สร้างระบบเดรัจฉานทางการเมืองขึ้นมา คุณบรรหาร ศิลปอาชา นี่ตัวดีเลย คุณบรรหารเป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ซ่อมแซมไม่ได้ด้วย เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ผมอ่านประวัติคุณบรรหารมา ศึกษาโดยละเอียด ผมยังไม่เคยเห็นคุณบรรหารทำอะไรที่เป็นส่วนสร้างสรรค์ หรือเสริมให้การเมืองไทยมีความโปร่งใส และที่สำคัญผมฟังคำให้สัมภาษณ์ของแต่ละคนแล้วในเรื่องของคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง พูดว่าไปเชิญมาแล้วจะตั้งคณะกรรมการกี่ชุดๆ พอเริ่มคำว่าคณะกรรมการผมก็พอรู้แล้ว เติมศักดิ์ ยิ้ม เห็นไหม

การเมืองทุกวันนี้ที่เป็นไปได้ มันเป็นอยู่คนไม่กี่คนเอง คนรุ่นเก่าๆ ที่ทำให้การเมืองเป็นอย่างนี้มีใครบ้างไหม มีชัย ฤชุพันธุ์ วิษณุ เครืองาม บวรศักดิ์ อุวรรณโณ คือคนซึ่งคิดว่า การเมืองต้องอยู่ในคอนเซ็ปต์ของการร่างรัฐธรรมนูญของฉันคือ การเมืองที่แท้จริง แต่จริงๆ มันไม่ใช่ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่กำจัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างจริงๆ แล้วไปให้อำนาจนักการเมือง

เพราะฉะนั้นนักการปฏิรูปทางการเมืองวันนี้คือการปฏิรูปเพื่อให้นักการเมืองมีอำนาจมากกว่าเก่า การปฏิรูปที่แท้จริงคือ การให้ทุกคนหยุดเล่นการเมืองก่อน 2 หรือ 3 ปี อย่างน้อยต้องมี 2 ปี ให้หยุดเลย แล้ว 2 ปีนี้เรามาหาคำตอบกันว่า เราจะปกครองกันเองด้วยวิธีใดบ้าง หาฉันทามติตรงนี้ก่อน เมื่อได้ฉันทามติแล้วเราค่อยมาร่างรัฐธรรมนูญให้มันล้อกับหลักการปกครอง ซึ่งเราตกลงกันเรียบแล้วหมด เพราะหลักการปกครองทุกคนทุกฝ่ายในสังคมต้องเห็นด้วย มุสลิมทั้งฝ่ายอีสานทางใต้ เพราะว่าวัฒนธรรม ประเพณี ของแต่ละภูมิภาคไม่เหมือนกัน คนอีสานชอบกินเหล้า ชอบเฮฮา คนใต้รักพวกรักพ้อง หลักการปกครอง หลักกลางๆ อาจจะใช้ได้เฉพาะคนใต้ แต่ใช้ไม่ได้กับคนอีสาน ฉะนั้นหลักการปกครองที่เกี่ยวกับคนใต้ อีสาน ก็ต้องแบบหนึ่ง ภาคกลางต้องแบบหนึ่ง

ถามว่า ข้าราชการที่เกษียณอายุไปแล้วตั้งแต่ระดับอธิบดีขึ้นไป คุณูปการที่มีต่อชาติบ้านเมืองมีไหม มี เขารับราชการมาจนอายุ 60 คนพวกนี้ควรจะมีสิทธิมีส่วนไหมในการที่จะเข้ามาร่วมในหลักการปกครองด้วย เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เชื้อเจ้า หม่อมหลวง หม่อมราชวงศ์ หม่อมเจ้า เขามีสิทธิ์ไหม ตระกูลศักดินาทั้งหลาย พวกผู้ดีเก่า เขาก็ควรจะมีสิทธิ์ด้วย ลูกเจ๊กลูกจีนควรจะมีสิทธิ์ไหม ก็ควรจะมีสิทธิ์ กรรมกรมีสิทธิ์ไหม มีสิทธิ์ ตรงนี้คือการมานั่งคุยกันแล้ว เพื่อที่จะเอาผลประโยชน์ของชาติมาแบ่งสันปันส่วนให้เหมาะ ตรงนี้ต่างหากเป็นเงื่อนไขสำคัญ เอาหลักการปกครองก่อน อย่าเพิ่งมานั่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ รัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ต้องหลักการปกครอง เราจะปกครองอย่างไร เราจะปกครองโดยใช้ระดับภราดรภาค Brotherhood ภราดรภาพ แปลว่าอะไร ตีความตรงนี้ก่อน เราต้องปกครองหลักการปกครองในเรื่องของสิทธิเสรีภาพในการทำมาหากินของคนต้องเท่าเทียมกัน แปลว่าอะไร สั้นๆแค่นี้ แต่กฎหมายรัฐธรรมนูญ ประกอบรัฐธรรมนูญ จะยาว สิทธิการทำมาหากินต้องเท่าเทียมไม่รังแกซึ่งกันและกัน ต้องแปลว่าอะไร แปลว่า คนที่ทำมาค้าขายเล็กๆ จะต้องไม่ถูกคนทำมาค้าขายใหญ่ๆ รังแก โชห่วยจะต้องไม่ถูกเทสโก้โลตัสรังแก นี่ไง เข้าใจหรือยัง ยกตัวอย่างแค่นี้ การศึกษาต้องเท่าเทียมกัน คำว่าเท่าเทียมกันแปลว่าอะไร ต้องอธิบายให้ฟังก่อน

เท่าเทียมกันต้องหาทางให้การศึกษาทางต่างจังหวัด มาตรฐานกับการศึกษาในกรุงเทพฯ ระดับใกล้เคียงกันสุด หรือเท่ากันที่สุด ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ หลักการพวกนี้ต้องไปทีละข้อทีละข้อ 1 ปีหลักการครบแล้ว เรามาลงประชามติกันว่า หลักการอย่างนี้โอเคไหม โอเค ต่อมาแล้วเราจะปกครองกันอย่างไร ใช้เวลาอีกประมาณครึ่งปี แล้วอีกครึ่งปีค่อยเขียนรัฐธรรมนูญ ในระหว่างนั้นควรจะมีรัฐบาลที่รักษาการไว้บริหารชาติบ้านเมืองต่อ พอทุกอย่างครบหมดแล้ว ค่อยมาหาวิธีการหาผู้ปกครองเข้ามา นั่นคือวิธีการ แต่ไม่ใช่ไปเชิญอดีตนักการเมืองบรรหาร ศิลปอาชา พิชัย รัตตกุล ไปเชิญโน้นนี่นั่นไปเสือกเอาโคฟี่ อันนัน กับโทนี แบลร์ มาทำ มันจะรู้เรื่องปัญหาเมืองไทย ก็เพราะว่าคุณไปคิดโง่ๆ แบบนี้ไง คิดว่าเอาฝรั่งที่อังกฤษไช้ไง แล้วจะเอามาใช้ในเมืองไทยเหรอ ก็ทุกวันนี้ปัญหามันมีอยู่เพราะว่า บรรดาไอ้พวกนักกฎหมายที่ผมเอ่ยชื่อไปแล้วบางคน มันไปเอาหลักการปกครองของรัฐธรรมนูญฝรั่งมา แล้วไปใส่ความคิดของตัวเองโดยที่มันไม่ถามประชาชน โดยไม่ดูความหลากหลายของแต่ละสังคม และมันก็ร่างกฎหมายจนฉิบหายป่วงมาจนทุกวันนี้ จนกระทั่งระบบการเมืองไทยเกิดขึ้นจากคนพวกนี้ จนกระทั่งกลายเป็นระบบเดรัจฉานทางการเมือง

จินดารัตน์ - หาทางเดียวที่จะแก้ปัญหาที่มันสะสมมานานต้องเริ่มต้นกันใหม่

สนธิ - มันต้องเริ่มจากศูนย์ ถ้าไม่เริ่มใหม่ไม่ได้แล้ว ไม่มีทาง คุณเอาบรรหารมา เติมเอา บรรหารจะพูดอย่างไร

เติมศักดิ์ - เอาตัวปัญหามาแก้ปัญหา

สนธิ - ผมมีหลักฐาน ผมอยากให้พ่อแม่พี่น้องให้แอนเขาอ่าน

สนธิ - เดี๋ยวนะ

จินดารัตน์ - เรื่องของบรรหาร ใช่ไหมคะ

สนธิ - สำคัญมากเลยนะ ตรงนี้สำคัญเลย ผมอยากให้อ่านมากๆ และคุณจะได้รู้ว่า บรรหารเนี้ยะจริงๆ แล้วเป็นคนยังไง 31 กรกฎาคม 2556 อ่ะเติมอ่าน ตรงสีแดงเนี้ยะ นี่คือสิ่งที่บรรหารพูด

เติมศักดิ์ - พรรคร่วมรัฐบาลได้หารือและร่วมตกลงแน่ชัดแล้วว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของวรชัย จะไม่มีการแปรญัตติในถ้อยคำ หรือแม้แต่ในตัวอักษรใด เสนอมายังไงจะคงไว้ตามนั้น

สนธิ - แสดงว่า คนอย่างบรรหารเนี้ยะ เห็นด้วยกับการที่จะนิรโทษกรรมให้กับคนที่โดนมาตรา 112 ชัดเจนไหม เพราะฉะนั้นบรรหารเนี้ยะ เขาไม่ใช่นักการเมืองที่ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่เขาทำเพื่ออำนาจ และผลประโยชน์ของเขาเอง ผมอยากให้คนสุพรรณรู้ คนพูดของบรรหารอันนี้เนี้ยะ อ่ะคุณแปลไปเลยเติมศักดิ์ แปลว่ายังไงคำพูดบรรหาร

เติมศักดิ์ - ก็คือเขาจะให้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับวรชัย

สนธิ - ทั้งชุด

เติมศักดิ์ - นิรโทษให้พวกชายชุดดำ คนเผาบ้านเผาเมือง คนก่ออาชญากรรมทั้งหลาย

สนธิ - และก็โดนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพให้ถูกนิรโทษกรรมด้วย คุณบรรหาร คุณเอาส่วนไหนของร่างกายคุณคิด วันนี้ตัวตนที่แท้จริงของบรรหารโผล่มาและ ยังไปเรียกบรรหารมาเป็นที่ปรึกษา

จินดารัตน์ - เป็นบ้านแรกเลยค่ะที่ไป

สนธิ - บรรหารนี่คือตัวปัญหาทางการเมืองไทย

เติมศักดิ์ - หรือเขาจะยังยึดเครดิตว่า เขาเคยมีคำปฏิรูปการเมือง และแก้มาตรา 122

สนธิ - เขาถูกบีบที่เขาปฏิรูปตอนนั้นเขาถูกบีบ ลำบากเติม มันเป็นลิเกโรงใหญ่และที่สำคัญคือ คนอย่างยิ่งลักษณ์ แสดงออกถึงกับพูดบอกว่า จะให้นายกฯ เป็นคนเปิดเวที ไอ้คำว่านายกฯ เปิดเวทีเป็นคำอัปมงคล เพราะว่านายกฯ คนนี้ไม่รู้เรื่องการเมืองเลยแม้แต่นิดเดียว

จินดารัตน์ - ขนาดออกมาแถลงเรื่องปรองดองยังอ่านโพยเลยค่ะ

สนธิ - ใช่ไหม เสร็จเรียบร้อยแล้ว คนที่ไม่เข้าสภาฯ คนที่ไม่เคารพในเรื่องความเห็นของคนอื่น ไม่ยอมไปฟังปัญหาเอาแต่เดินทางไปต่างประเทศตลอดเวลา เดี๋ยวก่อนค้างอยูู่นิดหนึ่ง เรื่องของเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ กลับมานิดนึงกับเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ผมไม่เชื่อ

จินดารัตน์ - ไม่เชื่ออะไรค่ะ

สนธิ - ผมต้องให้เฉลิมมายืนยันก่อนว่า เจนี่เป็นตัวจริงไม่ใช่ตัวปลอม

จินดารัตน์ - คุณพ่อรู้ถึงเรื่องเหรอค่ะ

สนธิ - แล้วผมต้องการให้เขามายืนยันว่า รูปที่ยืนถ่ายกับวัฒนา อัศวเหม ตัดต่อหรือไม่ตัดต่อลืมๆ ลืมสนิทเลย ตั้งใจอยู่แล้วไม่ได้

จินดารัตน์ - จริงข่าวใหญ่ขนาดนี้ไม่รู้หายไปไหน

สนธิ - ไม่รู้หายไปไหน ธรรมดาไม่ได้นะเรื่องตั๊ก บงกช ก็ออก เรื่องปันปันก็ออก เรื่องชนม์สวัสดิ์กับเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ต้องออกไม่ออกไม่ได้

เติมศักดิ์ - ต้องให้เขาการันตีก่อน

สนธิ - ต้องให้เขาการันตีก่อน

จินดารัตน์ - คิดถึงนะเนี่ยหายไปนาน

สนธิ - คิดถึง

จินดารัตน์ - ช่วงเนี่ยตั้งแต่คุมแรงงานต่างด้าวนี้นะคะห่างหาย

สนธิ - ตั้งแต่ไปยืนกุมไข่แล้วโดนชี้หน้าด่าที่ฮ่องกง

จินดารัตน์ - จากเรื่องนี้คุณเติมยัง

เติมศักดิ์ - ขอกลับมาที่บทสรุปของการหาทางออกให้กับประเทศว่า ทุกฝ่ายต้องเสียสละ โดยเฉพาะนักการเมืองทุกคนต้องเสียสละ คุณต้องออกจากเวทีนี้มาก่อน

สนธิ - คือประชาธิปัตย์ต้องเสียสละ เพราะประชาธิปัตย์อยู่ต่อไปก็แพ้ไม่มีประโยชน์ใช้วิธีนี้ดีกว่า มันหมดยุคแล้วของการใช้คณิตศาสตร์ดำเนินการการเมืองในสภาฯ มันหมดยุคแล้ว มันหมดยุคจริงๆ นะ เพราะถ้ายังยึดหลักคณิตศาสตร์ว่า ใครเสียงมากกว่าคนนั้นสามารถทำอะไรก็ได้ วันนี้การเมืองไทยเป็นอย่างนี้ใครมีเสียมากในสภาฯ สามารถทำอะไรก็ได้ โดยอ้างคำว่ามาจากประชาชนอันนี้คือลับลวงพราง อันนี้คือหลุมพรางกับดักที่ประชาชนทุกคนโดนหมด ผมมาจากประชาชนคนที่ชอบพูดอย่างนี้คือ เฉลิม คำถามก็คือว่าคุณมาจากประชาชน คุณมายังไงบริสุทธิ์ยังผมยังไม่รู้เลย แต่เอาเป็นว่าคุณมีเสียงมากกว่านี้แสดงว่า คุณมีสิทธิ์ทำ โทษนะ เหี้ยอะไรก็ได้ใช่ไหม

เติมศักดิ์ - คือหวังว่าจะไม่มีการไปบิดเบือนนะว่านี้คุณสนธิเสนอแบบนี้ ต้องการให้พวกเขาสุดซอยกันใช่ไหม แปรญัตติสุดซอยเลย เปิดทางให้โจรปล้นเลยใช่ไหม ทุกวันนี้มันก็ปล้นอยู่แล้ว

สนธิ - เอางี้ คุณไปไม่ค้านในกรรมาธิการแล้วคุณชนะไหม คุณก็แพ้ และพอเข้าวาระ 3 คุณยกมือคุณชนะไหม คุณก็แพ้แล้วยังไงอ่ะ คุณอยู่หรือไม่อยู่คุณก็แพ้ ฉะนั้นคุณอยู่ให้หนักไข่ทำไมล่ะ เข้าใจเปล่า ทำไมเมื่อไรจะเลิกโง่เสียที เมื่อไรจะเลิกงมงายเสียที เมื่อไรถึงจะมีปัญญาเสียที โอกาสมีที่จะเปลี่ยนแปลงชาติบ้านเมืองได้ อย่าใช้ระบบตีกินเหมือนเดิม ต้องออกมา ปฏิรูปการเมือง ทางออกของประเทศไทย อยากได้ต้องออกแรง นอกเสียจากว่า คุณอยู่ต่อไปๆ ถ้าคุณไม่ออก ผมเกรงว่าคุณจะแอบจับมือกับพรรคเพื่อไทย แล้วร่วมรัฐบาลกัน ใช่หรือเปล่า

เติมศักดิ์ - มีคนคิดทฤษฎีนี้เหมือนกัน

สนธิ - ก็เป็นไปได้สูง เพราะถึงจุดๆ หนึ่งแล้ว เรามาพิจารณาแล้ว เนื่องจากชาติบ้านเมืองต้องการความปรองดอง เราก็เลยคิดว่าน่าที่จะมา มีโอกาสที่จะมาทำงานร่วมกัน เพื่อจะปรองดองชาติบ้านเมือง ก็ขอเข้ามาร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นไปได้

เติมศักดิ์ - ซึ่งก็อาจจะมีคนในพรรคไม่เห็นด้วย เช่น คุณชวน หลีกภัย แต่ ...

จินดารัตน์ - แต่ ... เสียงส่วนใหญ่ของพรรค เป็นมติพรรค ก็มีคนพันธมิตรฯ เขาอยากฝากไปถึงบรรดาพ่อยก แม่ยก ประชาธิปัตย์ด้วยนะคะ เขาบอกว่าวันนี้พวกคุณจะต้องเสียสละ คือเขาลาออกจาก ส.ส.เขาไม่ตายกันหรอก แต่ให้เห็นชาติเป็นที่ตั้ง อย่าคิดว่ารักพวกเขา ไม่อยากให้พวกเขาต้องเสียสละจากการเป็น ส.ส. อย่าคิดตื้นๆ แค่นั้น พวกคุณก็ต้องเสียสละด้วยเหมือนกัน

เติมศักดิ์ - เพราะตอนนี้บ้านเมืองมันไม่ปกติแล้ว แล้วตอนนี้ก็หัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญนะ ถ้าเขาผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้สำเร็จ

จินดารัตน์ - ต้องยกประเทศให้มันจริงๆ แล้วล่ะ

เติมศักดิ์ - สู้สร้างความเปลี่ยนแปลงตอนนี้ดีกว่า อย่าไปรอให้ถึงวาระ 3

จินดารัตน์ - แต่อย่างว่านะคะ หมอเขาก็ฝากบอก ส.ส.ประชาธิปัตย์มา บอกว่าช่วงนี้ให้ระวังความดันนิดหนึ่ง

สนธิ - ดันทุรัง

จินดารัตน์ - ดันทุรังสูง มันจะสูงปรี๊ด

สนธิ - โรคความดัน โรคปอด โรคตา เป็นกันหมด

จินดารัตน์ - เดี๋ยวเราจะปิดท้ายกันนิดหนึ่งนะคะ เรื่องของคำสั่งผลชันสูตร 6 ศพ วัดปทุมฯ ที่เห็นท่าทีแม่ทัพนายกองแล้ว อยากจะร้องไห้เหมือนกันนะคะ คุณสนธิ เขาบอก จะให้เขาทำยังไง กระบวนการอยู่ในชั้นศาล แค่ไต่สวนเอง ขนาดพูดถึงว่าปกป้องสถาบันยังไง เขายังบอกว่า แล้วจะให้ผมทำอะไร จะให้ผมเอาอาวุธยุทโธปกรณ์ออกไปปกป้องเหรอ

เติมศักดิ์ - แล้ว พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็จะไม่ครอบคลุมถึงทหารด้วย อย่างที่เขาพยายามจะพูด

สนธิ - คือวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้ดูแลหรือว่ารับผิดชอบในผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองเลย คนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าออกรบ เป็นหัวหน้าหน่วยรบไม่ได้ ลูกน้องตายห่าหมด เพราะไม่ปกป้องลูกน้อง คือ พูดง่ายๆ ว่า ให้ลูกน้องไปตายก่อน โชคดีที่เขาไม่เคยรบ ถ้าเขาเคยรบ เขาเป็นผู้บัญชาการหน่วยรบนี่ ผมคิดว่า เขาคงสั่งลูกน้องวิ่งไปข้างหน้าแล้วตาย เขาปล่อยลูกน้องเขาตาย ไม่เรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกน้องเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีการแสดงออกที่ชัดเจนเลยแม้แต่นิดเดียวว่า เขารักลูกน้องเขา เขาจะเลือกรักเฉพาะลูกน้องเขาบางคนเท่านั้นเองที่ใกล้ชิดเขา แต่เขาไม่ได้รักทหาร ประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ได้รักทหาร ถ้ารักทหาร ประยุทธ์ไม่ทำอย่างนี้ ประยุทธ์ต้องออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เขาต้องไม่หยุดยั้งในการเรียกร้องความยุติธรรม และเขาต้องเรียกร้องตั้งแต่วันแรกที่ พล.อ.ร่มเกล้าถูกยิงตาย มาจนวันนี้เขาต้องไม่หยุด

จินดารัตน์ - เขายอมได้ไงนะคะว่า วันนี้มันเป็นรัฐตำรวจ

สนธิ - อาจจะเป็นเพราะว่า ลึกๆ เขาไม่ใช่ทหารก็ได้มั้ง เขาคือนักการเมืองในเครื่องแบบทหาร และผมเชื่อว่าเขาต้องคือ ทักษิณไว้ใจเขามาก ต้องมีเหตุในการไว้ใจ และวันนี้เขาแสดงออกและ ว่านี่แหละทำไมทักษิณถึงไว้ใจ

เติมศักดิ์ - จะให้ผมปกป้องด้วยอะไรล่ะ ด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์หรอ แหมมีการย้อนถามด้วย

จินดารัตน์ - มีอาการ เขาบอกมีอาการเหมือนอะไรบางอย่าง

สนธิ - เหมือนกับรู้ว่า ตัวเองคุมไม่ได้แล้ว เหมือนกับรู้ว่า ตัวเองคุมลูกน้องไม่ได้ เพราะผมรู้อยู่แน่นอนเลยว่า ลูกน้องเขาส่วนใหญ่ไม่เอาเขาและ เพียงแต่ว่าวินัยทหารทำให้ไม่พูดเท่านั้นเอง ถ้ามีของตกแตกดังเพล้งล่ะก็ตัวใครตัวมันแล้วคราวนี้ วิ่งกันให้ป่าราบก็แล้วกัน

เติมศักดิ์ - เป็นไปได้ไหมครับว่า มันจะเกิดคลื่นใต้น้ำ

สนธิ - มันมีอยู่แล้วตอนนี้ มันมีอยู่ตลอดเวลา

จินดารัตน์ - ถึงหงุดหงิดขนาดนี้

สนธิ - หงุดหงิดมาก

จินดารัตน์ - สกัดกั้นอารมณ์ไม่ค่อยอยู่

สนธิ - เหมือนกับรู้แล้วว่า มีอยู่มากพอสมควรที่ตัวเองคุมไม่ได้แล้ว

จินดารัตน์ - คงอยากนับถอยหลังให้ถึงวันเกษียณเร็วๆ

สนธิ - จะได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหมหรอ

เติมศักดิ์ - ตอนนี้ก็เป็นอยู่เป็นเงา รัฐมนตรีกลาโหมเงา

จินดารัตน์ - ค่ะ วันนี้ไม่มีคำถามแล้วกันนะคะ เราจะยกยอดไปสิ้นเดือนทีเดียว

สนธิ - สิ้นเดือนทีเดียว

จินดารัตน์ - หวังว่าวันนี้คุณผู้ชมทางบ้านที่ชมรายการ พวกเราก็เชื่อนะคะว่า พันธมิตรฯ มีสติอยู่เสมอ มีปัญญามีสติ ขอให้อีกหลายๆ คนที่ฟังด้วยอคติลองเปิดใจกันหน่อย

สนธิ - เปิดใจมีสติบ้าง วันนี้ผมไม่ได้พูดเฉพาะเพื่อพรรคประชาธิปัตย์นะ เพื่อสมาชิกสีฟ้านะ คนเสื้อแดงที่มีปัญญาคิดด้วย ผมคิดว่าถ้าคุณก้าวข้ามทักษิณได้ สิ่งที่คุณ ถ้าคุณตัดทักษิณทิ้งไป และคุณยอมรับในสถาบันกษัตริย์เนี้ยะ ผมคิดว่าการต่อสู้เพื่อความอยุติธรรม คุณกับผมเหมือนกันไม่ได้ต่างอะไรกันหรอก ผมยังติดอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกผมคิดว่า คุณต้องก้าวข้ามทักษิณให้ได้ เพราะถ้าไม่งั้นแล้ว คุณทำทุกอย่างในชีวิตเพื่อทักษิณคนเดียว
เรื่องที่ 2. ผมเอาสถาบันกษัตริย์ ถ้าคุณไม่เอาก็ช่วยไม่ได้ เราอยู่คนละฟากกัน แต่ถ้าคุณคิดว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสถาบันกษัตริย์ยังมีความจำเป็นต่อสังคมไทยอยู่ และคุณก้าวข้ามทักษิณได้ คุณกับผมไม่ได้ต่างอะไรกัน ต่างกันแค่สีเสื้อเท่านั้นเอง และถ้าคุณพร้อมจะไม่เอาการเมืองน้ำเน่าแบบนี้ เราก็คิดเหมือนกัน

เติมศักดิ์ - ลองเก็บไปคิดสักคืนสองคืนข้อเสนอนี้ และได้คำตอบยังไงก็บอกด้วยนะ

จินดารัตน์ - บอกด้วย กระซิบบอกด้วยนิดนึงนะคะ จะได้รู้ว่ารู้สึกอย่างไรกันนะคะ วันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามชมนะคะ วันศุกร์หน้าจะมีเซอร์ไพรส์อีกไหม

สนธิ - ไม่แน่ของแบบนี้ แต่ถ้ามีเซอร์ไพรส์อยากให้เติม แต่วันนี้ไม่มีใครรู้ก่อนเลยใช่ไหม

จินดารัตน์ - ไม่รู้ค่ะ แอนกับคุณเติมศักดิ์ก็ไม่รู้

เติมศักดิ์ - โฆษณาสภาท่าฯ พรุ่งนี้ล่วงหน้าละกันว่า เดี๋ยวเขาจะ follow ข้อเสนอของคุณสนธิ

สนธิ - มีอาจารย์ปานเทพกับคุณคำนูณ

เติมศักดิ์ - พี่ประทีป

จินดารัตน์ - งั้นวันนี้ลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ/ครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น