“บรรหาร” เปิดบ้านต้อนรับทีมถกปฏิรูป “วราเทพ” บอกนายกฯ ฮัลโหลเมื่อคืนให้มาคุย ก่อนแถลงร่วม เจ้าตัวยินดีร่วมมือ ชี้ยากแต่ก็ดีกว่าไม่เริ่้ม อ้างไม่เกี่ยวนิรโทษกรรมต้องเดินต่อ “พงศ์เทพ” ปัดรัฐยื้อเวลา อวยแก้ในชั้น กมธ.ได้ ทางด้าน “นพดล” ชู “ปู” ไอเดียบรรเจิดหาทางออกประเทศ ลั่นถ้าเป็นโรดแมปต้องทำตาม เผย “ทักษิณ” เห็นด้วย
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่บ้านศิลปอาชา เขตบางพลัด กทม. นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดบ้านพักต้อนรับนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อหารือถึงแนวทางการเปิดเวทีปฏิรูปการเมืองไทย ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนายังมีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และนายนิกร จำนง ส.ส.พรรค ร่วมหารือด้วย
ทั้งนี้ นายวราเทพกล่าวสั้นๆ กับนายบรรหารก่อนการหารือว่า นายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์สายตรงมาถึงตนเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. เพื่อมอบหมายให้มาพูดคุยในครั้งนี้ ภายหลังหารือเสร็จสิ้นจะมีการแถลงข่าวร่วมกัน
โดยภายหลังจากที่มีการหารือและประสานเชิญเข้าร่วมเวทีหารือเพื่อปฏิรูปการเมือง ร่วมกับรัฐบาล นายบรรหารพร้อมด้วยนายพงศ์เทพ และนายวราเทพ แถลงข่าวว่ายินดีที่จะเข้าร่วมการหารือกับทุกกลุ่มการเมือง ทุกสี เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมือง ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เทียบเชิญมา แม้หลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องยาก แต่ก็ดีกว่าไม่เริ่มทำอะไร ซึ่งความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ขณะที่ยืนยันว่าต้องแยกส่วนกันกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่อยู่ในวาระของสภาขณะนี้ โดยไม่เกี่ยวกับการจะถอนวาระดังกล่าวออกจากสภา ซึ่งยังคงเดินหน้าพิจารณากฎหมายต่อไป
ขณะที่นายพงศ์เทพปฏิเสธว่า การเปิดเวทีหารือของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ไม่ได้เป็นต้องการยื้อเวลาของรัฐบาลแต่อย่างใด เพราะมีวาระเหลือถึง 2 ปี และการพิจารณากฎหมายของสภาต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน หากจะมีการแก้ไขสามารถทำได้ในชั้นกรรมาธิการ
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่า เป็นไอเดียของนายกฯ ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ที่มีการผลักดันที่จะมี ส.ส.ร.ก็เกิดปัญหา ดังนั้น นายกฯ เลยคิดนอกกรอบเชิญทุกภาคส่วนรวมทั้งที่เห็นต่างจากรัฐบาลมาพูดคุยกัน ซึ่งน่าจะช่วยหาทางออกให้ประเทศได้ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่นั้นอย่างน้อยก็เป็นความตั้งใจของนายกฯ ที่อยากจะหาทางออก และหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรให้ความร่วมมือโดยการตอบรับด้วย เพราะประชาชนจับตาดูอยู่ และเมื่อพูดคุยกันเสร็จกระทั่งได้เป็นโรดแม็ปอย่างไร ทุกฝ่ายก็ต้องปฏิบัติตามด้วย
นายนพดลกล่าวว่า ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เห็นดีเห็นงามในเรื่องนี้ เพราะเป็นความพยายามในทางหาทางออกให้กับประเทศ โอบอุ้มทุกภาคส่วนให้ขึ้นรถไฟขบวนแห่งความปรองดองซึ่งจะจอดทุกสถานี
เมื่อถามว่า จำเป็นที่จะต้องถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ออกจากวาระการพิจารณาของสภาฯ ก่อนหรือไม่ นายนพดกล่าวว่า เป็นคนละส่วนกัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่อยู่ในสภาฯ พรรคประชาธิปัตย์สามารถอภิปรายรวมทั้งแปรญัตติได้ ทั้งนี้ หากเสียงข้างน้อยในสภาฯ สามารถกำหนดทิศทางในสภาฯ ได้ จะทำให้เสียงข้างน้อยงอมืองอเท้า ไม่ยอมสร้างความดีวามเพื่อให้ประชาชนเลือกให้เสียงในสภาฯ เพิ่มขึ้น
