ผอ.ศปก.กปต.เรียกถกทีมคุยบีอาร์เอ็น โต้คลิปบีอาร์เอ็น สุดงงท่าทีโจรใต้ ดึง “พงศพัศ” ร่วมทีม ให้ “ภาณุพงศ์” ประสาน ผบ.ทบ. ด้านเลขาฯ สมช.เชื่อเล่นจิตวิทยา เล็งซักฝีมือใคร เผยเห็นตรงกันลดใช้กฎหมายพิเศษ ขณะที่รองปลัด กห.ย้ำนโยบายลดรุนแรง
วันนี้ (30 พ.ค.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) เรียกประชุมคณะเจรจาฝ่ายไทย ที่จะเดินทางไปพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ที่ประเทศมาเลเซีย ประกอบด้วย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม นอกจากนี้ ยังได้เชิญ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าร่วมหารือ
ภายหลังการประชุม ร.ต.อ.เฉลิมเปิดเผยว่า สำหรับกรณีที่กลุ่มบีอาร์เอ็นเผยแพร่คลิปวิดีโอบนเว็บไซต์ยูทิวบ์กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ไทยเป็นผู้ก่อเหตุความรุนแรง เช่น เหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุวางระเบิดขบวนรถรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และกราดยิง 6 ศพที่ จ.ปัตตานี ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าไม่เป็นความจริง ยืนยันว่ารัฐบาลไทยไม่เคยปฏิบัติเช่นนั้น และค่อนข้างแปลกใจกับท่าทีของกลุ่มบีอาร์เอ็นครั้งนี้ โดยหลังจากนี้ต่อไปหากมีการสื่อสารที่ไม่ตรงต่อข้อเท็จจริง ศปก.กปต.จะเป็นผู้ชี้แจงอย่างละเอียด โดยได้เชิญ พล.ต.อ.พงศพัศมาร่วมเป็นคณะกรรมการ ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าคณะทำงานชุดนี้ไม่มีการประสานกับฝ่ายกองทัพนั้น ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เป็นผู้ประสานโดยตรงถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แล้ว
ขณะที่ พล.ท.ภราดรกล่าวเสริมว่า สิ่งที่กลุ่มบีอาร์เอ็นโพสต์ในยูทิวบ์เป็นการปฏิบัติการทางจิตวิทยาที่เขาได้เสนอข้อเสนอมาและอยากได้คำตอบ และเราพร้อมที่จะรับฟัง การที่กลุ่มบีอาร์เอ็นแจ้งว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุความรุนแรง แต่กลับบอกว่าฝ่ายไทยเป็นผู้ทำถือว่า เป็นสิ่งที่ต้องการความสงบร่วมกันตรงนี้ก็ต้องมาหาข้อเท็จจริง ในการพูดคุยครั้งต่อไปจะได้มีการพิสูจน์ทราบว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นเกิดจากใคร ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากขบวนการ หรือภัยแทรกซ้อน จะต้องหาข้อเท็จจริงร่วมกันที่จะแก้ไขปัญหาสู่ความสงบ ที่ต้องการร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนซึ่งไทยให้ความสำคัญตรงนี้ปฏิบัติตามกฎหมาย และเราต้องการที่จะอำนวยความยุติธรรมให้แต่ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญไทย สิ่งสำคัญที่ได้มีพูดคุยกันคือ การลดการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ และไทยมีความต้องการอยู่แล้ว แต่ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามที่ก่อเหตุความรุนแรงต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจที่จะลดความรุนแรงในพื้นที่
ด้าน พล.อ.นิพัทธ์กล่าวว่า จุดยืนของไทยเราได้รับนโยบายที่ชัดเจนจากผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้ลดความรุนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้ยืนยันกับฝ่ายที่เราพูดคุยด้วยตลอดมาและการพูดคุยในครั้งนี้เรายังยึดหลักนี้อยู่ เพราะเป็นการตอบสนองความต้องการของคนไทยทั้งประเทศที่ต้องการเห็นภาคใต้มีความสงบ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่เราพูดคุยด้วยคือตัวจริงหรือไม่นั้น เรามีข้อมูลด้านการข่าวเกี่ยวกับบุคคลที่เราพูดคุยอยู่ในขณะนี้ระดับหนึ่ง และรัฐบาลมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยครั้งนี้ เราให้เกียรติรัฐบาลมาเลเซียสิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่เรายึดถือ